รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งบอร์ด  ทอท. ตรวจสอบสาเหตุปัญหาเครื่องซีทีเอ็กซ์ ที่ใช้งานไม่ได้ 1 เครื่อง ขณะเดียวกัน ประกาศล้างบางมาเฟียแท็กซี่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  หลังพบมีขบวนการรับสินบนช่วยแท็กซี่บางรายไม่ต้องต่อคิวรับผู้โดยสาร

พล.ร.อ.ธีระ  ห้าวเจริญ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม  กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวระบุว่า เครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ ที่จัดซื้อมาติดตั้งที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 26 เครื่อง ได้เกิดเหตุขัดข้องไม่สามารถใช้งานได้แล้ว 1 เครื่อง โดยได้สั่งการให้คณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)  หรือ ทอท.ลงไปตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาดังกล่าว  เนื่องจากเห็นว่าเครื่องซีทีเอ็กซ์ที่จัดซื้อมานั้นเป็นเครื่องใหม่ที่เพิ่งนำมาใช้งาน และไม่น่าเกิดเหตุขัดข้องขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทั้งนี้  ยอมรับว่าที่ผ่านมาได้เกิดข่าวในแง่ลบเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่องซีทีเอ็กซ์มาโดยตลอด  ซึ่งกระทรวงคมนาคมจะให้ความสำคัญในการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยพร้อมจะร่วมมือกับคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)  ซึ่งขณะนี้การสอบสวนมีความคืบหน้าทั้งทางด้านเอกสารหลักฐานไปมากแล้ว

สำหรับกรณีม็อบแท็กซี่ จำนวน 500  คัน ได้ปิดการจราจรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  เมื่อคืนวานนี้  ล่าสุดการชุมนุมได้สลายตัวลงแล้ว  โดยการตรวจสอบพบว่าเกิดจากความเข้าใจผิดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปจับกุมรถแท็กซี่ซึ่งวิ่งไปส่งผู้โดยสารที่พัทยาด้วยการเหมาจ่ายค่าโดยสารแทนการจ่ายค่ามิเตอร์  ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจ  อย่างไรก็ตาม  จากการเจรจาได้มีการตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมา  1 ชุด เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งมีตัวแทนจากผู้ประกอบการรถแท็กซี่  ทอท.  และตำรวจ  ซึ่งขณะนี้การเจราได้ข้อยุติเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายแล้ว  ซึ่งการชุมนุมได้สลายตัวไปเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของเมื่อคืนนี้  (26 พ.ย.)

.

ส่วนกรณีที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่จราจรของ ทอท. รับสินบนจากแท็กซี่ที่เข้าไปส่งผู้โดยสาร  ทำให้สามารถวนรถขึ้นไปรับผู้โดยสารได้ทันทีโดยไม่ต้องไปเข้าคิวบริเวณศูนย์โดยสารรถสาธารณะ  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า  เป็นนโยบายสำคัญที่กระทรวงคมนาคมต้องการให้ปัญหาการรับสินบนและมาเฟียภายในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต้องหมดไป โดยขณะนี้สั่งการให้ บอร์ด ทอท. เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว  ซึ่งเชื่อว่าจะเห็นผลเป็นรูปธรรมในเร็ววันนี้

นอกจากนี้  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังได้กล่าวย้ำถึงการประเมินผลการทำงานของผู้บริหาร ทอท.โดยเฉพาะในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ที่มีนายโชติศักดิ์  อาสภวิริยะ  ดำรงตำแหน่ง โดยได้สั่งการให้บอร์ด ทอท. ไปพิจารณาว่าจะต้องมีการทบทวนการประเมินผลงานใหม่อีกครั้งหรือไม่  เพราะที่ผ่านมา  การให้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังมีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ทั้งเรื่องความปลอดภัยของผู้โดยสาร  และการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้มาใช้บริการ ทั้งนี้  ในการดำเนินการเกี่ยวกับผู้บริหารได้ขอให้บอร์ดพิจารณาข้อกฎหมายว่ามีแนวทางใดบ้างที่จะทบทวนสัญญาจ้างและประเมินผลการทำงานใหม่ได้หรือไม่

สำหรับเหตุรถไฟชนกันที่จังหวัดพิจิตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า  สาเหตุมาจากความผิดพลาดทางการสื่อสารระหว่างสถานีและรถไฟทั้ง 2 ขบวน  ประกอบกับสภาพรางรถไฟที่เก่าและชำรุด  ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการให้บอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  ชุดใหม่  เร่งแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วแล้ว.