เนื้อหาวันที่ : 2009-11-11 16:33:51 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1933 views

จีเอ็ม อินเดีย และเรวา ประกาศผนึกกำลังพัฒนารถพลังงานไฟฟ้า

เจนเนอรัล มอเตอร์ส อินเดีย ประกาศจับมือบริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เรวา เป็นพันธมิตรร่วมพัฒนาและผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกสู่ตลาดอินเดีย

.

บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส อินเดีย และบริษัทผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เรวา เซ็นสัญญาจับมือเป็นพันธมิตรร่วมพัฒนาและผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าออกสู่ตลาดอินเดีย

.

ตามข้อตกลงดังกล่าว จีเอ็ม อินเดีย และเรวา จะร่วมมือกันพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ เทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และระบบควบคุมขั้นสูง โดยทั้งสองบริษัทตั้งเป้าที่จะผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กในราคาที่ผู้คนสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายดาย เพื่อจำหน่ายในตลาดอินเดีย

.

“เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ เรวา ซึ่งเป็นผู้นำด้านการพัฒนาระบบไฟฟ้าขับเคลื่อนและระบบควบคุม” คาร์ล สลิม ประธานและกรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม อินเดีย กล่าว “นอกจากนี้ เราจะทำงานร่วมกับรัฐบาลอินเดียอย่างใกล้ชิด ซึ่งรัฐบาลได้ประกาศเป้าหมายชัดเจนที่จะลดการพึ่งพาพลังงานเชื้อเพลงฟอสซิลด้วยการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของรถยนต์ไฟฟ้า เรามุ่งมั่นที่จะมอบทางเลือกใหม่ให้แก่ลูกค้าของเรา ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

.

ทั้งสองบริษัทได้เริ่มการศึกษาค้นคว้าถึงความเป็นไปได้ของการใช้โครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ขนาดเล็กของจีเอ็มเพื่อใช้ในการรองรับเทคโนโลยีไฟฟ้า โดยจีเอ็ม และเรวา มีแผนที่จะประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับรถยนต์ดังกล่าวในเร็วๆ นี้และจะเริ่มเปิดสายการผลิตในปี 2553

.

เชตัน มัยนี่ รองประธานองค์กร และประธานฝ่ายเทคโนโลยีของเรวา กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับจีเอ็ม อินเดีย ในการก้าวสู่จุดหมายร่วมกันของเรา ซึ่งก็คือการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และด้วยการนำจุดแข็งของทั้งเรวา และจีเอ็ม อินเดีย มาผนวกเข้าด้วยกัน                              

.

เราเชื่อว่า สิ่งนี้จะช่วยให้อินเดียก้าวสู่ความเป็นศูนย์กลางการผลิตและพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้า และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง มีความเป็นไปได้ว่า ความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ของเราในครั้งนี้ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์อย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว”

.

“การพัฒนายานยนต์พลังงานไฟฟ้าขนาดเล็กนั้น ถือเป็นหนึ่งในการเติบโตครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ เราหวังว่า การร่วมมือกับเรวา ในอินเดีย จะช่วยเสริมสร้างให้จีเอ็ม ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองความต้องการที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆทั่วโลก” นิค ไรลีย์ ประธานเจนเนอรัล มอเตอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ กล่าว

.

จีเอ็ม กำลังแสวงหาพลังงานทางเลือกใหม่ๆ มากมาย รวมถึงทางเลือกด้านเทคโนโลยียานยนต์อันก้าวล้ำ เพื่อตอบสนองความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคทั่วโลก จีเอ็มเชื่อว่า รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนจากแบตเตอรีและเทคโนโลยีฟิวเซลเป็นหลักนั้นจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในระยะยาว และเป็นพื้นฐานในการนำไปสู่การแก้ปัญหาด้านพลังงานสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลอย่างยั่งยืน โดยทางบริษัทจะดำเนินการวิจัยและพัฒนาด้านนี้ต่อไป

.

เมื่อเร็วๆ นี้ จีเอ็ม เพิ่งเปิดตัวห้องแล็บพัฒนาแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ ซึ่งเป็นห้องแล็บแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดและมีเทคโนโลยีที่เหนือชั้นที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยห้องแล็บใหม่นี้ จะช่วยให้จีเอ็ม ก้าวสู่ความเป็นผู้นำด้านทรัพยากรวิศวกรรมแบตเตอรี่ที่ล้ำหน้าในระดับโลก และเร่งให้การเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอื่นๆ ซึ่งรวมไปถึง รถเชฟโรเลต โวลต์ รถปลั๊ก-อิน ไฮบริด รถพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ และรถพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงหรือ ฟิวเซลอื่นๆด้วย

.

เชฟโรเลต โวลต์ ซึ่งมีกำหนดการเริ่มสายการผลิตในสหรัฐอเมริกา ในช่วงปลายปี 2553 เพื่อออกจำหน่ายในปี 2554 นั้น สามารถขับเคลื่อนได้ถึง 40 ไมล์ (64 กิโลเมตร) โดยการชาร์จไฟฟ้าเข้ากับแบตเตอรี่เพียงครั้งเดียว และหลังจากระยะทาง 64 กิโลเมตรไปแล้ว ในโวลต์จะมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดเล็กที่สามารถเพิ่มกระแสไฟฟ้าที่ทำให้โวลต์สามารถวิ่งต่อไปได้อีกหลายร้อยกิโลเมตร โดยมีระยะทางที่วิ่งได้ทั้งสิ้นถึง 300 ไมล์ (483กิโลเมตร) ทั้งนี้ เชฟโรเลต โวลต์ นั้น ใช้แผงพลังงานไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อนรถยนต์

.

บริษัทรถพลังงานไฟฟ้า เรวา ตั้งอยู่ที่เมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย และเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์มากกว่า 14 ปีในการวิจัยและพัฒนารถพลังงานไฟฟ้า นอกจากนั้น เรวา เป็นบริษัทแรกที่ก้าวเข้าสู่ธุรกิจรถพลังงานไฟฟ้า โดยมีการจำหน่ายและทดสอบการตลาดสินค้าของตนใน 24 ประเทศทั่วเอเชีย ยุโรป และ ละติน อเมริกา

.

ทั้งนี้ มียานยนต์ที่จำหน่ายโดยเรวาวิ่งอยู่บนท้องถนนทั่วโลก กว่า 3,000 คัน ด้วยระยะทางขับขี่กว่า 43 ล้านไมล์ หรือ 70 ล้านกิโลเมตร ทั่วโลก และเพื่อตอกย้ำถึงความสำเร็จ เรวา ยังได้รับรางวัล บริษัทยานยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี จากสถาบันยานยนต์ ฟรอส แอนด์ ซัลลิแวน ในปี 2551