เนื้อหาวันที่ : 2009-09-17 11:47:36 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1413 views

หวั่นแบงก์มะกันล้มลามถึงไทย ชี้ศก.ไทยจะฟื้นยั่งยืนขึ้นอยู่กับ ศก.โลก

หม่อมเต่าโปรยยาหอมรัฐบาล งัดกฎหมายมั่นคงฯ เชื่อพิจารณารอบคอบแล้ว ห่วงปัญหาแบงก์มะกันล้มจะลามใส่เศรษฐกิจไทย คลังชี้หากชุมนุมม็อบเสื้อแดงรุนแรง จะซ้ำเติมความเชื่อมั่นวูบอีกแน่นอน

หม่อมเต่าโปรยยาหอมรัฐบาล งัดกฎหมายมั่นคงฯ เชื่อพิจารณารอบคอบแล้ว ห่วงปัญหาแบงก์มะกันล้มจะลามใส่เศรษฐกิจไทย คลังชี้หากชุมนุมม็อบเสื้อแดงรุนแรง จะซ้ำเติมความเชื่อมั่นวูบอีกแน่นอน

.

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

.

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงการออก พ.ร.บ.ความมั่นคงว่า ถือว่ามีความเสี่ยงว่า ต่างชาติจะเข้าใจหรือไม่ว่าเป็นเหตุฉุกเฉินหรือเป็นเรื่องของความมั่นคง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลคงจะพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และคงต้องเลือกระหว่างความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจกับความสงบในบ้านเมือง

.

ขณะเดียวกันยังต้องติดตามโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ทั้งนี้ ยังไม่เห็นว่ามีปัจจัยอะไรที่จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลแตกแยก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เอกชนเป็นห่วงมากที่สุด คือความไม่สงบเรียบร้อยที่จะกระทบทำให้ภาคเอกชนทำธุรกิจไม่ได้

.

ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลก การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยยังต้องติดตามฐานะของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในสหรัฐอีก 400 กว่าแห่ง ซึ่งมีการปล่อยสินเชื่อมากถึง 400,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่ยังมีความเสี่ยงอาจจะล้มละลายเหมือนกรณีวาณิชธนกิจ เลห์แมน บราเธอร์ ที่เป็นความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งหากมีการล้มละลายของสถาบันการเงินอีก ก็จะส่งผลมาถึงประเทศไทยอย่างแน่นอน

.

นอกจากนี้ปัจจัยภายในประเทศ คือความไม่สงบทางการเมือง จะจบลงเร็วแค่ไหน เพราะการที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงในพื้นที่เขตดุสิต วันที่ 18-22 ก.ย.นี้ เพื่อดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ก็เสี่ยงว่าต่างชาติจะเข้าใจหรือไม่ว่าเป็นการออก พ.ร.บ.ความมั่นคงเพื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความเรียบร้อย แต่หากมองว่าเกิดเหตุการณ์ไม่สงบจนต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงมาควบคุม ก็จะมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นได้

.

นายเศรษฐพุฒิ สุทธวาทนฤพุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด มหาชน กล่าวว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และนักลงทุนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว และกระทบต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอาจจะทำให้ชะลอไม่เป็นไปตามแผน

.

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน เห็นได้จากภาคการส่งออกที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น แต่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นในช่วงนี้ เกิดจากสต๊อกสินค้าที่เริ่มหมดลง และต้องติดตามดูในช่วงครึ่งหลังของปีหน้าว่าภาคเอกชนจะฟื้นตัวและลงทุนได้ด้วยตัวเองหรือไม่ เนื่องจากเม็ดเงินของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐจะเริ่มหมดลง

.

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า การที่รัฐบาลประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงในเขตดุสิต วันที่ 18-22 ก.ย.นี้ เพื่อดูแลการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ไม่ได้มีผลกระทบมากนัก เพราะเป็นการใช้มาตรการป้องกันความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งหากเกิดเหตุรุนแรงจริงจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่ในขณะนี้เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นจากยอดจองโรงแรมที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ติดลบมาโดยตลอด

.

นายเอกนิติ ยอมรับว่า ปัจจัยทางการเมืองกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและภาคเอกชนในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัว ซึ่งหากการเมืองไม่มีเสถียรภาพความเชื่อมั่นของภาคเอกชนก็จะไม่เกิดขึ้น ซึ่งความเชื่อมั่นของเอกชนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

.

เพราะที่ผ่านมาแต่ละประเทศได้มีมาตรการและอัดฉีดเม็ดเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมาก ซึ่งมีผลกระตุ้นทำให้เกิดการบริโภคจากเอกชนมากขึ้น จากยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในไตรมาส 3 ที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 2 แต่ต้องติดตามต่อว่าการลงทุนของภาคเอกชนจะตามมาหรือไม่ แม้ว่าตัวเลขการนำเข้าสินค้าทุน วัตถุดิบ และเครื่องจักร จะเพิ่มขึ้นก็ตาม

.

ทั้งนี้ ภาวะเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างยั่งยืนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัยหลัก คือ 1.การใช้นโยบายการคลังต้องมีการเบิกจ่ายที่มีประสิทธิภาพ 2.ความเชื่อมั่นของเอกชนที่ขึ้นอยู่กับเสถียรภาพทางการเมือง และ 3.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เพราะเศรษฐกิจไทยยังพึ่งพาการส่งออก ซึ่งแม้ว่าการส่งออกจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีสัญญาณดีขึ้น โดยมูลค่าการส่งออกเกิน 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มา 4-5 เดือนต่อเนื่อง ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป

.

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง