เนื้อหาวันที่ : 2009-11-30 10:27:50 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1911 views

TPOLY ลุยโรดโชว์สิงคโปร์ มั่นใจพื้นฐานเยี่ยมเข้าตากองทุน ตปท.

TPOLY บินลัดฟ้าโรดโชว์สิงคโปร์ มั่นใจพื้นฐานแกร่งดึงดูดความสนใจกองทุนต่างประเทศ คุยโวปี 53 ปั๊มรายได้ทะลุ 2.5 พันล้านและเพิ่มขึ้นถึง 100% ทะลุ 5 พันล้านบาทในอีก 3 ปี

TPOLY  บินลัดฟ้าโรดโชว์สิงคโปร์ มั่นใจพื้นฐานแกร่งดึงดูดความสนใจกองทุนต่างประเทศ คุยโวปี 53 ปั๊มรายได้ทะลุ 2.5 พันล้านและเพิ่มขึ้นถึง 100% ทะลุ 5 พันล้านบาทในอีก 3 ปี

.

นายเจริญ จันทร์พลังศรี ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน)

.

TPOLY บินลัดฟ้าโรดโชว์สิงคโปร์ กับโครงการ Pearls in the SEA ของ IR PLUS ระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้ "เจริญ จันทร์พลังศรี" ชูพื้นฐานแกร่ง ผลประกอบการเติบโตต่อเนื่อง ธุรกิจมีทิศทางการเติบโตชัดเจน ดึงดูดความสนใจกองทุนต่างประเทศ ที่ลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดกลางได้  

.

พร้อมคุยปี 2553 ปั๊มรายได้ทะลุ 2,500 ลบ. และจะเพิ่มขึ้นถึง 100% ทะลุ 5,000 ลบ.ได้ในปี 2556 หลังเศรษฐกิจฟื้น แถมโครงการขนาดใหญ่ของรัฐเริ่มเดินเครื่องเต็มสูบ ทำให้มีงานไหลเข้าตลาดต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก

.

นายเจริญ จันทร์พลังศรี ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายนนี้ ทาง บมจ.ไทยโพลีคอนส์ จะร่วมเดินทางไปโรดโชว์ กับทีมงาน IR PLUS ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ทางบริษัท จะได้มีโอกาสนำเสนอบริษัทและพบปะกับกองทุนในระดับภูมิภาคทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง ที่มีความสนใจจะลงทุนในบริษัทจดทะเบียน 

.

ในงาน “Pearls in the SEA” ซึ่งจัดโดยทีมงาน IR PLUS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relations) ของบริษัท ออนไลน์แอสเซ็ท จำกัด ร่วมกับพันธมิตรทางด้านงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ระดับแนวหน้าจาก 2 ประเทศ คือ คือ บริษัท บิ๊ก พิกเจอร์ จำกัด จากประเทศสิงคโปร์ และบริษัท อีคัวลัส จำกัด จากประเทศมาเลเซีย 

.

เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนในระดับภูมิภาคได้พบและลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินงานที่ดีมีศักยภาพจากตลาดหลักทรัพย์ทั้ง 3 ประเทศ ซึ่ง บมจ.ไทยโพลีคอนส์ ถือเป็นบริษัทจดทะเบียนเพียงแห่งเดียวที่เดินทางไปในนามของบริษัทจดทะเบียนจากประเทศไทย และคาดว่าจะได้รับความสนใจจากกองทุนของต่างประเทศเป็นอย่างดี  

.

เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจมีทิศทางการเติบโตอย่างเด่นชัด ประการสำคัญราคาหุ้นยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับหุ้นในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยมีพีอีเรโชว์ เพียง 8.07 เท่า ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมอยู่ที่ 18.37 เท่า

.

"ผมค่อนข้างมั่นใจว่า "ไทยโพลีคอนส์" จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกองทุนที่สนใจจะลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีมาร์เก็ตแคปขนาดกลาง เพราะปัจจัยพื้นฐานของเราค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจเรามีทิศทางการเติบโตที่ชัดเจน จากที่มีฐานลูกค้ารายใหญ่อยู่ในมือ                              

.

