ดาต้าวัน เอเชีย มองเห็นโอกาสตลาดซอฟต์แวร์ ERP ในไทยโตต่อเนื่อง จับมือ Ares International Corp ยักษ์ดิจิทัลซอฟต์แวร์อันดับ 1 จากไต้หวัน ร่วมกันเปิดตัว ArgoERP รุกตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรในไทย ตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขยายตลาดไปสู่ประเทศแถบอาเซียน ชูจุดเด่น ArgoERP เป็นสุดยอดซอฟต์แวร์สำหรับคนไทย ใช้งานง่ายคุ้มค่าการลงทุนการันตีด้วยฐานลูกค้าองค์กร
นายอดิศร แก้วบูชา กรรมการผู้จัดการ บริษัทดาต้าวัน เอเชีย (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตลาด ERP (Enterprise Resource Planning) หรือซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรในประเทศไทย เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง เอรีส อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น ในการเปิดตัว ซอฟต์แวร์ “ArgoERP” เพื่อรุกตลาดกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดกลางขึ้นไป ที่มีความต้องการใช้ระบบ ERP ที่มีโครงสร้างฟังก์ชั่นที่สมบูรณ์ ทั้งด้านการเงินการบัญชีทรัพยากรบุคคล การบริหารสินทรัพย์ขององค์กร ตลอดจนครอบคลุมถึงกระบวนการผลิต และระบบการกระจายสินค้า เพื่อช่วยให้การวางแผนและบริหารทรัพยากรของบริษัทนั้น ๆ มีประสิทธิภาพ สามารถนำมาเชื่อมโยงกับระบบงานต่าง ๆ ขององค์กรเข้าด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ระบบงานทางด้านบัญชีและการเงิน ระบบงานทรัพยากรบุคคล ระบบบริหารการผลิต ซึ่ง “ArgoERP” ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานของธุรกิจในเอเชียและตอบสนองความต้องการของธุรกิจในประเทศไทยและตั้งเป้าหมายว่าจะเป็นแบรนด์ ERP อันดับ 1 ที่ได้รับความนิยมในอาเซียน
นายอดิศร กล่าวต่อว่า ปัจจุบันธุรกิจของดาต้าวันเอเชีย เจาะกลุ่มงานธุรกิจแบ่งเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ การจำหน่ายฮาร์ดแวร์โดยตรงให้กับผู้ใช้งาน, การกระจายสินค้าให้กับพาร์ทเนอร์ และธุรกิจการให้บริการ Outsourcing เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า ในด้านการให้บริการโซลูชั่นใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้การดำเนินงานขององค์กรต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น และพบว่าตลาดของซอฟต์แวร์ ERP (Enterprise Resource Planning) หรือซอฟต์แวร์การวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรในประเทศไทย ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ดาต้าวันเอเชีย วางแผนที่จะนำเข้าซอฟต์แวร์ ArgoERP มาจำหน่ายและทำตลาดในประเทศไทย โดยเริ่มจากการสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มลูกค้า ด้วยการนำระบบของ ArgoERP มาใช้กับ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือก่อน เพื่อให้ทราบปัญหาในการอิมพลีเมนต์ระบบ รวมทั้งเพื่อพัฒนาความรู้ และความเชี่ยวชาญของบุคลากรของบริษัทในการแก้ปัญหา หรือให้คำปรึกษากับลูกค้า โดยจุดเด่นของ ArgoERP คือความสามารถปรับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ค่อนข้างหลากหลาย มีฟังก์ชั่นการทำงานภาษาไทย ทำให้เข้าใจง่าย และสามารถทำ Multi – currency หรือ สามารถรองรับการกำหนดสกุลเงินต่างประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยน เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการนำเข้า, ส่งออก หรือธุรกิจที่มีสาขาอยู่ในต่างประเทศ จึงช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี และหลังจากนั้นจะขยายสู่กลุ่มลูกค้าทางด้านอุตสาหกรรมและตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์และเอสเอ็มอี เป็นหลัก และทางบริษัทยังได้วางแผนสำหรับอนาคตที่จะต่อยอดระบบ ERP ให้เชื่อมเข้ากับระบบบริหารงานไม่ว่าจะเป็นฝ่ายการขายและฝ่ายให้บริการ ฯลฯ
สำหรับประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์และการบริการเกี่ยวกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะเห็นได้จากหลายปีที่ผ่านมาบริษัทระดับโลกเข้ามาลงทุนและใช้ประเทศไทยเป็นฐานการพัฒนาที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคนี้ ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นตลาดซอฟต์แวร์ของต่างประเทศ รวมทั้งซอฟต์แวร์ ERP ที่มีมูลค่าสูงถึง 57 ล้านดอลลาร์ ในปี 2014 และคาดว่าจะสูงถึง 90 ล้านดอลลาร์ในปี 2017 หรือมีอัตราการเติบโตระหว่าง 10% - 17% ต่อปี
