เนื้อหาวันที่ : 2009-08-03 15:33:14 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3575 views

นิคมฯ อัญธานีเปิดตัว เจมโมโปลิสฟรีโซนคอมเพล็กซ์ ดึงเม็ดเงินลงทุน

นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี เตรียมเปิดตัวโครงการ "เจมโมโปลิสฟรีโซนคอมเพล็กซ์" รองรับความต้องการของตลาดมูลค่า 300 ล้านบาท คาดสร้างรายได้มากกว่า 8,000 ล้านบาท

.

นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี พร้อมเปิดตัว โครงการใหม่ "เจมโมโปลิสฟรีโซนคอมเพล็กซ์" อย่างเป็นทางการ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโต ทั้งในส่วนสำนักงานและโรงงาน พร้อมๆ กับได้รับการประกาศเป็นเขตประกอบการเสรีจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ประกอบธุรกิจได้หลากหลาย  ไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเพชร พลอยและเครื่องประดับเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น และสินค้ามูลค่าสูงต่างๆ เช่น เครื่องมือแพทย์ นาฬิกา ปากกา อุปกรณ์ไอที      

.

โครงการ "เจมโมโปลิสฟรีโซนคอมเพล็กซ์" ประกอบด้วย อาคารเจมโมโปลิสฟรีโซน 7 ชั้น 2 อาคารในเขตประกอบการเสรี มีพื้นที่รองรับ 10,000 ตารางเมตร ด้วยเงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท และคาดว่าโครงการจะสามารถสร้างรายได้จากการส่งออกของนักลงทุนมากกว่า 8,000 ล้านบาทในปี 2553 

.

นิคมอุตสาหกรรมอัญธานี หรือที่รู้จักกันดีในนาม เจมโมโปลิส เป็นนิคมอุตสาหกรรมสำหรับอัญมณีและเครื่องประดับแห่งเดียวในโลกที่เป็นศูนย์กลางการผลิตและการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สมบูรณ์แบบ บนเนื้อที่ 800 ไร่ จัดตั้งโดย บริษัท ไอ.จี.เอส.จำกัด (มหาชน) ในปี 2533 โดยได้พัฒนาเฟสแรกบนเนื้อที่ 170 ไร่ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนกว่า 120 แห่ง จาก 24 ประเทศทั่วโลก มีทั้งโรงงานผลิตและสำนักงาน มีคนไทยและต่างชาติทำงานที่นี่กว่า 20,000 คน และ 90 เปอร์เซ็นต์เป็นบริษัทต่างชาติที่เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงอัญมณีและเครื่องประดับ 

.

ด้วยทำเลที่ดีที่สุดเพียง 8 นาทีจากสนามบินสุวรรณภูมิ สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคารพาณิชย์ในโครงการ โรงเรียนฝึกอบรมฝีมือแรงงานซึ่งมีบทบาทสำคัญในการจัดหาบุคลากร บริษัทขนส่ง โลจิสติกส์ สำนักงานศุลกากรที่คอยอำนวยความสะดวกในการตรวจปล่อยสินค้า บริการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน ระบบโครงสร้างพื้นฐานและการสื่อสารที่สมบูรณ์แบบภายในโครงการ สาธารณูปโภคครบครัน พร้อมทั้งระบบบำบัดน้ำเสียส่วนกลาง ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่งนอกเหนือจากเป็นปัจจัยสำคัญในการลดค่าใช้จ่ายของนักลงทุน 

.

เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโต ทั้งในส่วนสำนักงานและโรงงาน ทำให้นิคมอุตสาหกรรมอัญธานีขยายโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อ "เจมโมโปลิสฟรีโซนคอมเพล็กซ์" พร้อมๆ กับได้รับการประกาศเป็นเขตประกอบการเสรีจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) อาคารเจมโมโปลิสฟรีโซน 7 ชั้น 2 อาคารในเขตประกอบการเสรี โครงการล่าสุดของนิคมอุตสาหกรรมอัญธานี พร้อมแล้วที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพื่อรองรับนักลงทุนทั้งภาคอุตสาหกรรม พาณิชยกรรมและบริการ มีพื้นที่รองรับ 10,000 ตารางเมตร ด้วยเงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท

.

และคาดว่าโครงการจะสามารถสร้างรายได้จากการส่งออกของนักลงทุนมากกว่า 8,000 ล้านบาทในปี 2553 ในแง่ของสิทธิประโยชน์ที่ได้รับมากขึ้นภายใต้เขตประกอบการเสรีของกนอ. เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้ประกอบธุรกิจได้หลากหลาย ไม่จำกัดเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเพชร พลอยและเครื่องประดับเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น และสินค้ามูลค่าสูงต่างๆ เช่น เครื่องมือแพทย์ นาฬิกา ปากกา อุปกรณ์ไอที เป็นต้น 

.

โดยปกติในเขตทั่วไป ผู้ประกอบการที่เป็นโรงงานผลิตเท่านั้นที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แต่อย่างไรก็ดี ภายใต้สิทธิประโยชน์ในเขตประกอบการเสรีของ กนอ. นอกเหนือจากเป็นโรงงานผลิตแล้ว ยังเปิดกว้างสำหรับธุรกิจการค้าและบริการด้วยเช่นกัน อาทิเช่น โชว์รูม ห้องแล็บ บริษัทขนส่ง ศูนย์กระจายสินค้า โกดังสินค้า ศูนย์ให้บริการรับซ่อมสินค้า และข้อดีสำหรับการเปิดกิจการในฟรีโซนมีดังนี้ 

.
1. เป็นคอนโด low rise ออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยในแนวราบ
2. มีพื้นที่ให้เลือกตั้งแต่ 60-5,000 ตรม.
3. เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 3.8 ล้านบาท
4. ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก บีโอไอ และ กนอ. ดังนี้ 
.

- ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้จากเงินปันผล 5 หรือ 8 ปี สำหรับโรงงานผลิต
- ยกเว้นภาษีนำเข้าและภาษีมูลค่าเพิ่ม วัตถุดิบ สินค้ากึ่งสำเร็จรูป วัสดุจำเป็น เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์การผลิต สินค้าสำเร็จรูป
- สินค้าที่ซื้อภายในประเทศ ได้รับภาษีมูลค่าเพิ่มอัตราศูนย์
- ไม่จำกัดอายุการจัดเก็บสินค้าที่นำเข้า
- ไม่ต้องอ้างอิงสูตรการผลิตเมื่อผลิตเพื่อส่งออก 

.
5. นักลงทุนต่างชาติถือหุ้นในบริษัทได้ 100%
6. นักลงทุนต่างชาติถือครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในนามบริษัทได้
7. การขออนุญาตนำเข้าต่างด้าวเข้ามาทำงานด้วยเงื่อนไขที่สะดวกกว่า 
ปัจจุบันมีนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติกว่า 15 บริษัท ได้ลงทุนในอาคารฟรีโซนแล้วด้วยพื้นที่ ประมาณ 5,000 ตรม. 
.

ปัจจุบันรัฐบาลได้ประกาศยกเลิกการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% สำหรับวัตถุดิบอัญมณี ประเภท เพชร หรือพลอยก้อน ที่ยังไม่เจียระไน ซึ่งเป็นการลดภาระภาษีและเพิ่มการแข่งขันในตลาดส่งออก ทำให้นักลงทุนประหยัดภาษีได้มาก ซึ่งเดิมต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่มล่วงหน้าตั้งแต่วันนำวัตถุดิบเข้ามา ส่งผลให้ประเทศไทยเข้าใกล้การเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกอัญมณีของโลก อย่างไรก็ดีนักลงทุนในนิคมฯ ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอได้รับการยกเว้น VAT อยู่แล้วตามกฏเกณฑ์ของบีโอไอ 

.

จากความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้นิคมอุตสาหกรรมอัญธานีเป็นที่ยอมรับของนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติในประเด็นความพร้อม 3 ข้อหลักๆ คือ 1. ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีที่สุดใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ 2. ได้รับสิทธิประโยชน์และส่งเสริมการลงทุนจากภาครัฐ และ 3. มีความพร้อมเรื่องระบบสาธารณูปโภคและบริการทางธุรกิจที่ครบครัน 

.

อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับนับเป็นอุตสาหกรรม ที่มีมูลค่าการส่งออกสูงเป็นอันดับ 3 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมดของประเทศ เนื่องจากสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยมีภาพลักษณ์ที่ดีและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ทั้งในแง่คุณภาพ ดีไซน์ และราคาที่สมเหตุสมผล ในปี พ.ศ. 2551 ไทยส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่าทั้งสิ้น 8,270.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 274,102.03 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 48.04 เมื่อเทียบกับปี 2550 และร้อยละ 157.91 เมื่อเทียบกับปี 2547 สำหรับ ในปี 2252 ณ สิ้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ตัวเลขการส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมีมูลค่ารวม 173,563.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 42.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2551 

.

กรมส่งเสริมการส่งออกร่วมกับสมาคมในอุตสาหกรรมฯ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยสู่ตลาดโลก และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับของโลก รวมทั้งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกสามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดคณะผู้แทนการค้าอัญมณีและเครื่องประดับไปเจรจาการค้าที่รัสเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอีกหลายประเทศที่มีศักยภาพเติบโตสูง และเมื่อเร็วๆ นี้ได้จัดตั้ง "Thai Gem and Jewelry Centre" ในประเทศจีน เพื่อขยายเครือข่ายทางการค้า

.

อีกทั้งยังได้ร่วมกับ 3 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม และ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ให้การสนับสนุนด้านบริการประกันการส่งออก และบริการค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ เพื่อเสริมสภาพคล่องและสร้างความมั่นใจในการส่งออกให้แก่ผู้ส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทย

.

นอกจากนี้รัฐบาลไทยยังได้อนุมัติให้มีการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับวัตถุดิบพลอยสีนำเข้า เพื่อนำมาแปรรูปก่อนส่งออก อันจะส่งผลให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุนการผลิตได้เป็นอย่างมากอีกด้วย 

.

งานแสดงสินค้านานาชาติ บางกอกเจมส์ แอนด์ จิวเวลรี่ แฟร์ ซึ่งสมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ จัดขึ้นเป็นประจำปีละ 2 ครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการส่งออก ถือเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่ยิ่งใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 5 สุดยอดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติของโลก

.

และนับเป็นกิจกรรมที่สำคัญในการประชาสัมพันธ์สินค้าอัญมณีและเครื่องประดับของไทยและเป็นเวทีแลกเปลี่ยนการค้าสำหรับผู้ประกอบการไทยและผู้ซื้อจากทั่วโลก สำหรับปีนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 - 19 กันยายน 2552 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี