เนื้อหาวันที่ : 2009-06-03 16:21:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1306 views

ฟอร์ติเน็ตเปิดตัวโซลูชั่นใหม่ด้านการจัดการช่องโหว่ในเครือข่าย

ฟอร์ติเน็ตเปิดตัวโซลูชั่นใหม่ด้านการจัดการช่องโหว่ในเครือข่าย มั่นใจช่วยให้ทั้งระบบ มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยสอดคล้องกับมาตรฐานและกฎระเบียบอย่างครบถ้วน FortiScan-1000B ช่วยตรวจหาช่องโหว่ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ระบบด้วย Patch Management และการตรวจสอบมาตรฐานระบบไอทีคอมพลายแอนซ์

ฟอร์ติเน็ตเปิดตัวโซลูชั่นใหม่ด้านการจัดการช่องโหว่ในเครือข่าย มั่นใจช่วยให้ทั้งระบบ   มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยสอดคล้องกับมาตรฐานและกฎระเบียบอย่างครบถ้วน FortiScan-1000B ช่วยตรวจหาช่องโหว่ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ระบบด้วย Patch Management และการตรวจสอบมาตรฐานระบบไอทีคอมพลายแอนซ์

.

ฟอร์ติเน็ต (Fortinet®) ผู้บุกเบิกและผู้ให้บริการชั้นนำด้านโซลูชั่นระบบการบริหารจัดการรักษาความปลอดภัยแบบเบ็ดเสร็จ หรือยูทีเอ็ม (UTM - Unified Threat Management) เร่งขยายขอบข่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยบนเครือข่าย พร้อมยกระดับความเชี่ยวชาญในเชิงลึก ประกาศเปิดตัว "FortiScan-1000B" โซลูชั่นล่าสุดสำหรับจัดการช่องโหว่ในเครือข่าย (Vulnerability Management: VM)

.

และตรวจสอบความสอดคล้องกับมาตรฐานและกฎระเบียบหรือคอมพลายแอนซ์ (Compliance) เพื่อนำไปใช้กับเครื่องลูกข่ายที่อยู่จุดปลายทางของระบบ ได้แก่ เดสก์ท็อป แล็ปท็อป รวมถึงอุปกรณ์เครือข่ายอื่นๆ อาทิเช่น เซิร์ฟเวอร์  โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นองค์กรระดับ  เอ็นเทอร์ไพรซ์ขนาดกลางและใหญ่ รวมถึงองค์กรภาครัฐ 

.

ทั้งนี้ FortiScan-1000B จะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปกป้องอุปกรณ์ลูกข่ายนับพันโดยการผนวกรวมขีดความสามารถอันหลากหลายเข้าไว้เป็นหนึ่งเดียว ได้แก่ ระบบจัดการช่องโหว่เครื่องลูกข่าย (Endpoint Vulnerability Management), ระบบควบคุมมาตรฐานด้านไอทีคอมพลายแอนซ์ ทั้งในส่วนของมาตรฐานอุตสาหกรรมและกฎระเบียบภาครัฐ, กระบวนการจัดการระบบปิดช่องโหว่ระบบคอมพิวเตอร์ (Patch Management) และแก้ไขจุดบกพร่อง รวมไปถึงการจัดการช่องโหว่ของระบบเครือข่าย

.

ทั้งนี้  การทำงานร่วมกันของ FortiScan™ พร้อมด้วย FortiDB™, FortiWeb™ และ FortiGate® ของฟอร์ติเน็ตที่พ่วงมาด้วยกัน จะให้ช่วยลูกค้าสามารถกำหนดกลยุทธ์ด้านคอมพลายเอนซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและครบวงจรยิ่งขึ้น ครอบคลุมตั้งแต่เครื่องลูกข่ายในระบบฐานลูกค้า ฐานข้อมูล เว็บแอพพลิเคชั่น ไปจนถึงเครือข่ายทั้งระบบ

.

FortiScan-1000B พัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีที่ฟอร์ติเน็ตซื้อจากซีเคียว เอเลเม้นส์ (Secure Elements) ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัยระบบไอทีเมื่อปีผ่านมา โดยซอฟต์แวร์ C5 Compliance ของซีเคียว เอเลเม้นส์ ถือเป็นโซลูชั่นชั้นแนวหน้าในกลุ่มเดียวกัน และ    ยังเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนา FortiScan-1000B อีกด้วย

.

นอกจากนี้ ฟอร์ติเน็ตยังได้ผนวกโมดุล Vulnerability Scanner จากผลิตภัณฑ์ในตระกูล FortiAnalyzer™ ซึ่งทำหน้าที่เก็บข้อมูลไว้อ้างอิง วิเคราะห์ และจัดทำรายงาน เข้ามาไว้ใน FortiScan อีกด้วย โมดูลระบบดังกล่าวเป็นจัดการช่องโหว่ที่ทำงานบนเครือข่ายที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถค้นหา จัดเก็บ และประเมินแนวโน้มของเหตุการณ์ต่างๆ ทางด้านซีเคียวริตี้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ของเซิร์ฟเวอร์ โฮสต์ และอุปกรณ์อื่นๆ   ทั้งนี้ แพลตฟอร์ม C5 Compliance และโมดุล FortiAnalyzer VM ถูกนำ                    มารวมกันบนฮาร์ดแวร์แพลตฟอร์มที่ถูกปิดช่องโหว่ทั้งหมด ให้มามีเกราะป้องกันภัยอย่างดีเพื่อสร้างขึ้นเป็น FortiScan-1000B

.

FortiScan-1000B ถือเป็นโซลูชั่นอันทรงพลังสำหรับองค์กรต่างๆ ที่จำเป็นต้องมีเพื่อไว้ควบคุมระบบให้สอดคล้องกับกฎเกณฑ์หลักๆ อย่าง PCI-DSS, SOX, GLBA, HIPAA เป็นต้น    นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมมาตรฐานระดับเอ็นเทอร์ไพรส์สำหรับลูกค้าในกลุ่มองค์กรภาครัฐและผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆ ผู้ใช้งานเหล่านี้สามารถบรรลุข้อกำหนดมาตรฐาน NIST (National Institute of Standards and Technology) / SCAP (Security Content Automation Protocol) ซึ่งรวมถึงมาตรฐาน Federal Desktop Core Configuration (FDCC)   ทั้งนี้ โซลูชั่น C5 Compliance ของซีเคียว เอเลเม้นส์ นับเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรกในโซลูชั่นประเภทเดียวกันที่ได้รับใบรับรอง SCAP

.

"กระบวนการพัฒนาระบบไปสู่การตรวจสอบความสอดคล้องกับมาตรฐานและกฎระเบียบ (Security Compliance) อาจเป็นเรื่องใหญ่และใช้เงินลงทุนสูงสำหรับหลายๆ องค์กร   ดังนั้น การมีเทคโนโลยีที่ช่วยควบคุมระบบคอมพลายแอนซ์แบบอัตโนมัติที่ครอบคลุมทั่วทั้งเครือข่ายบนแพลตฟอร์มเดียวกัน สามารถ  ลดระดับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยลงได้มาก ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายและความซับซ้อนในการจัดหาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องอีกด้วย" มร. ไมเคิล เซีย ซีทีโอและผู้ร่วมก่อตั้งฟอร์ติเน็ต กล่าว 

.

FortiScan-1000B ช่วยให้องค์กรระดับเอ็นเทอร์ไพรซ์และหน่วยงานภาครัฐสามารถกำหนดรูปแบบเฉพาะด้านความปลอดภัยและคอมพลายแอนซ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยผ่านระบบตรวจหาช่องโหว่ ระบบตรวจสอบภายใน ระบบแก้ไขจุดบกพร่อง และระบบจัดทำรายงาน ซึ่งง่ายต่อการติดตั้งใช้งานและบริหารจัดการ

.

FortiScan: มีขีดความสามารถด้านการรักษาความปลอดภัยดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบจัดการช่องโหว่ในเครือข่ายที่ครอบคลุมแบบเบ็ดเสร็จ

.

Vulnerability Management: ตรวจหาช่องโหว่และจุดเสี่ยงด้านมาตรฐานคอมพลายแอนซ์บนเครื่องลูกข่าย โฮสต์ เซิร์ฟเวอร์ และทั่วทั้งเครือข่ายได้อย่างทั่วถึง ไปจนถึงผู้ใช้ต่างๆ ทั้งนี้ การตรวจหาช่องโหว่และจุดเสี่ยงจัดการความเสี่ยง ณ จุดปลายสุดของระบบเครือข่าย (endpoint VM) สามารถทำได้ด้วยการตรวจสอบผ่านทางซอฟท์แวร์บนเครื่องลูกข่าย ขณะที่การจัดการช่องโหว่ของเครือข่ายสามารถทำได้โดยตรวจสอบผ่านทางระบบเครือข่ายโดยไม่ต้องมีการลงซอฟท์แวร์เพิ่มเติมที่ระบบลูกข่าย โดยที่ FortiAnalyzer ทำหน้าที่ค้นหาทรัพยากรในเครือข่าย การจัดลำดับความสำคัญ และการสแกนแบบใช้โปรไฟล์เป็นหลัก

.

Auditing:.ตรวจสอบภายในและติดตามความเคลื่อนไหวในระบบย่อยต่างๆ รวมทั้งจัดการวัดเกณฑ์เปรียบเทียบมาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับการตรวจสอบระดับความปลอดภัยของข้อมูล    IS Compliance ในส่วนของระบบปฏิบัติการ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถที่จะเลือกจากรายชื่อของ Audit Benchmarks หรือจะสร้างมาตรฐานการตรวจสอบภายในของตนเองโดยการเลือกหน่วยควบคุมที่เหมาะสม วิธีการนี้ช่วยให้เกิดความยืดหยุ่นสูงสุดกับผู้ใช้งานในระบบลูกค้า และในขณะเดียวกันขอบข่ายการตรวจสอบภายในก็จะตรงตามกำหนดมาตรฐานด้วย 

.

Patch/Remediation: มีขีดความสามารถด้านการจัดการระบบปิดช่องโหว่ระบบคอมพิวเตอร์ (Patch Management) พร้อมด้วยระบบแก้ไขจุดบกพร่องแบบพร้อมปฏิบัติงาน เสริมขีดความ สามารถด้านการแก้ไขจุดบกพร่องที่เหนือกว่า ช่วยให้เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเครือข่ายสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าและลดข้อด้อยต่างๆ ซึ่งรวมถึงการปิดการทำงานของแอพพลิเคชั่นใดๆ หรือปฏิเสธการเรียกทำงานผ่านทางระบบเครือข่าย

.

Reporting/Compliance: ช่วยในการปรับระบบไอทีให้รองรับมาตรฐานและข้อบังคับต่างๆ ด้วยขีดความสามารถในการรายงานและวิเคราะห์แบบ 360 องศา; มีสำเร็จรูปในส่วนของมาตรฐานอุตสาหกรรม กฎระเบียบภาครัฐ และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศที่องค์กรอื่นใช้ได้ผลมาแล้ว สำหรับปรับใช้กับมาตรฐาน ISO 17799, SOX, HIPAA, GLBA, NIST, SCAP, FISMA และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังสามารถเรียกดูและแสดงผลรายงานสำหรับตรวจสอบคอมพลายแอนซ์อีกด้วย

.

เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอื่นๆ ของฟอร์ติเน็ต FortiScan-1000B มาพร้อมกับการบริการของศูนย์บริการสมาชิกฟอร์ติการ์ด (FortiGuard™ Subscription Service) เพื่อให้ลูกค้าสามารถรับและติดตั้ง FortiScan รวมถึงระบบแก้ไขจุดบกพร่อง และโปรแกรมอัพเดทในส่วนของการป้องกันช่องโหว่ในฐานข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้โดยอัตโนมัติ 

.

เมอร์ลิน อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ให้บริการระบบโซลูชั่นต่างๆ ได้รวมเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยเครือข่ายของฟอร์ติเน็ตพ่วงไปกับโซลูชั่นของบริษัทที่เรียกว่า Infrastructure Optimization โดย มร.จอห์น เทราธ์ ประธานแผนกเทคโนโลยีซิสเต็มส์ของเมอร์ลิน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า "คอมพลายแอนซ์เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง แม้ในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ การได้โซลูชั่นที่ ครบวงจรและช่วยขจัดความไม่แน่ใจออกจากการเลือกผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายในส่วนของการจัดการและอื่นๆ ถือเป็นจุดขายสำคัญสำหรับลูกค้าของเรา"

.

"นอกจากนี้ เรารู้สึกตื่นเต้นกับช่องทางสร้างรายได้ใหม่ที่มาพร้อมกับการนำเสนอ FortiScan-1000B ซึ่งช่วยให้ขายง่ายขึ้น เพราะไม่เพียงเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคอมพลายแอนซ์เท่านั้น แต่ยังเป็นผลจาการที่โซลูชั่นดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ได้รับความเชื่อถือสูงจากฟอร์ติเน็ตอีกด้วย"

.

FortiScan-1000B มาพร้อมกับพื้นที่เก็บบันทึกข้อมูลขนาด 2 เทราไบต์ และรองรับเครื่องลูกข่ายได้สูงสุดถึง 2,000 เครื่อง   ทั้งนี้ FortiScan-1000B จะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ FortiScan ดูได้ที่ http://www.fortinet.com/products/fortiscan/

.
เกี่ยวกับ Fortinet (www.fortinet.com)

ฟอร์ติเน็ต เป็นผู้บุกเบิกและผู้ให้บริการชั้นนำด้านระบบจัดการภัยคุกคามแบบรวม หรือที่เรียกว่า ยูทีเอ็ม (UTM - Unified Threat Management) แบบ ASIC ซึ่งใช้ในองค์กรธุรกิจและผู้ให้บริการเครือข่าย  เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยควบคู่ไปกับการลดต้นทุนการดำเนินการ

.

โซลูชั่นของฟอร์ติเน็ตพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงการประสานระบบป้องกันภัยหลากหลายระดับเข้าด้วยกัน อันประกอบด้วยไฟร์วอลล์ แอนตี้ไวรัส ระบบตรวจสอบและป้องกันการบุกรุกเข้าสู่ระบบเครือข่าย (IPS) ระบบเครือข่ายส่วนตัวแบบเสมือน (VPN) การป้องกันสปายแวร์ และแอนตี้สแปม  ซึ่งออกแบบขึ้นเพื่อป้องกันเครือข่ายและองค์ประกอบที่มีความสำคัญจากภัยคุกคาม 

.

ทั้งนี้ ด้วยการใช้เทคโนโลยี ASIC และส่วนติดต่อเดียวร่วมกันทำให้โซลูชั่นของฟอร์ติเน็ตสมบูรณ์ด้วยความสามารถในการรักษาความปลอดภัยตั้งแต่การดูแลผ่านเครือข่ายสำนักงานย่อยไปจนถึงโซลูชั่นที่ต้องพร้อมสำหรับการขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง เช่น Chassis-based solution ร่วมกับระบบการจัดการแบบบูรณาการในการทำรายงานและจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์

.

นอกจากนี้ โซลูชั่นของฟอร์ติเน็ตได้รับรางวัลจากสถาบันต่างๆ ทั่วโลกและเป็นผลิตภัณฑ์ด้านการรักษาความปลอดภัยเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับการรับรองจาก ICSA Labs ถึงเจ็ดกลุ่มแอพพลิเคชั่น (ไฟร์วอลล์, แอนตี้ไวรัส, IPsec, SSL, Network IPS, แอนตี้สปายแวร์ และแอนตี้สแปม)   สำนักงานใหญ่ของฟอร์ติเน็ตตั้งอยู่ที่เมืองซันนี่เวล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา