เนื้อหาวันที่ : 2009-08-26 08:33:28 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1920 views

CPF เปิดแผนลงทุนฟิลิปปินส์ 3 โครงการรวด

ซีพีเอฟ ลุยลงทุนตั้งฐานการผลิตในฟิลิปปินส์ 3 โครงการมูลค่ากว่า 2.9 พันล้านบาท หลังการทดลองประสบความสำเร็จ มั่นใจรายได้ครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน)

.

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด(มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศฟิลิปปินส์ ภายใต้ชื่อบริษัท "CPF Philippines Corporation" หลังจากได้ทดลองทำตลาดมาแล้วระยะหนึ่ง และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี  จึงเปิดดำเนินธุรกิจ "อุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำ" และ "ธุรกิจฟาร์มสุกร" ขึ้น โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้นราว 1,525 ล้านบาท ทั้งนี้ เป็นการลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ 1,400 ล้านบาทและธุรกิจสุกร 125 ล้านบาท 

.

การลงทุนในธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ ประกอบด้วย โรงงานผลิตอาหารกุ้งในเมืองซีบู (CEBU) ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจเขตหนึ่งของฟิลิปปินส์ โดยมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 30,000 ตันต่อปี ขณะที่โรงงานอาหารปลา ขนาดกำลังการผลิต 60,000 ตันต่อปี จะตั้งขึ้น ณ เกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในฟิลิปปินส์ และคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2553 ส่วนธุรกิจฟาร์มสุกรนั้น จะดำเนินโครงการฟาร์มสุกรระดับทวดพันธุ์ (GGP) และปู่ย่าพันธุ์ (GP) ขนาด 1,200 แม่ รวมถึงฟาร์มสุกรรุ่นพันธุ์ CP ขนาด 10,400 ตัว ที่เกาะลูซอน 

.

"โอกาสและศักยภาพการดำเนินธุรกิจในฟิลิปปินส์นั้นค่อนข้างดีมาก เพราะฟิลิปปินส์มีประชากรเกือบ 92 ล้านคนและมีอัตราการเกิดเฉลี่ย 2% ต่อปี นับว่าค่อนข้างสูง ขณะเดียวกันอัตราการบริโภคสุกรของคนฟิลิปปินส์ก็อยู่ที่ 15 กก.ต่อคนต่อปี สูงกว่าคนไทยที่บริโภคเพียง 13 กก.ต่อคนต่อปี แสดงให้เห็นความนิยมบริโภคเนื้อสุกรของชาวฟิลิปปินส์ได้ดี นอกจากนี้ มาตรฐานการผลิตเนื้อสุกร ตลอดจนเทคโนโลยีการผลิตของซีพีเอฟนั้นเป็นที่ยอมรับในระดับโลก" นายอดิเรกกล่าวและว่า 

.

สำหรับผลการดำเนินงานในครึ่งหลัง ปี 2552 คาดว่าจะเติบโตอย่างโดดเด่น ต่อเนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกที่ทำรายได้ถึง 75,393 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจำนวน 3,964 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถรายงานผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังนี้ได้ดีกว่าครึ่งปีแรก จากสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิจการที่ลงทุนในต่างประเทศ การส่งออกสินค้าอาหารแปรรูปแบรนด์ซีพี และการส่งออกผลิตภัณฑ์กุ้ง ยังคงมีแนวโน้มที่ดี

.

นอกจากนั้น การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน ประกอบกับการบริหารด้านการเงิน ก็ช่วยส่งผลให้มีต้นทุนด้านการเงินที่ลดลง และคาดว่า ผลการดำเนินการต่างๆนี้ จะยังคงส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 2553 ยังคงยืนอยู่บนพื้นฐานการทำกำไรที่มั่นคงกว่าในอดีตที่ผ่านมา และมีแนวโน้มที่จะมีกำไรจากการดำเนินงานดีต่อเนื่องจากปี 2552 นี้

.