เนื้อหาวันที่ : 2009-09-30 16:39:26 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1009 views

กอร์ปศักดิ์กลับลำหนุนต่างชาติลุยเหล็กต้นน้ำ-เร่งทำโซนนิ่งปีนี้

"กอร์ปศักดิ์" กลับลำหนุนต่างชาติลงทุนอุตสาหกรรมหนัก เร่งหาพื้นที่รองรับ พร้อมจัดทำโซนนิ่งคาดแล้วเสร็จในปีนี้ สถาบันเหล็ก เร่งศึกษาสภาพแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ รองรับโครงการคาดสรุปผลใน 6 เดือน

"กอร์ปศักดิ์" กลับลำหนุนต่างชาติลงทุนอุตสาหกรรมหนัก เร่งหาพื้นที่รองรับ พร้อมจัดทำโซนนิ่งคาดแล้วเสร็จในปีนี้ ด้านสถาบันเหล็ก เร่งศึกษาสภาพแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ รองรับโครงการเหล็กต้นน้ำและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง คาดสรุปผลศึกษาใน 6 เดือนก่อนชง ครม. กำหนดเกณฑ์ผู้ผลิตเหล็กอีไอเอ

.

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี

.

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนาเรื่อง "ปฏิรูปสังคมไทยให้เข้มแข็งได้อย่างไร" จัดโดยสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ วานนี้ (25 ก.ย.) ว่า รัฐบาลยังให้ความสำคัญเรื่องการสร้างความเข้มแข็งแก่ทุกภาคส่วนของสังคมโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมได้มอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ( สศช.) ไปจัดหาพื้นที่ลงทุนที่เหมาะสม ทั้งโครงการเซาเทิร์นซีบอร์ดหรืออีสเทิร์นซีบอร์ด ด้วยการกำหนดโดยกำหนดโซนนิ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมให้ชัดเจน

.

โดยต้องพิจารณาถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และผลกระทบด้านสุขภาพ (เอชไอเอ) ตลอดจนแรงต้านของประชาชนในพื้นที่ คาดผลศึกษาจะเสร็จในปลายปีนี้

.

"เรายังต้องพิจารณาว่าการลงทุนของอุตสาหกรรมนั้นๆ จะส่งผลต่อประเทศเพียงใด โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำต้องดูว่าประโยชน์ที่ประเทศจะได้คุ้มค่าหรือไม่ แต่ไม่ได้หมายความว่า รัฐบาลจะไม่อนุมัติให้โรงงานเหล็กต้นน้ำเกิดขึ้นเพราะในอนาคตธุรกิจที่ไทยน่าจะได้ประโยชน์คือท่องเที่ยวและธุรกิจบริการ เพราะปัจจุบันเป็นโลกแห่งการแสวงหาความสุข ขณะที่ผู้สูงอายุมีมากขึ้น ซึ่งคนเหล่านี้มีเงินจะหาแหล่งพักผ่อนและท่องเที่ยว หากไทยพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จะรองรับกลุ่มคนเหล่านี้ได้"

.

ส่วนสินค้าเกษตรรัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องการจัดทำข้อมูลพื้นฐานเกษตรกรโดยขึ้นทะเบียน และใช้งบประมาณ 200-300 ล้านบาท เพื่อนำข้อมูลมาใช้พัฒนาเกษตรกรและจำหน่ายสินค้าเกษตร ซึ่งต้องยอมรับว่าข้อมูลปัจจุบันเป็นข้อมูลย้อนหลัง 5 ปี และเป็นข้อมูลยกเมฆหรือไม่

.

นายวิกรม วัชระคุปต์ ผู้อำนวยการสถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูงว่าอยู่ระหว่างศึกษาสภาพแวดล้อมเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) ในพื้นที่ภาคตะวันออกและภาคใต้ เพื่อประเมินความพร้อมพัฒนาเป็นพื้นที่ตั้งโครงการเหล็กต้นน้ำคุณภาพสูง และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง รวมทั้งศึกษาการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่

.

ส่วนการศึกษาสภาพแวดล้อมพื้นที่เพื่อรองรับโครงการเหล็กต้นน้ำนั้น จะศึกษาคุณภาพน้ำทะเล ความลึก การขุดร่องน้ำระยะทาง เจาะสำรวจใต้พื้นดินในทะเล วัดปริมาณน้ำฝนและแหล่งน้ำธรรมชาติ ตลอดจนการตรวจกระแสลม โดยเปิดโอกาสให้ชุชนมีส่วนร่วมด้วย ขณะที่อุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง เช่น อุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ จะศึกษาให้อยู่ร่วมกลุ่มกับโครงการเหล็กต้นน้ำ ดังนั้นจะศึกษาพื้นที่ขนาด 2 หมื่นไร่เพื่อให้ครอบคลุมภาพรวมดังกล่าวด้วย

.

"คาดว่าการศึกษา SEA จะเสร็จใน 6 เดือนข้างหน้าก่อนเสนอ ครม. พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้ผลิตเหล็กชั้นนำของโลก 4 ราย ที่สนใจจะลงทุนในไทยนำไปใช้ศึกษาอีไอเอ"

.
ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