อีกทั้งมีข้อได้เปรียบที่ฝากผลงานที่ประสบความสำเร็จและได้รับการยอมรับจากลูกค้าในพื้นที่มาแล้วเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี การเข้าร่วมประมูลงานในแต่ละครั้งจึงมักจะได้รับงานอยู่เสมอ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นที่ทำให้ "ไทยโพลีคอนส์" แตกต่างอย่างโดดเด่นจากผู้ประกอบการรายอื่นที่สามารถดึงดูดความสนใจของกองทุนดังกล่าวได้เป็นอย่างดี" 

.

เขากล่าวอีกว่า ในปี 2553 บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายรายได้ที่ 2,400-2,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ที่คาดว่าจะทำได้ 2,100 ล้านบาท เพราะมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) อยู่ที่ 2,200 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ยังมีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญามูลค่ารวม 700 ล้านบาท 

.

ซึ่งประกอบด้วยงานก่อสร้างโรงพยาบาล ที่ จ.ระยอง 1 โครงการ และงานก่อสร้างอาคารสถาบันการศึกษาที่ภาคใต้อีก 2 โครงการ นอกจากนี้ในเดือน ธ.ค.2552 บริษัทฯ เตรียมเข้าประมูลงานใหม่อีก มูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานดังกล่าวในสัดส่วน 40% ของมูลค่ารวมทั้งหมด 

.

สำหรับการดำเนินธุรกิจในอีก 4 ปีข้างหน้า เริ่มตั้งแต่ปี 2553-2556 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเข้าประมูลงานใหม่ในปี 2553 มูลค่ารวม 9,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงานดังกล่าว 4,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,500 ล้านบาท ส่วนปี 2554 ตั้งเป้าหมายเข้าประมูลงานใหม่ มูลค่ารวม 9,500 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงาน 4,500 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ 3,000 ล้านบาท            

.

สำหรับปี 2555 ตั้งเป้าหมายเข้าประมูลงานใหม่ มูลค่ารวม 11,200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้รับงาน 5,700 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายรายได้ ไว้ที่ 4,000 ล้านบาท และปี 2556 ตั้งเป้าหมายเข้าประมูลงานใหม่ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับงาน 7,700 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเส้นทางที่เห็นการเติบโตได้อย่างชัดเจนต่อเนื่องทุกปี 

.

นอกจากนั้น ปัจจุบันบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตร เพื่อร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ มูลค่ารวม 700 ล้านบาท ซึ่งหากการเจรจามีความชัดเจนและได้ข้อสรุปคาดว่าประมาณต้นปี 2553 จะเปิดตัวพันธมิตร และโครงสร้างการถือหุ้นของโครงการดังกล่าวได้ ขณะเดียวกัน คาดว่าโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลจะเริ่มก่อสร้างได้ในไตรมาส 3/2553 และจะเริ่มรับรู้รายได้ในอีก 2 ปีข้างหน้า

.

สำหรับงาน Pearls in the SEA ของ IR PLUS จะมีขึ้นในระหว่างวันที่ 29-30 พฤศจิกายน 2552 ที่ Fullerton Hotel , Fullerton Square ประเทศสิงคโปร์ โดยบริษัทที่ร่วมนำเสนอข้อมูลในครั้งนี้ ประกอบด้วย 1. Latexx Manufacturing Sdn. Bhd จากประเทศมาเลเซีย ธุรกิจผลิตถุงมือยางตรวจโรคที่ใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย 2. Notion Venture Sdn Bhd ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนเชิงกลที่มีความเที่ยงตรงสูง จากประเทศมาเลเซีย  

.

3. Daibochi PPI จากประเทศมาเลเซีย ธุรกิจผลิตบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าแบรนด์เนม 4. Sembcorp Marine Limited ธุรกิจอุตสาหกรรมทางทะเลและนอกชายฝั่ง มีความชำนาญในด้านการซ่อมเรือ การต่อเรือ การนำเรือที่ใช้แล้วมาปรับปรุง เป็นต้น จากประเทศสิงคโปร์ และ 5. Thai Polycons Plc. จากประเทศไทย ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 

.

โดยในการเปิดงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจากคุณชนิตร ชาญชัยณรงค์ ผู้ช่วยผู้จัดการสายงานการตลาดศูนย์ระดมทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นตัวแทนจากประเทศไทยในการกล่าวเปิดงานและเป็นวิทยากรผู้ทรงเกียรติ