เนื้อหาวันที่ : 2009-09-02 10:47:44 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1049 views

พาณิชย์ใจชื้นเงินเฟ้อเดือน ส.ค. เริ่มกระเตื้องลด 1%

ศิริพล ปลัดฯพาณิชย์ เผยเงินเฟ้อเดือน ส.ค. ลดลงเพียง 1% เหตุราคาสินค้าอุปโภค วัสดุก่อสร้าง และน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้น คาดแนวโน้มเงินเฟ้อทั้งปีอยู่ที่ -0.9%

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์

.

นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (เงินเฟ้อ) เดือน ส.ค. ที่สำรวจจากสินค้าและบริการจำนวน 417 รายการลดลง 1% เมื่อเทียบกับเดือน ส.ค.51 ซึ่งเป็นการลดลงติดต่อกัน 8 เดือน และเมื่อเทียบกับเดือน ก.ค.52 สูงขึ้น 0.4% ทำให้ยอดเฉลี่ย 8 เดือน ม.ค.-ส.ค.  เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนลดลง 1.9%

.

สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อเมื่อเทียบกับปีต่อปีลดลง มาจากการลดลงหมวดน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าโดยสารสาธารณะและอุปกรณ์ยานพาหนะ 10% ค่าเล่าเรียน ค่าธรรมเนียมการศึกษา หนังสือและอุปกรณ์การศึกษาลด 10.2% เครื่องแบบนักเรียนอนุบาลและมัธยมชายหญิงลด 3.4% ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เนื้อสุกร ปลาและสัตว์น้ำ ไข่ ผลิตภัณฑ์นม เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และอาหารสำเร็จรูปสูงขึ้น 1.4% ขณะที่ผลิตภัณฑ์ยาสูบ และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์สูงขึ้น 13.6% หมวดเคหสถาน ค่ากระแสไฟฟ้า น้ำประปา และค่าเช่าบ้านสูงขึ้น 4.4% และค่ายาและเวชภัณฑ์และค่าของใช้ส่วนบุคคลสูงขึ้น 1.3%

.

สำหรับสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ก.ค. มาจากการปรับขึ้นดัชนีหมวดอื่นที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม 0.5%  แยกเป็นราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศเพิ่ม 5.8%  วัสดุก่อสร้าง ปูนซีเมนต์และอิฐเพิ่ม 1% ค่าใช้จ่ายส่วนตัว สบู่ ยาสีฟัน แชมพู กระดาษชำระ 0.1% ขณะที่สินค้าที่ลดราคา ได้แก่ น้ำยาล้างจาน น้ำยารีดผ้า แบตเตอรี่  ครีมนวด เบียร์ สุรา และเครื่องถวายพระ ส่วนดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลง 0.1%  เนื่องจากเข้าสู่หน้าฝน และฤดูกาลผลไม้ทำให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น

.

รายงานข่าวแจ้งว่า แนวโน้มเงินเฟ้อทั้งปีมีโอกาสอยู่ที่ -0.9% จากปี 51 อยู่ที่ 5.5% คาดว่าเงินเฟ้อ ก.ย. จะลดลง 1-1.1% ต.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% พ.ย.เพิ่ม มาอยู่ที่ 1.5% และธ.ค.เพิ่มขึ้น 3%

.

นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรม การค้าภายใน กล่าวถึงราคาน้ำตาลทรายโลกสูงขึ้นในรอบ 28 ปีว่า เป็นผลดีในการสร้างรายได้ส่งออกและผลตอบแทนของภาคเกษตรกร แต่ในส่วนของราคาจำหน่ายในประเทศนั้นจะไม่มีผลกระทบเพราะเป็นสินค้าควบคุม และมีการกำหนดโควตาเพื่อใช้และบริโภคในประเทศที่เพียงพอ ส่วนราคาวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะเหล็กที่มีราคาสูงขึ้น กรมฯได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

.

นางอัจนา ไวความดี รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. กล่าวว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบอัตรากรอบเงินเฟ้อพื้นฐานกรอบใหม่เป็น 0.5-3% จากเดิมอยู่ที่ 0-3.5% เพื่อให้การคาดการณ์เงินเฟ้อระยะยาวไม่ผันผวนจนเกินไปและใกล้เคียงกับเป้าหมายของประเทศอื่น และไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจุดยืนของนโยบายการเงินจะเปลี่ยนแปลง  และการปรับขอบล่างมาอยู่ที่ 0.5% เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาเงินฝืด

.
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์