มร. แฟรงค์ ลิน ประธานบริษัท เอรีส อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (Ares International Corporation) กล่าวว่า ArgoERP ถูกวิจัยพัฒนาด้วยโครงสร้างของ Oracle มีความเข้มงวดในด้านความปลอดภัยของข้อมูลและการออกแบบระบบ จึงเรียกได้ว่า ArgoERP เป็นระบบที่ถูกพัฒนาขึ้นในทวีปเอเชีย แต่มีแนวความคิดตามหลักสากล คือ ระบบมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม เพียงเปลี่ยนการตั้งค่าพารามิเตอร์ของระบบ ก็สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของแต่ละองค์กรได้ ซึ่ง ArgoERP มีฟังก์ชั่นสมบูรณ์แบบ ที่ถูกวิจัยพัฒนาระบบโครงสร้างให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่นหรือประเทศในอาเซียน ด้วยความเข้าใจกฎหมายของการทำงานของแต่ละประเทศ ทำให้การอิมพลีเมนต์ระบบเป็นเรื่องง่ายและสมบูรณ์แบบ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง แต่ตอบสนองความต้องการให้กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่ได้อย่างครบครัน
ทั้งนี้เพื่อเข้าใจถึงความต้องการของตลาด ERP ในเมืองไทยมากขึ้น เอรีสฯ จึงร่วมมือกับกลุ่มบริษัท SVOA ที่เป็นธุรกิจตัวแทนจำหน่ายและให้บริการด้านไอทีและค้าปลีก รับซื้อบัญชีลูกหนี้ และลิสซิ่ง มีจำนวนสาขากว่า 16 สาขา มีเอเยนต์กว่า 2,000 ราย มีศูนย์บริการที่มากที่สุดในประเทศไทย และมีช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าโดยตรง จึงร่วมกับบริษัทดาต้าวัน เอเซีย ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ให้บริการเกี่ยวกับโซลูชั่นด้านไอทีแก่องค์กร ร่วมกันวิจัยพัฒนาและรวบรวม know-how ของทั้งสองฝ่าย เพื่อป้องกันปัญหาการใช้งานที่อาจเกิดขึ้นในด้านของกฎหมายแต่ละประเทศที่ต่างกัน โดยเฉพาะข้อจำกัดของการแปลภาษาท้องถิ่น ซึ่งได้ดีไซน์ออกมาให้เหมาะกับธุรกิจในประเทศไทย
จากภาพลักษณ์ของบริษัท SVOA ที่มีเครือข่ายการตลาดที่กว้างขวางในไทย ช่วยเสริมให้ระบบ ArgoERP สามารถดึงดูดลูกค้าใหม่และเสริมสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตลอดจนได้พึ่งพาความแข็งแกร่งด้านการตลาดในเมืองไทยมาขยายตลาด ERP เพื่อเพิ่มความรู้จักกับแบรนด์สินค้าของเอรีสฯ ทำให้การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศในครั้งนี้ จะเป็นแนวทางในการคัดลอกรูปแบบการตลาดของไทย และขยายฐานลูกค้าไปสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของเอรีสฯ ที่เป็นบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีซอฟต์แวร์ มีประสบการณ์มากมายในการวิจัยพัฒนาหลายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ด้วยมืออาชีพระดับสูง การันตีด้วยการเป็นบริษัทด้าน ERP รายเดียว ที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไต้หวัน ด้วยประสบการณ์การให้บริการด้านซอฟต์แวร์กว่า 35 ปีในไต้หวัน, ญี่ปุ่น, ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ครอบคลุมงานเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งของภาครัฐ ธนาคารพาณิชย์ ไฟแนนเชียล และธุรกิจทั่วไป
“นอกจากนี้เอรีสฯ สามารถตอบสนองต่อความต้องการในยุคโมบิลิตี้ ด้วยการผสาน Argo Portal กับแอปพลิเคชั่น Argo ชื่อ “e-ARGO” ฟังก์ชั่นใหม่ในระบบคลาวด์ ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงข้อมูลได้โดยสะดวก ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน สามารถเรียกใช้ข้อมูลของบริษัทได้ทุกที่ทุกเวลา ช่วยเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยโซลูชั่นระบบ ArgoERP ได้ทำการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด รวมทั้งการสร้างตลาดที่ไม่ซ้ำแบบใคร เพื่อแสดงให้เห็นถึงความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน” มร. แฟรงค์ กล่าวทิ้งท้าย
สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.
ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด