เนื้อหาวันที่ : 2009-06-12 12:24:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1949 views

RPC เผยเพียวไบโอดีเซลหนุนรายได้ปีนี้โต เล็งศึกษาผลิตกลีเซอรีนต่อยอด

RPC คาดไบโอดีเซลหนุนรายได้ปีนี้โต 2.23 หมื่นล้านบาท หวั่นราคารน้ำมันผันผวนฉุดยอดกำไร เล็งลงทุนผลิตกลีเซอรีนต่อยอดโครงการผลิตไบโอดีเซล

บมจ.ระยองเพียวริฟาย(RPC)เปิดเผยว่า รายได้จากไบโอดีเซลคาดว่าช่วยผลักดันให้รายได้รวมของบริษัทในปีนี้ปรับตัวสูงขึ้นมาที่ 2.23 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท แต่ยังกังวลความผันผวนของราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังที่อาจจะมีผลกระทบต่อกำไร จึงจะเน้นการบริการสต็อกให้ดีที่สุด

.

ขณะที่สนใจการลงทุนผลิตกลีเซอรีนในอนาคตระยะยาว เพื่อต่อยอดโครงการผลิตไบโอดีเซล ภายใต้บริษัทย่อยคือ เพียวไบโอดีเซล คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่มาก

..

นายศุภพงศ์ กฤษณกาญจน์ ประธานคณะกรรมการบริหาร RPC กล่าวว่า รายได้ส่วนที่เติบโตขึ้นในปีนี้จะมาจากบริษัทมลูก คือ เพียวไบโอดีเซล ที่คาดว่าจะมีรายได้ 1.25 พันล้านบาท ขณะที่ธุรกิจน้ำมันยังคงคาดการณ์ว่าจะทำรายได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 2.2 หมื่นล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันยังมีความผันผวนสูง

.

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมั่นใจว่าจะมีกำไร เนื่องจากมีต้นทุนน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 40 เหรียญ/บาร์เรล และปัจจุบันราคาน้ำมันปรับขึ้นไปถึง 70 เหรียญ/บาร์เรล แต่ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทกังวลว่าจะเกิดสถานการณ์ราคาน้ำมันปรับลดลงอย่างรุนแรงเหมือนช่วงครึ่งหลังของปีก่อน แม้ว่าจะไม่ผันผวนมากเท่าก็ตาม ดังนั้น บริษัทก็จะเน้นการบริหารสต็อกน้ำมันให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด 

.

"หากปีนี้ครึ่งปีหลังราคาน้ำมันหักหัวลงอีก ก็คงไม่ส่งผลกระทบรุนแรงเหมือนปีก่อน เพราะปีก่อนขึ้นไปพีคถึง 140 เหรียญ แต่ปีนี้คงพีคไม่ถึง ก็เป็นเรืองยากนะที่จะคาดการณ์ครึ่งปีหลังว่าบริษัทจะขาดทุนจากสต็อกน้ำมันหรือไม่ เราต้องพยายามบริหารสต็อกให้ดีที่สุด เพื่อให้เกิดผลขาดทุนน้อยที่สุด" นายศุกพงศ์ กล่าว

.

ปัจจุบัน บริษัทมีภาระสำรองน้ำมันตามกฎหมายราว 30 ล้านลิตร ขณะที่โรงกลั่นระยองเพียว กำลังการผลิต 1.7 หมื่นบาร์เรล/วัน ผลิตได้ 1.2 หมื่นบาร์เรล/วัน คาดว่าทั้งปีจะเฉลี่ยที่ระดับนี้ ถือว่าเป็นระดับที่เหมะสมกับการขาย 

.

นายศุภพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้ตัดสินใจชะลอการลงทุนต่างประเทศออกไปอย่างไม่มีกำหนดทั้งที่เวียดนาม กัมพูชา และลาว แม้บริษัทยังมองโอกาสการลงทุนต่อเนื่อง แต่ยังจะไม่มีการลงทุนในอนาคตอันใกล้จนกว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งหากจะมีการลงทุนก็จะเป็นการลงทุนที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจไบโอดีเซล โดยบริษัทศึกษาที่จะผลิตกรีเซอลีน ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ได้จากการผลิตไบโอดีเซล คาดว่าจะใช้เงินลงทุนไม่มาก เพราะเป็นการต่อยอดการผลิตไบโอดีเซล

.

โรงงานเพียวไบโอดีเซล มีกำลังการผลิตประมาณ 3 แสนลิตร/วัน แต่เบื้องต้นใช้กำลังการผลิตเพียง 50% คาดว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มเป็น 75% และปีหน้าจะเพิ่มเป็น 85% ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบปาล์ม โดยขณะนี้ราคาปาล์มในตลาดอยู่ที่ประมาณ 28 บาท/กก.ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม ไม่สูงมากนัก แต่ยังมีความกังวลว่าอนาคตการบริหารจัดการระบบการผลิตปาล์มจะไม่มีประสิทธิภาพ ก็จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตไบโอดีเซล

.

สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้ร่วมทุนกับทาง บมจ.สัมมากร ภายใต้บริษัท เพียวสัมมากร ดีเวลลอบเม้นท์ จำกัด อยู่ระหว่างการสรุปงบประมาณลงทุนในโครงการศูนย์การค้าครบวงจรเพียวเพลส หน้าหมูบ้านสัมมากร ถนนรามคำแหง 110 คาดว่าบริษัทจะใช้งบลงทุนราว 350 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดต่อสถาบันการเงินเพื่อขอสินเชื่อ ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุน(D/E)เพิ่มเป็น 2.5 เท่า