เนื้อหาวันที่ : 2006-11-16 09:43:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1375 views

ไทยชี้แจงนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงในการประชุมเอเปกที่ฮานอย

กระทรวงพาณิชย์ เผยการประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มเอเปกครั้งนี้ไทยได้ชี้แจงถึงนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงต่อสมาชิกเอเปก ว่าไม่ใช่นโยบายที่จะปิดกั้นการค้า การลงทุน ทุกอย่างยังเดินปกติ

กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มเอเปกครั้งนี้ไทยได้ชี้แจงถึงนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงต่อสมาชิกเอเปก ว่า ไม่ใช่นโยบายที่จะปิดกั้นการค้า การลงทุน หรือการเจรจาการค้าต่าง ๆ ซึ่งในระดับประเทศทุกอย่างยังเดินหน้าตามปกติ

.

ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) วันแรก ยืนยันความสำคัญของการเจรจาการค้าพหุภาคีองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) รอบโดฮา ส่วนข้อเสนอเรื่องเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กลุ่มเอเปกเห็นว่าเป็นเรื่องระยะยาว ขณะที่ไทยชี้แจงนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงไม่กระทบการเจรจาการค้าใด ๆ ทั้งสิ้น

.

นายเกริกไกร จีระแพทย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มเอเปก ว่า การประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มเอเปกครั้งนี้ไทยได้ชี้แจงถึงนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงต่อสมาชิกเอเปก ว่า ไม่ใช่นโยบายที่จะปิดกั้นการค้า การลงทุน หรือการเจรจาการค้าต่าง ๆ ซึ่งในระดับประเทศทุกอย่างยังเดินหน้าตามปกติ

.

แต่สามารถวางระบบการเปิดเสรีอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงจะเน้นความสำคัญของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศซึ่งที่ผ่านมามีการใช้จ่ายเกินตัว มีการหวังผลประโยชน์เฉพาะหน้า รวมทั้งต้องการแก้ปัญหาการเอาเปรียบทางธุรกิจ

.

นายเกริกไกร กล่าวว่า ที่ประชุมได้พิจารณาถึงการสร้างความเข้มแข็งของการเจรจาการค้าดับเบิลยูทีโอรอบโดฮา โดยจะให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะถือว่า เป็นประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาเป็นรูปแบบการเจรจาการค้าที่จำเป็น สำคัญและสร้างความเป็นธรรมของการค้าโลกมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน

.

ส่วนเอฟทีเอของกลุ่มเอเปกนั้นเป็นเรื่องระยะยาวที่ต้องใช้เวลาการพิจารณาและต้องมีหลักเกณฑ์การเจรจาที่อยู่ภายใต้ประโยชน์ของทุกฝ่าย และก่อนจะหารือเพื่อไปสู่เอฟทีเอ กลุ่มเอเปกต้องมีข้อมูลในการหารือร่วมกันอย่างครบถ้วน การปฏิบัติต้องไม่เป็นการบังคับและต้องทำอย่างเต็มที่ ซึ่งสมาชิกของเอเปกส่วนใหญ่ต้องการให้ยึดการเจรจาพหุภาคีจากกรอบของรอบโดฮาก่อน ซึ่งไทยก็เห็นด้วยกับสมาชิกส่วนใหญ่ของเอเปก

.

ทั้งนี้ ประเทศที่ต้องการผลักดันเอฟทีเอกลุ่มเอเปกนอกจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังมีประเทศสิงคโปร์ บรูไน ชิลีและนิวซีแลนด์ สำหรับการเจรจาเอฟทีเอของไทยกับประเทศต่าง ๆ ยืนยันว่าไทยจะดำเนินนโยบายต่อเมื่อคู่สัญญามีความสนใจที่จะเจรจาร่วมกันต่อไปมีผลประโยชน์ร่วมกันที่เก็บเกี่ยวได้อย่างเป็นธรรม ซึ่งในรัฐบาลชุดนี้คงจะไม่มีการลงรายละเอียดของแผนปฏิบัติการแต่จะเป็นเรื่องหลักการหากมีการเจรจาร่วมกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าว

.

นอกจากนี้ไทยยังแสดงความยินดีกับเวียดนามที่เข้าเป็นสมาชิกของดับเบิลยูทีโอ ซึ่งไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับเวียดนามในการพัฒนาการค้าตามกรอบของดับเบิลยูทีโอและให้การเป็นสมาชิกของเวียดนามราบรื่นที่สุด.-สำนักข่าวไทย