เนื้อหาวันที่ : 2009-07-24 15:56:15 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1236 views

รัสเซีย แจ้งนายกฯ เร่งจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-รัสเซีย

รมว.ต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เร่งรัดให้รัฐบาลไทยพิจารณาการจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ระหว่างไทย-รัสเซียให้เรียบร้อยโดยเร็ว หวังพัฒนาความร่วมมือด้านพลังงานเปิดกว้างการสำรวจแหล่งพลังงานใหม่ๆ

รมว.ต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เร่งรัดให้รัฐบาลไทยพิจารณาการจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจ(JTC) ระหว่างไทย-รัสเซียให้เสร็จเรียบร้อยโดยเร็ว เพื่อเป็นประโยชน์ในการพัฒนาความร่วมมือด้านต่างๆ โดยเฉพาะความร่วมมือด้านพลังงานที่รัสเซียเปิดกว้างทั้งการสำรวจแหล่งพลังงานใหม่ๆ และการเป็นแหล่งเส้นทางขนส่งน้ำมัน          

.

"รัสเซียแสดงความต้องการให้ไทยเร่งรัดการพิจารณาความตกลงต่างๆ เพื่อให้มีการลงนามความตกลงได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจ(Joint Trade Committee:JTC) อันจะเป็นช่องทางหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาประโยชน์ของทั้งสองประเทศ" เว็ปไซต์ของสำนักโฆษก ระบุ 

.

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย เข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังเข้าร่วมประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ครั้งที่ 16 ที่ จ.ภูเก็ต 

.

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทย - รัสเซียแน่นแฟ้นมาโดยตลอด โดยทางด้านเศรษฐกิจแม้จะมีวิกฤตเศรษฐกิจแต่ก็พึงพอใจที่การค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศยังคงมีอย่างต่อเนื่อง และเห็นด้วยที่จะขยายความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุน โดยจะเร่งรัดการจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (JTC) ระหว่างไทย - รัสเซีย 

.

ขณะที่ รมว.ต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจและเข้าใจรัฐบาลไทยเกี่ยวกับการสร้างเสถียรภาพทางการเมือง และเห็นว่าสถานการณ์การเมืองไทยมีแนวโน้มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดี พร้อมยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างไทย - รัสเซียที่พัฒนาด้วยดีและขยายตัวรอบด้าน โดยประเทศไทยถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของรัสเซียในแถบภูมิภาคนี้ ในด้านการท่องเที่ยวนั้นนักท่องเที่ยวรัสเซียยังคงเดินทางมาประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนด้านการศึกษารัฐบาลรัสเซียได้มอบทุนแก่นักศึกษาไทยทุกปีจำนวน 40 ทุน 

.

ขณะเดียวกัน รมว.ต่างประเทศสหพันธรัฐรัสเซีย ได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความสนับสนุนรัสเซียอย่างต่อเนื่องในการเป็นประเทศสมาชิก ASEM พร้อมหยิบยกเรื่องนายวิคเตอร์ บุท นักโทษรัสเซีย ว่าขอให้ไทยพิจารณาเรื่องนี้เป็นธรรม และโปร่งใส ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอให้มั่นใจในการดำเนินการของฝ่ายไทย