เนื้อหาวันที่ : 2009-08-04 15:49:52 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2003 views

UMS เบรกขึ้นราคาถ่านหิน เหตุตลาดในปท.แข่งขันรุนแรง

UMS ชะลอการปรับขึ้นราคาถ่านหิน เหตุตลาดในประเทศมีการแข่งขันรุนแรง หวั่นกระทบผู้บริโภค ระบุยังรับต้นทุนได้ เพราะสต็อกยังมีมาก

.

นายปิยะ ตันธนพิพัฒน์ รักษาการผู้ช่วยกรรมการ บมจ.ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส(UMS) กล่าวว่า บริษัทคงต้องชะลอการปรับขึ้นราคาขายถ่านหินในระยะนี้ออกไปก่อน เนื่องจากตลาดในประเทศมีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง ประกอบกับ ราคาถ่านหินที่ซัพพลายเออร์ในอินโดนีเซียส่งให้กับบริษัทยังขยับขึ้นมายังไม่มากเท่ากับที่ดัชนีราคาถ่านหินโลก(BJI)ปรับตัวสูงขึ้นมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 76 ดอลลาร์/ตันในปัจจุบัน   

..

"ตลาดภายในประเทศมีการแข่งขันรุนแรง ทำให้การขึ้นราคาเป็นเรื่องยาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อลูกค้า" นายปิยะ กล่าว

..

อย่างไรก็ตาม บริษัทจะสามารถตรึงราคาขายไปได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นกับทิศทางราคาถ่านหินในตลาดโลก แต่ ณ ขณะนี้การปรับขึ้นราคาของซัพพลายเออร์ยังไม่ได้กระทบกับต้นทุนของบริษัทมากนัก เนื่องจากบริษัทยังมีสต็อกที่มีต้นทุนเดิมอยู่มาก 

.

ปัจจุบัน บริษัทมีลูกค้าประมาณ 450 ราย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าขนาดเล็ก ขณะที่ลูกค้าขนาดใหญ่เพียง 10 ราย ส่วนการหาลูกค้าใหม่ทำได้ค่อนข้างลำบากในระยะนี้ เนื่องจากตลาดมีการแข่งขันสูง อีกทั้งเหมืองถ่านหินบางรายติดต่อขายโดยตรงกับผู้ใช้รายใหญ่ โดยไม่ผ่านตัวแทนจำหน่าย 

.

นายปิยะ กล่าวว่า ในส่วนของผลประกอบการนั้นคาดว่าไตรมาส 2/52 และไตรมาส 3/52 บริษัทน่าจะมีรายได้ไม่แตกต่างกันมากนัก เนื่องจากต้นทุนราคาถ่านหินเพิ่งเริ่มปรับตัวสูงขึ้นในช่วงไตรมาส 3/52 และยังมีสต็อกเก่าอยู่ ซึ่งไม่น่าจะได้รับผลกระทบในแง่รายได้โดยรวม เพราะต้นทุนเฉลี่ยยังใกล้เคียงกันและไม่กระทบทั้งปีด้วย 

.

"มั่นใจว่าทั้งปีจะมีรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คือลดลงจากปีก่อน 10% กำไรก็คงจะลดลงในทิศทางเดียวกัน เชื่อว่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"นายปิยะ กล่าว 

.

นายปิยะ กล่าวว่า บริษัทกำลังเตรียมเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 11 ส.ค.เพื่อพิจารณาจ่ายปันผลระหว่างกาล โดยบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ซึ่งน่าจะได้ตัวเลขใกล้เคียงตามที่โบรกเกอร์ประเมิน อนึ่ง บล.ยูไนเต็ด และ บล.กิมเอ็ง ประเมินว่า บริษัทจะมีการจ่ายเงินปันผลครึ่งปีแรก 52 ที่ 0.50 บาท/หุ้น 

.

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซีย นายปิยะ กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าศึกษาการลงทุน โดยมีธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยที่ปล่อยเงินกู้ให้กับเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียเป็นที่ปรึกษา ซึ่งได้เสนอแหล่งถ่านหินที่มีศักยภาพ 3-4 แห่งมาให้พิจารณา แต่บริษัทคงต้องศึกษาอย่างละเอียด เพราะเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ ประกอบกับเป็นธุรกิจที่ไม่เคยทำมาก่อน