เนื้อหาวันที่ : 2009-07-09 11:08:10 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1587 views

9บริษัท "ไทย-จีน-ลาว"เล็งสร้างสะพานข้ามน้ำโขงแห่งที่4

กรมทางหลวงเผย มีเอกชน 5 กลุ่มเสนอตัวเข้าทำการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อมถนนอาร์สามเอ งบประมาณกว่า 1.9 พันล้านบาท คาดแล้วเสร็จ ก.ย. ปี 2555

.

นายสุเมธ แสงนิ่มนวล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวเมื่อวันที่ 9 ก.ค. ถึงกรณีประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน  ร่วมกันออกงบประมาณก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 เชื่อมระหว่าง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ของไทยกับเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว ) เพื่อเชื่อมถนนอาร์สามเอ (ไทย-สปป.ลาว-จีน ) ว่า จากการสอบถามความคืบหน้าของโครงการไปยังแขวงการทาง จ.เชียงราย

.

ทราบว่า ปัจจุบันกรมทางหลวงเป็นหน่วยงานรับผิดชอบเต็มตัวในการคัดสรรเอกชน ที่จะเข้า ไปทำการก่อสร้างสะพานเพื่อให้แล้วเสร็จตามกำหนดในปี 2555 อยู่ระหว่างคัดสรรเอกชนที่เสนอตัวเข้าไปก่อสร้างจำนวน 5 กลุ่ม รวมจำนวน 9 บริษัท  มาจากทั้งในประเทศไทย สปป.ลาว และจีน

.

นายรังสรรค์ สุขชัยรังสรรค์ รองผู้อำนวยการแขวงการทางฝ่ายปฏิบัติการ แขวงการทางเชียงรายที่ 1 กล่าวว่า  กรมทางหลวงได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา 4 บริษัทคือ บริษัทเอพซิลอน จำกัด บริษัทเสโก้ จำกัด บริษัทนิปป้อน โคอิ จำกัด และบริษัทธารา คอนซัลแตนท์ จำกัด สำรวจและออกแบบสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. 2550 เป็นเวลา 9 เดือน

.

ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จตามสัญญาแล้วและจัดทำรายงานให้กรมทางหลวง ได้รับทราบตามขั้นตอน รูปแบบโครงการก่อสร้างก็ได้เปิดเผยสู่สาธารณชนไปบ้างแล้ว  ขั้นตอนต่อไปคือ การจัดหาเอกชนมาทำการก่อสร้างสะพานและส่วนประกอบอื่นๆ ตามที่บริษัทที่ปรึกษาได้จัดทำและทางกรมทางหลวงได้อนุมัติ

.

รองผู้อำนวยการแขวงการทางฝ่ายปฏิบัติการ แขวงการทางเชียงรายที่ 1 กล่าวด้วยว่า รูปแบบการจัดหาเอกชนดำเนินการ จะเป็นไปตามข้อตกลงที่ระดับรัฐบาลได้ หารือกันเอาไว้ตั้งแต่ต้นคือ จะต้องเป็นบริษัทร่วมไทย-จีน และประกาศรับเอกชนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวไปแล้ว  ปรากฏว่ามีเอกชน 5 กลุ่มเสนอตัวเข้าทำการก่อสร้าง

.

โดยบางกลุ่มประกอบไปด้วยเอกชนจากไทย 1 บริษัท และจีน 1 บริษัท บางกลุ่มมีจาก สปป.ลาว เข้าร่วมด้วย ส่วนงบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 1,934 ล้านบาท ฝ่ายไทย 1,034.7 ล้านบาท และฝ่ายจีน 967 ล้านบาท กำหนดเริ่มศึกษาพื้นที่ตั้งแต่เดือน ก.ค.2552 และเวนคืนที่ดินให้แล้วเสร็จในเดือน ม.ค. 2553 เพื่อก่อสร้างในเดือน ก.พ.2553 และให้แล้วเสร็จในเดือน  ก.ย.2555

.
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์