เนื้อหาวันที่ : 2006-12-12 10:50:09 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1389 views

ปี 2549 ความท้าทายในเทคโนโลยีเด่นและความเป็นผู้นำของอินเทล

บริษัทอินเทล คอร์ปอเรชัน ในปี 2549 เป็นปีที่ได้แนะนำผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนมีประสิทธิภาพ จัดว่าเป็นแนวหน้าในวงการอุตสาหกรรมไอที

ปี 2549 เป็นปีที่บริษัทอินเทล คอร์ปอเรชัน ได้แนะนำผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และผลิตภัณฑ์เหล่านี้ล้วนมีประสิทธิภาพ จัดว่าเป็นแนวหน้าในวงการอุตสาหกรรมซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการใช้งานของผู้ใช้งานทั่วไปและในธุรกิจ โดยจุดเด่นสำหรับช่วงกลางปีคือการเปิดตัวอินเทลคอร์™2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ และอินเทลซีออนโปรเซสเซอร์ และต่อมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน อินเทลได้เปิดตัวโปรเซสเซอร์แบบคว๊อดคอร์ตัวแรกของโลกสำหรับเซิร์ฟเวอร์ในระดับเมนสตรีม เวิร์กสเตชัน รวมทั้งคอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปที่ต้องการสมรรถนะสูง นอกจากนั้นบริษัทอินเทลยังได้ขยายขอบเขตการผลิตและความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในระยะยาวด้วยการเร่งพัฒนาสถาปัตยกรรมไมโครอาร์คิเทคเจอร์ และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยอยู่สม่ำเสมอ และได้รับการยกย่องว่าเป็นความทันสมัยที่สุดในโลก สิ่งต่อไปนี้คือไฮไลท์ของบริษัทอินเทลในปี 2549

.

ปี 2549 ยุคของมัลติคอร์เริ่มแสดงพลังอย่างแท้จริง

ในช่วงกลางปี อินเทลได้เปิดตัว อินเทล คอร์ 2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ ที่เป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง โปรเซสเซอร์รุ่นนี้สามารถใช้กับโน้ตบุ๊ก เดสก์ท้อป รวมทั้งเซิร์ฟเวอร์  ซึ่งภายในช่วงกลางเดือนตุลาคม อินเทลได้จัดส่งโปรเซสเซอร์กว่า 6 ล้านตัวสู่ตลาดแล้ว อินเทล คอร์ 2 ดูโอ โปรเซสเซอร์สามารถประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 และมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 40 เมื่อเปรียบเทียบกับโปรเซสเซอร์สมรรถนะสูงสุดรุ่นก่อนหน้านี้ และหลังจากนั้นเพียงช่วงเวลาอีกหนึ่งเดือนต่อมา ในเดือนพฤศจิกายน อินเทลได้เริ่มจำหน่าย อินเทล คอร์ 2 คว๊อดคอร์โปรเซสเซอร์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีแกนประมวลผลอยู่ภายในถึงสี่แกน ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของอินเทลให้เป็นที่เด่นชัดมากขึ้น

.

ทำลายสถิติการแนะนำโปรเซสเซอร์สู่ตลาด อินเทลทำลายสถิติด้วยการออกโปรเซสเซอร์ใหม่มากกว่า 40 รุ่นภายในเวลาน้อยกว่า 200 วัน ซึ่งครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ทุกตัว และเป็นการเปิดตัวที่เร็วกว่ากำหนดการถึง 1-2 ไตรมาสล่วงหน้าอีกด้วย ในช่วงกลางปีอินเทลได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์แบบดูอัลคอร์  โปรเซสเซอร์ คือ อินเทลไอเทเนียมทู ที่มีคุณสมบัติมัลติเธรด ได้ช่วยให้สถาปัตยกรรมนี้มีการเติบโตมากที่สุดท่ามกลาง รุ่นต่าง ๆ ที่ไม่ใช่ x86

.

โปรเซสเซอร์แบบดูอัลคอร์สำหรับโน้ตบุ๊กตัวแรก ที่ยังคงให้ระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ในเดือนมกราคม อินเทลได้นำเสนอ อินเทล คอร์ ดูโอ โปรเซสเซอร์สำหรับโน้ตบุ๊กที่เป็นส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์ม อินเทลเซนทริโนดูโอ โมบายล์ เทคโนโลยี ซึ่งมีประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 30 และประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20 ทำให้โน้ตบุ๊กสามารถใช้งานจากแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้น และมีรูปทรงที่บางเบาอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้แบรนด์    เซนทริโนมีชื่อเสียง และในเดือนมิถุนายนอินเทลได้เปิดตัว อินเทล คอร์ 2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ซึ่งมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นกว่าอินเทล คอร์ ดูโออีกร้อยละ 20 โดยในปัจจุบันนี้โน้ตบุ๊กมียอดการจำหน่ายสูงที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ (เมื่อเทียบกับเดสก์ท้อป และเซิร์ฟเวอร์)

.

กระบวนการผลิตที่ทันสมัย ประโยชน์ของนาโนเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงโรงงานผลิตแบบ 65 นาโนเมตรที่เริ่มทำงานแล้ว 3 แห่ง ก่อนหน้าที่ผู้อื่นจะเริ่มมีการผลิตส่วนใดส่วนหนึ่งด้วยเทคโนโลยี 65 นาโนเมตร อินเทลได้นำเทคโนโลยีการผลิตแบบ 65 นาโนเมตรมาใช้เพื่อให้ตรงกับความต้องการ อินเทล คอร์ 2 ดูโอ โปรเซสเซอร์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ตัวอื่นๆ ทั่วโลก นอกจากนั้นแล้วอินเทลได้สาธิตเทคโนโลยี 45 นาโนเมตรรุ่นต่อไป และคาดว่าโรงงานแบบ 45 นาโนเมตรทั้ง 2 แห่งจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2550 ผลิตภัณฑ์รุ่นแรกจากโรงงานนี้จะเริ่มเปิดตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2550

.

บริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์หันมาใช้โปรเซสเซอร์ของอินเทลทั้งหมด อินเทลได้ร่วมมือกับบริษัทแอปเปิล คอมพิวเตอร์อย่างใกล้ชิด  ในช่วงการเปลี่ยนแปลงนี้ เป็นเวลา 7 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สั้นกว่ากำหนด และเป็นสิ่งที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดในอุตสาหกรรมทั้งในผลิตภัณฑ์เดสก์ท้อป โน้ตบุ๊ก เซิร์ฟเวอร์และเวิร์คสเตชัน

.

อินเทลเพิ่มแบรนด์ที่ตรงความต้องการของตลาด จากความสำเร็จของแบรนด์ เซนทริโน สำหรับโน้ตบุ๊กที่มีประสิทธิภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย อินเทลได้เปิดตัว เทคโนโลยีอินเทลไวฟ์ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำหรับความบันเทิงภายในบ้าน และเทคโนโลยีอินเทลวีโปรสำหรับการจัดการและความปลอดภัยของพีซีสำหรับองค์กรธุรกิจ

.

ความบันเทิงแบบดิจิตัลมาถึงแล้ว อินเทลได้แนะนำ อินเทล ไวฟ์ และยังได้ร่วมมือกับหลายบริษัทเช่น  Anytime, AOL, DirecTV, NBC Universal, Shanghai Media Group, Yahoo และอีกหลายบริษัทเพื่อเร่งการผลิตสื่อดิจิตัลคอนเทนท์สำหรับความบันเทิงภายในบ้านสำหรับการเชื่อมต่อกับเครื่องพีซีและโทรทัศน์ผ่านอินเทอร์เน็ต

.

อินเทลออกแบบและลงทุนด้านเทคโนโลยีสำหรับพีซีอย่างต่อเนื่องสำหรับชุมชนต่าง ๆ ทั่วโลก นอกจากเป็นแบรนด์ที่เน้นเรื่องการทำตลาดแล้ว อินเทลกำลังร่วมมือกับประเทศกำลังพัฒนา และเศรษฐกิจระดับท้องถิ่นทั่วโลกในการนำพีซีมาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศเหล่านี้ แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Eduwise, Rural PC และการคิดค้นพีซีที่มีจุดเด่นสำหรับการทำงานเฉพาะ เช่น พีซีสำหรับการศึกษาของเด็กๆ ในประเทศจีนไปจนกระทั่งพีซีที่มีใช้แบตเตอรี่รถยนตร์และมีตาข่ายพิเศษเพื่อป้องกันแมลง และพีซีที่สามารถทำงานได้ในสภาพที่มีกระแสไฟฟ้าไม่สม่ำเสมอในบริเวณที่ห่างไกล ในโครงการ World Ahead ซึ่งอินเทลทุ่มเงินลงทุนกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐในระยะเวลาหลายปีติดต่อกัน อินเทลมีจุดประสงค์ที่จะลดช่องว่างของการเข้าถึงเทคโนโลยีในชุมชนที่ห่างไกลที่มีอุปสรรคด้านเศรษฐกิจ ราคาสินค้าและการศึกษา

.

บริษัทชั้นนำร่วมกันตอบรับเทคโนโลยีไวแม็กซ์ ในปี 2549 นี้มีการทดลองเทคโนโลยีไวแม็กซ์ทั่วโลกกว่า 250 ครั้ง การตกลงครั้งสำคัญระหว่าง อินเทล สปรินท์ โมโตโรล่า เคลียร์ไวร์ และบริษัทต่างๆ ทั่วโลกมากมายเพื่อสนับสนุนการพัฒนาของเทคโนโลยีนี้ ด้วยเครือข่าวที่สามารถเพิ่มความเร็ว และความชัดรวมทั้งความคุ้มค่าในการลงทุนเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างอินเทอร์เน็ตที่พร้อมใช้ได้ทุกที่ในประเทศต่าง ๆ  ทั่วโลก

.

การลงทุนและวิจัยที่นำไปสู่ความก้าวหน้าที่หลากหลาย การพัฒนาด้านซิลิกอนของอินเทล ซึ่งรวมถึงการประกาศตัวเทคโนโลยีเลเซอร์บนซิลิกอนเมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นการนำทางสู่โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่มีความเร็ว ซึ่งสามารถเกี่ยวโยงไปถึงการกำจัดอุปสรรคของการออกแบบคอมพิวเตอร์ให้มีความเร็วมากขึ้น นอกจากนั้น Intel’s tiny robot prototype ในการพัฒนาเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นความสร้างสรรค์ของอินเทล ในการสร้างเทคโนโลยีใหม่ ๆ นักวิจัยของบริษัทอินเทลพยายามขยายขอบเขตของเทคโนโลยีออกไปให้กว้างมากขึ้น และพยายามศึกษาว่ามีการทำเทคโนโลยีไปใช้อย่างไร และเพราะเหตุใด ตัวอย่างเช่น ซุเปอร์คอมพิวเตอร์ Finis Terrae ที่ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งมี โปรเซสเซอร์ อินเทลไอเทเนียมทู มากกว่า 2,500 ตัว และจะใช้งานสำหรับการศึกษาวิจัยสำหรับโครงการในระดับนานาชาติ

.

อินเทลร่วมกับพาร์ทเนอร์และลูกค้าในการผลิต NAND แฟลช ในช่วงปลายปี 2548 อินเทลร่วมกับบริษัท ไมครอน เทคโนโลยี เพื่อตั้งบริษัทใหม่ สำหรับการผลิต NAND แฟลชเมโมรี่ และในปี 2549 ลูกค้ารายแรกของบริษัทคือ แอปเปิล