เนื้อหาวันที่ : 2006-11-29 08:58:44 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1225 views

ก.พาณิชย์ กระตุ้นโชห่วยไทยรวมตัวสร้างแรงต่อรองค้าปลีกข้ามชาติ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ร้องผู้ค้าปลีกไทยกว่า 400,000 รายทั่วประเทศ รวมกลุ่มพัฒนาตัวเองเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง และปรับตัวสู้กับผู้ค้าปลีกข้ามชาติ เผยรัฐบาลจะไม่ลงไปเล่นหรือเข้าไปแทรกแซงภาคธุรกิจการค้า

สำนักข่าวไทยรายงานข่าวรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ใช้เวทีสัมมนา ร่วมมือร่วมใจพัฒนาธุรกิจค้าปลีกไทย เรียกร้องให้ผู้ค้าปลีกไทยกว่า 400,000 รายทั่วประเทศ รวมกลุ่มพัฒนาตัวเองเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง และปรับตัวสู้กับผู้ค้าปลีกข้ามชาติ โดยกระทรวงพาณิชย์พร้อมเป็นพี่เลี้ยง แต่จะไม่เข้าไปดำเนินการเอง ส่วนแนวทางส่งเสริมพัฒนาค้าปลีกไทย รอผลสรุปจากคณะทำงานก่อนกำหนดแนวทางให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม

.
นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานปาฐกถาพิเศษ นโยบายการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกไทย ภายใต้ความร่วมมือร่วมใจพัฒนาธุรกิจค้าปลีกไทยให้มีความเข้มแข็งจัดโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยมีสมาชิกค้าปลีกจากทั่วภูมิภาค จำนวนกว่า 1,000 คน เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ โดยกล่าวยอมรับว่า ที่ผ่านมาการแข่งขันทางการค้าเกี่ยวกับการค้าส่งค้าปลีกมีการแข่งขันอย่างรุนแรง
.

ขณะที่ภาครัฐปล่อยให้มีการดำเนินการอย่างเสรี ไม่มีกฎกติกาที่ชัดเจน ทำให้ค้าปลีกต่างชาติเข้ามาทำตลาด จนค้าปลีกไทยจำนวนมากต้องล้มหายตายจากไป ที่สำคัญภายใต้การเปิดเสรีการค้า เป็นสิ่งที่ประเทศไทยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงขึ้นอยู่กับว่าไทยจะมีการปรับตัวอย่างไร รวมทั้งต้องมีการสร้างกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน แต่ที่ผ่านมากฎเกณฑ์ที่ใช้ควบคุมมีไม่เพียงพอ และผู้ที่ใช้กฎเกณฑ์ก็ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่มีอย่างเคร่งครัด จึงเป็นสิ่งที่ต้องมากำหนดกฎเกณฑ์ทางการค้าให้เกิดความเป็นธรรม

.

นายเกริกไกร กล่าวว่า นโยบายของกระทรวงพาณิชย์จะสร้างกฎระเบียบการค้าเพื่อความเป็นธรรม แข่งขันภายใต้กฎกติกา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ตั้งคณะทำงานแต่ละชุดขึ้นมาดูแล เพื่อแก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อน ที่จะช่วยกันคิดช่วยกันทำให้กฎเกณฑ์มีความเหมาะสม และจะพยายามดึงมาตรการที่เอื้อประโยชน์คนกลุ่มน้อยมาปรับใช้เป็นการเอื้อประโยชน์คนกลุ่มใหญ่ ที่จะสร้างความเป็นธรรมในระบบสังคม

..

ซึ่งขณะนี้สมาชิกของภาคธุรกิจค้าปลีกไทยมีอยู่กว่า 400,000 รายทั่วประเทศ แม้ว่าบางช่วงจะมีการปิดกิจการบ้าง แต่ในแต่ละเดือนก็มีธุรกิจดังกล่าวเกิดขึ้นมาใหม่ จึงเห็นว่าธุรกิจค้าปลีกรายย่อย หรือโชห่วยไทย จะต้องรวมตัวร่วมกันปรับการบริหารจัดการ ปรับแนวทางการค้าร่วมกัน เพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการแข่งขันทางการค้า เพราะเชื่อว่าหากมีการรวมตัวกันได้ จะเป็นสิ่งที่ต่อรองและแข่งขันกับผู้ค้าปลีกรายใหญ่ได้ โดยขณะนี้การรวมตัวผ่านสมาพันธ์คนไทยต้านธุรกิจข้ามชาติ ก็ถือว่ามีการตื่นตัวของภาคธุรกิจคนไทยอย่างมาก จึงอยากเห็นภาคธุรกิจคนไทยสามารถรวมตัวกันได้ที่จะสร้างอำนาจต่อรองในการดำเนินธุรกิจได้มากขึ้น

.

รัฐบาลจะไม่ลงไปเล่นหรือเข้าไปแทรกแซงภาคธุรกิจการค้า แต่จะเป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ กติกา ขณะนี้รอคณะทำงานเพื่อกำหนดแนวทางพัฒนาภาคธุรกิจค้าส่งค้าปลีกให้ชัดเจน เพื่อสร้างการแข่งขันให้เกิดความเป็นธรรมแน่นอน ซึ่งแนวคิดของผมต่อการพัฒนาธุรกิจค้าปลีกไทย คือ กล้าสู้ การรวมตัวทุกระดับ ภาคผู้ผลิตสินค้าจะต้องเชื่อมโยงกัน เป็นพันธมิตรร่วมกัน รวมทั้งการรวมกลุ่มของผู้บริโภค ในการดูแลและต่อรองภาคธุรกิจข้ามชาติ และส่งเสริมให้รายใหญ่มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม บนพื้นฐานการสร้างจริยธรรมการแข่งขันทางการค้า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว

.

นายเกริกไกร กล่าวอีกว่า ขณะนี้ภาครัฐโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีแผนที่จะเพิ่มศักยภาพให้กับภาคธุรกิจค้าปลีกค้าส่งของไทย โดยจะมีการจัดฝึกอบรมภาคธุรกิจค้าปลีกค้าส่งใน 4 ภาคทั่วประเทศไปพร้อมกัน เพื่อให้ภาคธุรกิจค้าปลีกค้าส่งไทยสามารถปรับตัวเอง และปรับแนวทางการบริหารและการจัดการที่จะสร้างความเข้มแข็ง

.

ขณะเดียวกันแนวทางที่จะยกเลิกประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 8 ที่ห้ามไม่ให้มีการกักตุนหรือขึ้นราคาสินค้านั้น กระทรวงพาณิชย์จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณายกเลิกในสัปดาห์หน้าต่อไป.