เนื้อหาวันที่ : 2009-07-23 16:57:40 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 944 views

กฟผ.คาดเอฟทีงวด ก.ย.-ธ.ค.52 แนวโน้มไม่ปรับลดลง

สศช. คาด กฟผ. ส่อเค้าขาดทุนในอนาคต เหตุตรึงราคาค่าไฟฟ้า รับภาระแทนประชาชน ทั้งที่ค่าเอฟทียังสูง และสถานะการเงินอ่อนแอตลอดช่วง 4-5 ปี

.

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) คาดแนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร(เอฟที) งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.52 จะไม่ปรับลดลง เนื่องจากต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง นอกจากนี้คณะกรรมการกำกับกิจการไฟฟ้า(เรกกูเลเตอร์) ได้ให้ กฟผ.ตรึงราคาค่าไฟฟ้า เพื่อรับภาระแทนประชาชนในช่วงที่ผ่านมาคิดเป็นวงเงินรวมกว่า 2 หมื่นล้านบาทแล้ว

.

ส่งผลให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ประเมินว่า กฟผ.เป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจที่มีแนวโน้มจะขาดทุนในอนาคต และภาวะการเงินอ่อนแอในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหากไม่มีภาระในส่วนนี้ กฟผ.ก็สามารถบริหารงานให้มีประสิทธิภาพได้ แม้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

.

รองผู้ว่าการ กฟผ.กล่าวว่า ขณะนี้ กฟผ.กำลังเจรจากับ บริษัท จีอี ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องกำเนิดไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก เพื่อร่วมลงทุนตั้งบริษัทในการบำรุงรักษาอุปกรณ์ หลังจาก กฟผ.ได้จัดตั้งบริษัท อีแกท ไดมอนด์ เซอร์วิส รับงานซ่อมอุปกรณ์ชิ้นส่วนเครื่องกังหันก๊าซของมิตซูบิชิ เพื่อรองรับลูกค้าในประเทศ และ 18 ประเทศในภูมิภาคเอเชียและออสเตรเลีย ยกเว้นจีนและญี่ปุ่น

.

โดย กฟผ.ถือหุ้น 45% บริษัท Mitsubishi Heavy Industry ถือหุ้น 30% บริษัท Mitsubishi Corporation ถือหุ้น 15% และ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง(RATCH) ถือหุ้น 10% รวมมูลค่าโครงการ 830 ล้านบาท มีทุนจดทะเบียนเป็นเงิน 623 ล้านบาท  

.

โดยตามแผนงานจะรับซ่อมโรงงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ เบื้องต้นจะมีกำลังซ่อมที่ทำได้ 10 เครื่อง และขยายเป็น 50 เครื่องในอนาคต ทำให้ในช่วง 5 ปีแรกจะยังไม่มีกำไรมากนัก แต่ในปีที่ 6 จะมีรายได้เฉลี่ยประมาณปีละ 500 ล้านบาท