เนื้อหาวันที่ : 2009-08-17 10:19:34 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1063 views

บีโอไอรุกเปิดสำนักงานใหม่ที่กวางโจว "ชาญชัย" นำกลุ่มทุนไทยบุจับคู่ธุรกิจจีนรอบ 2

ชาญชัย รมว.อุตสาหกรรม นำนักลงทุนไทยบุกกวางโจว ประเทศจีน เจรจาจับคู่ธุรกิจไทยกับสมาชิกสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลกอีกครั้ง หวังต่อยอดความร่วมมือการค้า-ลงทุนจากกิจกรรมที่พัทยา

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นำคณะเจ้าหน้าที่ พร้อมเอกชนไทย 50 ราย  บุกเมืองกวางโจว ประเทศจีน  เร่งเปิดสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแห่งที่ 12 พร้อมจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจไทยกับสมาชิกสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลกอีกครั้ง หวังต่อยอดความร่วมมือการค้า-ลงทุนจากกิจกรรมที่พัทยา  

.

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

.

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 18-21 สิงหาคม 2552 นี้  กระทรวงอุตสาหกรรม จะนำคณะผู้บริหารของหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และภาคเอกชน จำนวนกว่า 50 ราย  ซึ่งเป็นสมาชิกจากสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน และผู้ประกอบการในสาขา อาหาร ข้าว ยาง และอื่น ๆ ร่วมเดินทางไปชักจูงการลงทุน ณ นครกวางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน 

.

พร้อมกับร่วมเปิดสำนักงานส่งเสริมการลงทุน ณ นครกวางโจว ซึ่งนับเป็นสำนักงานแห่งที่ 12 ของบีโอไอ เพื่อให้สามารถดำเนินการชักจูงการลงทุนและจัดกิจกรรมเชิงรุก ช่วยอำนวยความสะดวก และให้ข้อมูลสำคัญ เพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจเข้ามาดูลู่ทางการลงทุนในประเทศไทย 

.

ทั้งนี้ในโอกาสดังกล่าว บีโอไอ จะจัดให้มีการสัมมนา ในหัวข้อ “Thailand Means Business” เพื่อชี้แจงรายละเอียด และแนวนโยบายการปรับปรุงเงื่อนไขส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย ในกิจการประเภทต่างๆ  เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยแก่นักธุรกิจจีน 

.

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างนักธุรกิจไทยที่เดินทางไปครั้งนี้กับนักธุรกิจที่เป็นสมาชิกของสมาคมนักธุรกิจยอดเยี่ยมเชื้อสายจีนทั่วโลก ในสาขา อาหาร ข้าว และยาง  ฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์ พลาสติก วัสดุตกแต่งภายใน อสังหาริมทรัพย์ การบริการ และท่องเที่ยว  ที่คาดว่าจะก่อให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกันในอนาคต 

.

"การเดินทางไปประเทศจีนครั้งนี้ นอกจากเป้าหมายสำคัญในการเปิดสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแห่งใหม่เพื่อให้สามารถดำเนินการชักจูงการลงทุนและจัดกิจกรรมเชิงรุก  และเข้าถึงนักธุรกิจจีนได้อย่างต่อเนื่องแล้ว การจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจยังจะเป็นการต่อยอดความร่วมมือของนักธุรกิจไทยและจีนเพิ่มขึ้น หลังจากการจัดกิจกรรมสัมมนาและจับคู่ธุรกิจครั้งใหญ่ของ 2 ประเทศเกิดขึ้นไปแล้วในช่วงปลายเดือน กรกฎาคม 2552 ที่ผ่านมา  ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จ มีการจับคู่ธุรกิจกันแล้วถึง 42 คู่ จะก่อให้เกิดการค้าและการลงทุนร่วมกันแล้วกว่า 200,000 ล้านบาท"  นายชาญชัยกล่าว  

.

นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมการลงทุนที่นครกวางโจว  ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแห่งที่ 3 ของบีโอไอในประเทศจีน หลังจากที่ผ่านมาได้เปิดสำนักงานแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง  โดยจะเป็นศูนย์กลางให้ข้อมูลสำหรับนักธุรกิจจากกวางตุ้งที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในไทย ในขณะเดียวกันยังเป็นศูนย์กลางด้านข้อมูลแก่นักธุรกิจไทยที่จะเข้าไปลงทุนในมณฑลกวางตุ้งอีกด้วย 

.

"จีนเป็นอีกหนึ่งประเทศเป้าหมายสำคัญที่บีโอไอจะเร่งดึงดูดการลงทุนให้เข้ามาประเทศไทย จากศักยภาพของประเทศที่มีความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจ และมีขนาดตลาดใหญ่ โดยมีจำนวนประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน ซึ่งในการเปิดสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแห่งใหม่ในครั้งนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของไทย ที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนจากจีนอย่างต่อเนื่อง          

.

ทั้งนี้ในอนาคตบีโอไอยังได้มองถึงโอกาสในการเพิ่มสำนักงานฯในจีน ที่เมืองคุณหมิง มณฑลยูนนาน เป็นแห่งที่ 4 ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสในความร่วมมือ ระหว่างไทย-จีนให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นด้วย" นางอรรชกา กล่าว 

.

สำหรับการลงทุนจากจีนในไทยในช่วงครึ่งปีแรก 2552 มีทั้งสิ้น มีโครงการที่ยื่นขอส่งเสริม 10 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 507 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่ผ่านมาที่มี 7  โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 180 ล้านบาท

.
.