บริษัท เน็ตมาร์ค (ประเทศไทย) จำกัด
คอลัมน์ Executive Talk ในฉบับนี้เราจะพาไปรู้จักกับผู้บริหารคนสำคัญคนหนึ่งของบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์ที่มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ถึงมุมมองในการเลือกใช้ระบบไอทีและโครงข่ายในองค์กรว่ามีเกณฑ์สำคัญในการพิจารณาอย่างไร
เราได้มีโอกาสมาพูดคุยกับคุณ อีริก โคเมิร์ต (Comert Eric) ซึ่งเป็น IT Delivery & Support Area Manager – South-East Asia ของ บริษัท เมล็ดพันธุ์เอเชีย ซึ่งมีหน้าที่ดูแลบริหารและสนับสนุนด้านไอที บริษัท เมล็ดพันธุ์เอเชีย จำกัด ซึ่งมีเครือข่ายบริษัทอยู่ในหลายประเทศ การขยายสาขาลงไปในแต่ละประเทศเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยสำหรับการลงไปจัดการทำทุกอย่างด้วยตนเอง สำหรับผู้ที่ไม่ใช่คนพื้นถิ่น จึงเป็นที่มาของการเอาต์ซอร์สหาใครสักคนมาเป็นผู้ช่วยหรือหุ้นส่วนที่มีความเชี่ยวชาญและไว้วางใจได้คอยช่วยดูแล เราจะมาดูกันถึงแนวคิดมุมมองในการคัดสรรผู้ที่จะมาเป็นผู้ช่วยในส่วนขับเคลื่อนองค์กรที่สำคัญส่วนนี้
บริษัท เมล็ดพันธุ์เอเชีย หรือ Seed Asia Company Limited เป็นบริษัทย่อยหนึ่งในกลุ่มบริษัท ลีมาเกรน (Limagrain) จาก ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีธุรกิจหลักเกี่ยวกับการผลิตและพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อการส่งออกครบกระบวนการ ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา คัดเลือกสายพันธุ์ จนถึงผลิตออกสู่ท้องตลาด โดยเมล็ดพันธุ์พืชที่กลุ่มบริษัท Limagrain ได้มีการผลิต แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ เมล็ดพันธุ์พืชไร่ (Field Seeds) ได้แก่ เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด ข้าวสาลี เมล็ดพันธุ์ทานตะวัน เมล็ดพันธุ์พืชที่นำมาสกัดเป็นน้ำมัน (rapeseed) ต่างๆ ส่วนที่ 2 จะเป็นส่วนของ เมล็ดพันธุ์พืชผักและพืชพรรณไม้ประดับ (Vegetable Seeds) ได้แก่ เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ แตงโม พริกไทย แครอท และเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ต่างๆ ส่วนที่ 3 จะเป็น ผลิตภัณฑ์จากเมล็ดธัญพืช (Cereals) ต่างๆ ได้แก่ แป้งข้าวสาลี แป้งข้าวโพด สำหรับทำเป็นแป้งธัญพืชสำเร็จรูปในอุตสาหกรรมอาหาร ขนมปัง เบเกอรี่ หรืออาหารที่มีเส้นใยสูง จนถึงเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ (Bioplastics)
ในส่วนของบริษัทเมล็ดพันธุ์เอเชีย (ประเทศไทย) จะเน้นการวิจัยและผลิตที่เมล็ดพันธุ์พืชไร่ลูกผสมเขตร้อน เช่น เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดไร่ ข้าวโพดหวาน เมล็ดทานตะวัน รวมทั้งเมล็ดพันธุ์พืชผักลูกผสมอื่นๆ เช่น เมล็ดพันธุ์แตง เมล็ดพันธุ์มะเขือเทศ เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีงานวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวโพด และเมล็ดพันธุ์พืชไร่พิเศษอื่นๆ โดยดำเนินธุรกิจในแบบเกษตรกรรมสัญญารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรผู้ปลูก โดยมีเครือข่ายเกษตรกรและผู้แทนจำหน่ายในหลายประเทศแถบเอเชีย เช่น ไทย พม่า กัมพูชา อินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา บังคลาเทศ บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2536 และตั้งสำนักงานในประเทศไทยในปี 2557
กลุ่มบริษัทลีมาเกรนเติบโตเร็วมากนับแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2508 จากธุรกิจเมล็ดข้าวโพด ณ ตอนนี้ในสายธุรกิจเมล็ดพันธุ์ลีมาเกรนใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งถือว่าน่าพอใจเพราะเราทำธุรกิจเกี่ยวกับเมล็ดพันธุ์อย่างเดียว ไม่ได้มีเคมีภัณฑ์เกษตรด้วย มีเครือข่ายการผลิตเชื่อมโยงกันทั่วโลกในชื่อที่แตกต่างกัน บริษัท เมล็ดพันธุ์เอเชีย ก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่เน้นการวิจัยและผลิตเมล็ดพันธุ์พืชเขตเมืองร้อนโดยเฉพาะประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เรื่องธุรกิจมั่นใจว่าเติบโตขึ้นแน่ๆ ถึงแม้ผลการดำเนินงานบางปีจะขึ้นกับสภาพอากาศ หากฟ้าฝนไม่ดีเกษตรกรก็ไม่สามารถปลูกอะไรได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ
สำหรับในประเทศไทยเรามุ่งเน้นผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดไร่สำหรับเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก ส่วนข้าวโพดบริโภคที่คนไทยนิยม เช่นข้าวโพดหวาน เราก็มีเช่นกัน แต่ก็ถือเป็นตลาดเล็กมากเมื่อเทียบกับข้าวโพดไร่ นับแต่ตั้งบริษัทมาเราได้ไปเปิดตลาดใหม่ที่ กัมพูชา พม่า อินโดนีเชีย และที่อินโดนีเชียนี้ถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเจริญเติบโตสูงมาก
เนื่องจากงานด้านเกษตรกรรมไม่ได้มีฐานการทำงานในเมืองแต่จะอยู่นอกเมืองที่อยู่ไกลออกไป ลักษณะการทำงานที่มีอยู่หลายภาคส่วน ซึ่งมีทั้งส่วนงานวิจัยและพัฒนา ส่วนแปลงเพาะปลูก ส่วนบริหารจัดการส่วนกลาง เราจะต้องเชื่อมต่อในแต่ละไซต์งานเข้าด้วยกัน เพื่ออัปเดตและแชร์รายงานข้อมูลของแต่ละส่วนให้ทั่วถึงกัน การใช้อีเมล รวมถึงการแบ็กอัปข้อมูลให้ใช้งานได้ตลอดเวลา เช่น การติดต่อสื่อสารกันระหว่างเมืองไทยกับฝรั่งเศสเวลาที่แตกต่างกันข้อมูลต้องพร้อมให้เรียกใช้งานได้ตลอด 24 ขั่วโมง เพื่อให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปได้
ซึ่งจะเป็นเรื่องท้าทายในการใช้เน็ตเวิร์ก เพราะเสถียรภาพของระบบโครงสร้างของเครือข่ายพื้นฐานในพื้นที่ที่อยู่นอกเมืองจะแตกต่างจากในเมือง ซึ่งในที่นี้จะต้องมีผู้ช่วยที่ดี ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาใครสักคนช่วยดูแล เรื่องนี้ต้องขอขอบคุณทางเน็ตมาร์ค
จริงๆ ถือเป็นเรื่องโชคดีตอนที่เราเข้าตั้งสาขาในเมืองไทยใหม่ๆ เรามีส่วนของงานวิจัยและพัฒนา ส่วนของการผลิต ซึ่งต้องการการปรับปรุงส่วนโครงสร้างพื้นฐานของแต่ละไซต์ใหม่ ผมได้ลองตรวจสอบว่ามีที่ไหนบ้างในประเทศไทย ผมใช้เวลาเป็นสัปดาห์ส่งอีเมลปรึกษาไปหลายที่ เมื่อส่งไปที่เน็ตมาร์คผมได้รับการตอบภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งจุดเด่นของเน็ตมาร์คคือความเชื่อถือได้ ความรวดเร็วและมีการสื่อสารที่ดี รวมถึงทีมการตลาดซึ่งผมประทับใจมาก
เมล็ดพันธุ์เอเชีย เป็นบริษัทที่มีธุรกิจที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก เราต้องการบริษัทผู้ช่วยที่เป็นวันสต็อปเซอร์วิส คือ จบทุกความต้องการได้ ณ ที่เดียว และมีที่ปรึกษาทางด้านเทคนิคที่สื่อสารได้โดยปราศจากกำแพงด้านภาษา การให้บริการและการแก้ปัญหาสามารถจบได้อย่างรวดเร็ว มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่มีอยู่ในแต่ละท้องถิ่นให้ใช้งานได้โดยคงอยู่ในมาตรฐานเดียวกันทั้งบริษัท เช่น อุปกรณ์เครือข่ายในประเทศหนึ่ง อาจไม่มีในอีกประเทศหนึ่ง แต่เน็ตมาร์คสามารถจัดระบบให้ได้โดยที่ยังสามารถทำงานได้อย่างราบรื่น โดยยังอยู่ในกำหนดมาตรฐานนโยบายของบริษัท...
นี้เป็นส่วนหนึ่งของความคิดเห็นของลูกค้าที่มีต่อ เน็ตมาร์ค (ประเทศไทย) ผู้ให้บริการโททัลไอทีโซลูชันสำหรับองค์ธุรกิจ ถึงความประทับต่อการบริการของเน็ตมาร์ค
ท้ายนี้ทางทีมงานขอขอบคุณ คุณอีริก โคเมิร์ต บริษัท เมล็ดพันธุ์เอเชีย คุณอัมรินทร์ อารีรอบ จาก เน็ตมาร์ค (ประเทศไทย) และเจ้าหน้าที่ประสานงานทุกท่านที่ให้ร่วมให้ข้อมูล
สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับโซลูชันของเน็ตมาร์ค ติดต่อได้ที่
บริษัท เน็ตมาร์ค (ประเทศไทย) จำกัด
23/107-108 ชั้น 24 อาคารสรชัย ซอยสุขุมวิท 63
ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110.
โทรศัพท์ +66-2726-9600, โทรสาร +66-2726-9737
อีเมล salesinfo@netmarks.co.th
เว็บไซต์ http://www.netmarks.co.th
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.
ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด