เนื้อหาวันที่ : 2009-07-03 22:31:03 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1178 views

กรณ์อ้อนเวิลด์แบงก์ ช่วยแนะนำปรับปรุงกระบวนการปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555

กรณ์ นั่งหัวโต๊ะประชุมเชิงปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ระหว่างไทยและธนาคารโลก เผยวางระบบเสร็จ ก.ค. เงินก้อนแรกออกสู่ระบบและเริ่มวัดผลเดือน ก.ย. มั่นใจได้เวิลด์แบงก์ แนะนำปรับปรุงกระบวนการในการติดตามผลเพื่อเน้นความโปร่งใส พร้อมตั้งคณะทำงานดูแลโครงการอย่างใกล้ชิด

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง

.

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ระหว่างไทยและธนาคารโลกว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เชื่อมโยงระบบข้อมูลร่วมกัน ในการติดตามเส้นทางการใช้เงินของโครงการไทยเข้มแข็ง 55 เพื่อให้ธนาคารโลกมาช่วยแนะนำปรับปรุงกระบวนการในการติดตามผลเพื่อเน้นความโปร่งใส ให้แผนงานแผนเงินเป็นไปตามที่กำหนด ทำให้เงินของโครงการส่งออกสู่ระบบได้อย่างรวดเร็ว มีการปฏิบัติตามขั้นตอน หากโครงการใดมีปัญหา ยังไม่ส่งมอบงาน คณะทำงานติดตามผลจะเข้าไปดูแลให้โครงการเดินหน้าได้ตามเป้าหมาย เพื่อเป็นการวางแผนป้องกันปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ

.

ทั้งนี้ในการประชุมดังกล่าว มีนางแอนเน็ต ดิ๊กสัน ผู้อำนวยการธนาคารโลก ผู้บริหารกระทรวงการคลัง ผู้บริหารธนาคารของรัฐ ผู้บริหารธนาคารโลกประจำประเทศไทย เข้าร่วมประชุม เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดหาแหล่งเงินทุน การหารือเกี่ยวกับระบบ การติดตามตรวจสอบและรายงานผลโครงการเงินลงทุนไทยเข้มแข็งวงเงิน 1.56 ล้านล้านบาท

.

สำหรับการวางระบบนั้น จะแล้วเสร็จในเดือนก.ค.นี้ จากนั้นเดือนส.ค. จะเริ่มประเมินโครงการ และเดือนก.ย.เงินลงทุนก้อนแรกจะออกสู่ระบบ และเริ่มวัดผลได้ รวมถึงแผนการจัดหาแหล่งทุน โดยกระทรวงการคลังจะมีแนวทางจัดหารูปแบบใดใช้การกู้เงินวิธีใด เพื่อให้ความเห็นแนวทางการระดมทุนว่า มีผลต่อตลาดมีผลต่อสภาพคล่องของเงินในระบบอย่างไรบ้าง เพื่อระดมความคิดเห็นร่วมกัน

.

ส่วนแนวทางจัดหาแหล่งเงินทุนนั้น รัฐจะทยอยกู้เงินจากธนาคาร แทนการกู้เงินด้วยการออกพันธบัตร เพราะจะเบิกเงินให้โครงการได้ตามเงินงวด ซึ่งจะกู้เงินจากสถาบันการเงินงวดแรก 30,000 ล้านบาท รองรับเงินลงทุนให้โครงการที่หน่วยงานต่าง ๆ เสนอมา ซึ่งไม่ใช่เป็นเงินออกพันบัตรออมทรัพย์ 50,000 ล้านบาทที่ขายให้กับประชาชน นอกจากนี้  ยังหารือเกี่ยวกับการประกันพืชผลทางการเกษตร การใช้ตัวชี้วัดสภาพทางภูมิศาสตร์ การเข้าถึงการบริหารความเสี่ยงทางการคลัง การเพิ่มความเข้มแข็งให้กับสถาบันการเงินเฉพาะกิจด้วย

.

ขณะที่การกู้เงิน ตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาทนั้น เดิมคาดว่าจะกู้เงินเพื่อชดเชยเงินคงคลัง 200,000 ล้านบาท อาจจะลดเหลือ 120,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มีวงเงินที่กู้ไปใช้จ่ายลงทุนได้เพิ่มขึ้น

.

คลังสัญจรหารือเอกชนสุราษฎ์ฯ-ทุ่ม900ล้านปรับปรุงถนนรอบเกาะสมุย

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้จัดงานคลังสัญจรเพื่อมารับฟังปัญหาของเอกชนใน จ.สุราษฎ์ธานี ทั้งสภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทย และธุรกิจท่องเที่ยวโรงแรม เพื่อฟังความต้องการของภาคเอกชน พร้อมทั้งชี้แจงนโยบายรัฐบาลให้ทราบโดยตรง โดยปัญหาที่ภาคเอกชนหยิบยกมานั้น ไม่แตกต่างจากผู้ประกอบการจังหวัดอื่น ทั้งสภาพคล่อง ที่มีปัญหาจากแหล่งเงิน การขอสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ปัญหาจากการส่งออกเนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น รวมถึงผลกระทบด้านท่องเที่ยวจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลเร่งดำเนินการได้คือ ลงทุนผ่านโครงการไทยเข้มแข็ง 55 ว่าลงไปสู่ภาคต่าง ๆ อย่างไรบ้าง ทั้งด้านสาธารณูปโภค โลจิสติกส์และขนส่ง เพื่อช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการเกษตกร ในการขนส่งสินค้า อำนวยความสะดวกให้ประชานและนักท่องเที่ยวในพื้นที่  

.

"ส่วนปัญหาด้านสินเชื่อนั้น ได้มอบหมายให้สถาบันการเงินของรัฐ ทั้ง ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) บรรษัทค้ำประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เร่งรัดปล่อยสินเชื่อให้เร็วกว่านี้ เพราะที่ผ่านมา พบว่ายังปล่อยสินเชื่อได้ในระดับที่ไม่น่าพอใจ และไม่มีการประสานงานกันเท่าที่ควร ส่วนการลดต้นทุนนั้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนอยู่แล้ว โดยได้อนุมัติงบในโครงการปรับปรุงถนนรอบเกาะสมุย 900 ล้านบาท เพื่อช่วยดึงรายได้จากการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง"

.

ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าโครงการพัฒนาถนนรอบเกาะสมุย ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่  1 ใน 6,000 โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง ที่รัฐให้ความสำคัญในการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ และสนับสนุนงบประมาณ 900 ล้านบาท บูรณาการณ์เส้นทางคมนาคมรอบเกาะ 70 กิโลเมตร รวมทั้งก่อสร้างระบบระบายน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากบนเกาะ เชื่อว่าจะช่วยยกระดับระบบขนส่งระยะยาวอย่างถาวร ส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 ล้านคน มีรายได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 20,000 ล้านบาทจากปัจจุบัน ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม

.

นอกจากนั้นยังมีแนวคิดจะนำที่ราชพัสดุบริเวณแหลมไม้แก่น มูลค่า 440 ล้านบาท ขนาด 37 ไร่ มาสร้างศูนย์ประชุม เพื่อรอรับการเดินทางมาประชุมและท่องเที่ยว  เนื่องจากบนเกาะสมุยขณะนี้มีแต่โรงแรมที่พักขนาดเล็ก ไม่เหมาะในการจัดประชุม และพื้นที่ดังกล่าวมีทำเลดี ควรนำมาใช้เป็นสาธารณะประโยชน์มากว่าให้เอกชนเข้ามาบุกรุก

..

งบประมาณลงทุนด้านคมนาคมทั่วประเทศตามโครงการไทยเข้มแข็งนั้น ได้จัดสรรไว้กว่า 600,000 ล้านบาท เพื่อใช้พัฒนาระบบราง การขนส่งทางน้ำ ก่อสร้างถนนทางหลวงและโครงการถนนไร้ฝุ่น แม้ว่าเงินลงทุนจะมีจำนวนมหาศาล แต่เชื่อว่าจะคุ้มค่า เมื่อเทียบกับประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจในอนาคต

.

นอกจากนี้ ยังให้ส่วนราชการในพื้นที่เร่งรัดงบประมาณจากงบกลางปี 100,000 ล้านบาท ให้ออกสู่ระบบโดยเร็วและต้องการให้เงินลงทุนส่งผ่านไปยังภาคส่วนต่าง ๆ อย่างรวดเร็วเหมือนโครงการเช็คช่วยชาติ เบี้ยสูงอายุ เพื่อให้ทุกโครงการเบิกจ่ายอย่างรวดเร็ว

.
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์