เอสเทรคตัดสินใจนำเข้าผลิตภัณฑ์คุณภาพแบรนด์ ‘อีซี่วิซ (EZVIZ)’ จากสหรัฐอเมริกาเข้ามาเสนอเป็นทางเลือกใหม่แก่กลุ่มลูกค้าในไทย โดยประสบความสำเร็จด้านการทำตลาดอย่างมากในอเมริกาและยุโรป ประเทศไทยถือเป็นแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิกที่อีซี่วิซเล็งเห็นถึงศักยภาพที่จะเข้ามาขยายธุรกิจ โดยเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญด้านคุณภาพ ราคาสมเหตุสมผล
ณัฐวร สาครสินธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด
ณัฐวร สาครสินธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสเทรค (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าปัจจุบันกลุ่มสินค้า Action Camera และ Cloud Camera and Smart Home Solution ถือเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตราการเติบโตอย่างมากในประเทศไทย ด้วยเหตุนี้เอสเทรค (ประเทศไทย) จึงได้ตัดสินใจนำเข้าผลิตภัณฑ์คุณภาพแบรนด์ ‘อีซี่วิซ (EZVIZ)’ จากสหรัฐอเมริกาเข้ามาเสนอเป็นทางเลือกใหม่แก่กลุ่มลูกค้าในไทย โดยอีซี่วิซถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดแบรนด์หนึ่งของโลก และประสบความสำเร็จด้านการทำตลาดอย่างมากในภูมิภาคอเมริกาและยุโรป เพราะนอกจากความเชื่อมั่นด้านคุณภาพแล้ว อีซี่วิซยังรวมทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิจัยและพัฒนาให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ครบครันด้านฟังก์ชั่นการใช้งาน สวยงามด้านการออกแบบเพื่อเติมเต็มความต้องการของกลุ่มลูกค้าแบบไม่ตกเทรนด์ แบรนด์อีซี่วิซจากสหรัฐอเมริกาประกอบด้วย
"ต่อคำถามเกี่ยวกับโอกาสในการทำตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวในประเทศไทยนั้น Action Camera มีการเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด มีผู้เล่นในตลาดน้อยราย โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าที่อยู่ในเซกเมนต์ระดับบน ทำให้อีซี่วิซสามารถแชร์ส่วนแบ่งทางการตลาดได้อีกมาก เพราะสินค้ากลุ่มนี้ยังมีกำลังซื้ออยู่มากหากวางกลยุทธ์ทางการตลาดตรงกับไลฟ์สไตล์ นำเสนอสินค้าที่ครบเรื่องฟีเจอร์หรือฟังก์ชั่นก็จะนำไปสู่การสร้าง Community ของแบรนด์อีซี่วิซในไทย สร้างประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถครองความนิยมในตลาดเมืองไทยได้ไม่ยาก เช่นเดียวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Cloud Camera & Smart Home Solution ที่ยังมีความต้องการของตลาดอย่างมาก เพราะปัจจุบันจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีมากกว่า 38 ล้านรายชื่อที่จดทะเบียนการใช้อินเทอร์เน็ต เชื่อว่ายังมีกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการความสะดวกสบายและเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อใช้ในการเฝ้าระวังพื้นฐานที่จำเป็นอย่างมาก สามารถปรับใช้กับบ้าน สำนักงาน รวมทั้งกลุ่ม SOHO และ SME ซึ่ง Cloud Camera & Smart Home Solution คือคำตอบของกลุ่มดังกล่าว” ผู้จัดการทั่วไปของเอสเทรคแสดงความเห็น
เอสเทรคตั้งเป้ายอดขายของ Action Camera ไว้ประมาณ 50 ล้านบาท ส่วนยอดขาย Cloud Camera & Smart Home Solution ตั้งไว้ประมาณ 120 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2559 โดยจะมีการสร้างการรับรู้ในแบรนด์และผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง สร้างสรรค์กิจกรรมให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมผ่านกิจกรรมการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ออกบูธในอีเวนต์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผนึกพลังกับพาร์ตเนอร์แบรนด์เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญอย่างมากเกี่ยวกับการบริการหลังการขาย ซึ่งปัจจุบันเอสเทรคมีศูนย์บริการหรือ Drop Point ที่รวดเร็ว ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ ด้านช่องทางจำหน่ายจะจำหน่ายผ่าน Modern Trade, I Studio, ร้านจำหน่ายสินค้าด้านไลฟ์สไตล์ อาทิ กล้องถ่ายรูป, จักรยาน กีฬาเอ็กซ์ตรีม และการท่องเที่ยว รวมทั้งร้านจำหน่ายอุปกรณ์เสริมต่างๆ
“เนื่องจาก Social Media และ IOT ยังคงเป็นเป็นกระแสนิยมอย่างต่อเนื่อง ทางเอสเทรคก็ต้องติดตามและนำสินค้าที่มีคุณภาพรวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์ให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ ซึ่งในส่วนนี้ก็ยังเป็นการเสริมทัพให้เอสเทรคมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น เพราะสินค้าที่ทางเรานำเข้ามานั้นจะต้องถูกคัดสรรเฉพาะที่มีคุณภาพและได้รับความไว้วางใจ รวมถึงราคาที่สามารถทำให้ลูกค้าพึงพอใจได้ด้วยเช่นกัน โดยในปีนี้เอสเทรคได้ขยายการจำหน่ายสินค้าไปยังกลุ่มไลฟ์สไตล์เพื่อให้บริษัทมีสินค้าที่จำหน่ายสู่ตลาดอย่างหลากหลายมากขึ้น และยังสามารถเพิ่มช่องทางการจำหน่ายใหม่ รวมถึงเพิ่มยอดขายให้แก่เอสเทรคด้วยเช่นกัน” ณัฐวรกล่าวสรุป
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.
ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด