การเลือกกันเองให้เป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ชุดที่ 3 จากจำนวน 991 คนให้ได้ 99 คน นับว่ารุนแรงในการจะตัดสินใจให้ได้หนึ่งในสิบพอสมควร เมื่อการเลือกกันเองสิ้นสุดลงมีการนินทาทางลบเกี่ยวกับการจัดกลุ่มเลือกกันเองนั้นมีสิ่งแฝงเร้นอยู่เป็นอันมาก อันจะนำมาสู่การฟ้องร้องที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายตามมา
|
. |
การเลือกกันเองให้เป็นสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) ชุดที่ 3 จากจำนวน 991 คนให้ได้ 99 คน นับว่ารุนแรงในการจะตัดสินใจให้ได้หนึ่งในสิบพอสมควรและต้องเลือกกันมากกว่า 1 รอบ เพราะคะแนนเท่ากันในบางกลุ่ม |
. |
เมื่อการเลือกกันเองสิ้นสุดลงมีการนินทาทางลบเกี่ยวกับการจัดกลุ่มเลือกกันเองนั้นมีสิ่งแฝงเร้นอยู่เป็นอันมาก อันจะนำมาสู่การฟ้องร้องที่ไม่ชอบด้วยกฏหมายตามมา |
. |
จากอดีตที่มีข่าวฟ้องร้องศาลปกครองจนพิพากษาแล้วมีการอุทธรณ์ ยุ่งเหยิงเป็นวัวพันหลักเพราะความไม่ชัดเจนของข้อกฎหมายที่ใช้ตาม พ.ร.บ. การจัดตั้ง การได้มาของสมาชิกโดยเฉพาะการลอกเลียนแบบใช้บล๊อคโหวต บังคับให้กลุ่มเลือกคนที่มีความคาดหวังจะได้เป็นด้วยจำนวนเสียงข้างมาก |
. |
คนที่รับจ้างโหวตจึงเกิดขึ้นจะเต็มใจหรือไม่ขึ้นกับอิทธิพลของกลุ่ม เพราะมีเสียงซุบซิบนินทามาตลอดว่ามีการจ่ายเงินให้คนละแสนถึงล้านบาท เพื่อให้ได้เป็นสมาชิก เพราะแรงจูงใจคือเกียรติยศ ชื่อเสียง และถึงขั้นได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสายสะพาย หากพ่อค้าบางคนใช้เงินว่าจ้างขบวนการกลุ่มให้จ้างคนโหวตเลือกตนเข้าไปด้วยคะแนนสูงสุดด้วยเงินเพียงเท่านั้น นับว่าคุ้มทุนมาก นิสัยเช่นนี้ไม่ใช่มีเฉพาะพ่อค้านักการเมืองก็เข้าไปมีอิทฺพลทางอ้อมด้วย |
. |
การเลือกตั้งที่อาจเป็นทางการทุจริตทำผิดตามระเบียบข้อบังคับ ด้วยเจตนาของศรีธนญชัย หัวหมอเกิดขึ้นต้องฟ้องร้องเรียกร้องให้ศาลไต่สวนและตัดสินใจเด็ดขาดต่อไป |
. |
หากคำนินทานั้นเป็นจริงก็น่าเสียดายว่าองค์กรตามรัฐธรรมนูญที่เป็นอิสระนี้ได้สมาชิกที่ใช้เงินซื้อเข้าไปจะทำให้ภาพลักษณ์ไม่แจ่มนัก จะไปคาดหวังความสง่างามได้อย่างไรกับสภาอันทรงเกียรติที่ปรึกษาจอง ครม. ต้องนำไปใช้งาน |
. |
ประเด็นที่สำคัญคือการได้มาของสมาชิก สป. ต้องสะสางกันใหม่เพื่อให้โปร่งใสและตรวจสอบด้วยภาคประชาชนอย่างเข้มงวดและเพื่อให้บริสุทธิ์ยุติธรรมควรใช้วิธีจับสลากเหมือนนักเรียนเข้าเรียนในโรงเรียนที่อยากได้ เมื่อปริมาณความต้องการมากกว่าของที่มีอยู่ต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีหรือขึ้นกับโชควาสนาที่เสี่ยงจับสลากแทน เพราะการบล๊อคโหวตเป็นต้นเหตุ |
. |
ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินว่าข้อกฎหมายใด่ที่เกิข้อขัดแย้งในกฎหมายรัฐธรรมนูญ จะเห็นจากการยุบพรรคการเมืองที่ทุจริต การวินิฉัยสิ่งที่องค์กรทำการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นแบบให้ปฏิบัติรัฐประหารแต่ละครั้ง มักโทษว่ามีช่องโหว่ทางกฎหมายที่ ส.ส. ในรัฐสภาซื้อสิทธิขายเสียงมาแล้วชักทุนคืนในภายหลัง |
. |
ต้องแก้กฎหมายการได้มาของ ส.ส. อุดช่องว่างไม่ให้ใช้งินซื้อเสียง แต่ดูเหมือนศรีธนญชัยจะหลบหลีกไปได้เสมอ แม้ กกต. จะตรวจสอบเข้มงวดก็จับได้เป็นส่วนน้อย ส่วนที่เล็ดลอดได้ก็จะไม่แสดงออกให้พิรุธ แต่ความเป็นจริงนั้นคนซื้อเสียง คนขายเสียงรู้กันเพราะโลกนี้ไม่มีใครโกหกตนเองได้ |
. |
ความไม่โปร่งใสของกรรมการสรรหาที่ให้สมาชิก สป. เดิม มีส่วนได้เสียเป็นกรรมการ และซ้ำร้ายกรรมการบางคนยังส่งคู่สมรส บุตร เข้าไปรับการคัดเลือกอีก มีประเด็นทางกฎหมายที่ศาลสั่งว่าไม่ชอบด้วยกฏหมายแล้วเช่นกันในการคัดเลือกลักษณะนี้ |
. |
การที่องค์กรเสนอตัวสมัครให้คัดเลือกในระดับความมีตัวตนแม้จริง มีกิจกรรมแล้วองค์กรเสนอชื่อสมาชิก บุคคลที่มีคุณสมบัติเข้าไปประกวดเหมือนพรรคการเมืองส่งสมาชิกเข้ารับการเลือกตั้ง การสรรหาผู้เหมาะสมให้ไปเลือกกันเองก็เหมือน ส.ส. ไปเลือกกันเองว่าใครจะเป็นรัฐบาล เสียงข้างน้อยจะเป็นฝ่ายค้าน |
. |
แต่ สป. นั้น เลือกกันเองด้วยคะแนนอิงกลุ่มบล๊อคโหวตคนที่ไปโหวตด้วยการเสียสละคะแนนเลือกตัวเองให้คนที่กลุ่มคาดหวังจะไปเป็นสมาชิก จึงมีบางคนได้คะแนนศูนย์เพราะยกคะแนนให้กลุ่มบางกลุ่มจึงได้คะแนน 3 เท่าของจำนวนที่ต้องการ เช่นฐานอาชีพจะแบ่งเป็น 7 หมวดมีคน 96 คน เลือกกันเองให้ได้ 17 เสียง จึงจะสอบติด ปรากฏว่าแต่ละคนได้คะแนนถึง 38-49 คะแนน เป็นจำนวนที่สอบผ่านที่เหลือ 79 คนสอบตก |
. |
ตัวเลขนี้น่าศึกษามากกว่ากลุ่มบล๊อคโหวตทำได้อย่างไรที่ได้คะแนนมากขนาดนั้น คำตอบคือการจัดตั้งมุ้งใหญ่ขึ้น ส่งคนที่อยากจะเป็นให้ได้คะแนนสูง คนที่ไม่อยากเป็น (เพราะถูกว่าจ้างหรือจับสลากไม่ให้ลงคะแนนให้ตนเอง) ก็ไม่ต้องใช้คะแนน คนนอกกลุ่มก็เป็นเพียงตัวประดับจะมีการจัดตั้งกลุ่มบล๊อคโหวตนี้สองสามกลุ่มในแต่ละกลุ่มภาคต่างๆ ที่รวมแล้ว 991 คน ที่คัดให้เหลือ 99 คนดังกล่าว |
. |
การตั้งบล๊อคโหวตจะด้วยเจตนาซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ก็ตามทำให้เห็นถึงการจัดตั้งรัฐบาลที่ล้มลุกคลุกคลานเพราะทุจริตเป็นต้นเหตุ แต่ที่ สป. คงไม่ได้กินคำใหญ่ขนาดนั้น เพียงแต่ว่าการสมประโยชน์เกื้อกูลกันในการแบ่งปันงบประมาณ การจัดกิจกรรม วิจัย การเดินทางไปทัศนศึกษา การใช้เงินไปเพื่อกิจกรรมในการประชุมการรับรองต่างๆ แม้เงินงบประมาณไม่มากนัก แต่เป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตาเพราะอยู่ในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญที่ทรงเกียรติ |
. |
มีสมาชิกทุกภาคส่วน ความรู้ประถมศึกษาจนถึงดุษฏีบัณฑิต ฐานะทางเศรษฐกิจจากเดือนละเป็นพันบาท จนถึงระดับสิบล้านบาท สมาชิกอยู่วมกันได้ในฐานะเดียวกันคือที่ปรึกษาและมีเครื่องราชอิสริยาภรณ์ตอบแทนความดีความชอบที่เสียสละตนเองมาเป็นที่ปรึกษาซึ้งได้เพียงค่าเบี้ยประชุมเดือนละไม่ถึงหมื่นบาทและค่าที่พัก ค่าเดินทางระดับซี 9 ของข้าชการวาระละ 3 ปีเป็นได้ไม่เกิน 2 วาระ |
. |
พฤติกรรมของสมาชิกมีงานวิจัยบ่งบอกว่ามีทั้งรู้จริงและไม่รู้อะไรมากนัก เพราะซื้อเสียงเข้ามา บางรายเซ็นชื่อเข้าประชุมเอาเบี้ยเลี้ยงแล้วรีบออกจากห้องเพราะพูไม่เป็น เนื่องจากขาดสติปัญญาที่แท้จริง บางรายขาดประชุมเพราะไม่มีเวลาต้องทำธุรกิจส่วนตัวบางรายเอาแต่ทัวร์ต่างจังหวัดต่างประเทศ เกาะกลุ่มดูงานทัศนศึกษา หรือทำงานฉาบหน้า เป็นข่าวในสื่อมวลชน พฤติกรรมนี้เหมือน ส.ส. และ ส.ว. เช่นกัน |
. |
การฟ้องร้องของคนที่ผิดหวังไม่ได้รับการคัดเลือกตั้งแต่การสรรหาจนถึงการคัดเลือกกันเอง เป็นเหตุไม่สงบซึ่งข้อครหาที่รัฐบาลต้องสะสางคือ การได้มาซึ่งกรรมการสรรหาคัดเลือกองค์กรกระดาษ เสมือนตั้งโต๊ะบิลเลียด สมาชิกที่องค์กรส่งมีการเล่นพรรคเล่นพวก ติดสินบนกันขนาดไหนกรรมการบางคนเป็นสมาชิก สป. อยู่ย่อมมีส่วนได้เสีย แล้วส่งลูกผัวเมียตนเองก็มีกรรมการบางคนไม่ได้ไปประชุมด้วยตนเอง |
. |
ให้ลูกน้องไปทำการแทนและตัดสินใจได้ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ประเด็นเหล่านี้มีการฟ้องกันอยูทุกครั้ง เมื่อคัดกันเองก็มีเสียงบล๊อคโหวตที่แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันดูเหมือนเรื่องเงินจะเป็นเหตุทำให้คนที่จัดกระบวนการเรียกคนโหวตจะเป็นเหมือนซื้อสิทธิขายเสียงที่ทำได้เนียนมาก และแบ่งกันได้อิ่มเอมพอสมควร |
. |
ใครจะจัดการเรื่องซื้อสิทธิขายเสียงที่ระบาดไปทุกวงการได้บ้าง ข้าราชการอยากได้เลื่อนตำแหน่งต้องใช้เงินซื้อหรือแลกด้วยเพศสัมพันธ์ อธิบดีต้องจ่ายไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท จนถึงระดับรัฐบาลอยากเป็นรัฐมนตรีต้องจ่ายเป็นร้อยเป็นพันล้านเข้าพรรค ขนาดเด็กอนุบาลจะเป็นหัวหน้าชั้นยังต้องติดสินบนด้วยขนม ติดนิสัยซื้อตำแหน่งไปจนโตแล้วคนดีๆ ที่ไม่มีปัญญาหาเงินจะทำอย่างไร คนที่มีเงิน (โกงมาหรือเป็นร่างทรงเศรษฐี) ย่อมได้โอกาสมากกว่า |
. |
หากได้คนโง่ก็โชคร้าย ได้คนฉลาดแกมโกงก็จะวิบัติเพราะคนเฉลียวฉลาดนั้นหากโกงแล้วยากที่จะจับได้ สป. เป็นที่รวมของคนที่มีสติปัญญา เป็นถึงที่ปรึกษา หากพ่อค้าที่มุ่งกำไรกระทำสิ่งใดที่แฝงเร้นน่าเป็นห่วงมากสำหรับความคาดหวังของสังคม จึงได้บอกว่าเลิกบล๊อคโหวตนี้เสีย |
. |
ให้การสรรหาโปร่งใสและจับสลากกันจะดีกว่า เพื่อมิให้วงการต่างๆ เลียนแบบการบล๊อคโหวตนี้อีกเลิกเสียทีกับการทำงานไม่โปร่งใสไม่เป็นธรรมไม่เป็นกลาง ไม่เป็นตามกฏระเบียบข้อบังคับ ขณะนี้มีการฟ้องร้องศาลปกครองกลางคดี 705/2552 เรียบร้อยแล้ว และกำลังมีผู้มีส่วนได้เสียร้องทุกข์ แถลงข่าวต่ออีก อะไรจะขนาดนั้นกับเรื่องซื้อสิทธิขายเสียงที่ระบาดไปแทบทุกหย่อมหญ้าขนาดนี้ |
. |
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน |