เนื้อหาวันที่ : 2009-11-11 16:14:23 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 888 views

พาณิชย์ฯ ลุยติวเข้มเอกชน เตรียมพร้อมรับมือ การเป็นประชาคมอาเซียน

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าให้ข้อมูลนักลงทุนและผู้ประกอบการไทย ภายใต้โครงการสัมมนา“ไทยกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)” หวังตอกย้ำและกระตุ้นนักลงทุนและผู้ประกอบการเป็น AEC เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุนของประเทศ

กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าให้ข้อมูลนักลงทุนและผู้ประกอบการไทย ภายใต้โครงการสัมมนา“ไทยกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC)” ครั้งที่ 7 วันที่ 11 พ.ย.นี้ ยึดพื้นที่กรุงเทพฯอีกครั้ง หวังตอกย้ำและกระตุ้นนักลงทุนและผู้ประกอบการเป็น AEC เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุนของประเทศ รวมทั้งดึงดูดนักลงทุนเข้าประเทศ

.

นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ในวันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2552 กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กำหนดจัดงานสัมมนาให้ความรู้ ความเข้าใจ และให้ประสบการณ์กับนักธุรกิจและนักลงทุนภายใต้โครงการ “ไทยกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน”

.

ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 7 ที่โรงแรมดุสิต ปริ้นเซส ศรีนครินทร์ กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ รวมทั้งกระตุ้นให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนของไทย ได้เตรียมพร้อมในการเพิ่มโอกาสทางการค้า หลังจากอาเซียนได้บรรลุข้อตกลงการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และจะมีการเปิดเสรีเต็มรูปแบบในปี 2558

.

“การสัมมนาครั้งนี้ นับเป็นครั้งสำคัญ ที่กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศมุ่งหวังที่จะกระตุ้นกลุ่มนักลงทุนไทย ผู้ร่วมทุนในประเทศไทย ให้ได้รับข้อมูล และประสบการณ์จากวิทยากร ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานมาแล้ว เพื่อนำไปวางแผน ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการลงทุน บวกกับเตรียมพร้อมกับการเปิดเสรีที่จะเกิดขึ้น และเตรียมตัวที่จะหาช่องทางการใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรี          

.

โดยงานสัมมนานี้ จัดมาแล้วทั้งหมด 6 ครั้ง ซึ่งหลังจากที่เราเดินสายจัดสัมมนาไปแล้ว ก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ เพราะต้องการตอกย้ำให้ภาคเอกชนได้ตระหนักและเกิดความรู้ความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง” นางนันทวัลย์ กล่าว

.

ทั้งนี้ การรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของอาเซียน ไปสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 นั้น จะทำให้ธุรกิจขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงตลาดที่ใหญ่ขึ้น ต้นทุนและค่าใช้จ่ายถูกลง เนื่องจากภาษีศุลกากร อุปสรรคทางการค้าที่มิใช่ภาษีจะหมดไป และกฎระเบียบต่างๆ จะได้รับการปรับประสานให้สอดคล้องกันมากขึ้น

.

ขณะเดียวกันผู้ประกอบการไทยในสาขาที่ไทยมีความเข้มแข็งและมีศักยภาพในการแข่งขัน อาทิเช่น ผลิตภัณฑ์อาหาร ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การท่องเที่ยว การบริการสาขาสุขภาพ และสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ ต้องเร่งศึกษาหาลู่ทางการปรับตัว และใช้โอกาสจากการลดอุปสรรคทางการค้าและการลงทุนต่างๆ ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่

.

“งานสัมมนาครั้งนี้ จะพยายามทำให้ภาคเอกชนของไทยเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า การมีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะช่วยลดอุปสรรคในการทำธุรกิจระหว่างกัน และทำให้เกิดความโปร่งใส เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนในการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับโอกาส และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น” อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าว

.

สำหรับงานสัมมนาดังกล่าว ได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ เกริกไกร จีระแพทย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "ผู้ประกอบการได้อะไร จากประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" รวมถึงมีการอภิปรายเรื่อง "Suppy Chain : ฐานการผลิตและการตลาดเดียวกันใน AEC" โดยผู้แทนการค้าไทย นอกจากนี้ ยังมีการอภิปรายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในหัวข้อ "บทบาทภาคเอกชนต่อการปรับตัวเป็น AEC : ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน"