เนื้อหาวันที่ : 2009-05-28 15:56:24 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1242 views

ก.อุตสาหกรรมลุยโรดโชว์อินเดีย หวังดึงการลงทุนผลิตปุ๋ย-รถแทรกเตอร์

รมว.อุตสาหกรรม เดินหน้าโรดโชว์อินเดีย ชูศักยภาพเป็นศูนย์กลางการส่งออกในภูมิภาค หวังดึงผู้ผลิตปุ๋ยและรถแทรกเตอร์การเกษตรขยายฐานการผลิตมายังไทย

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม เตรียมนำคณะเดินทางโรดโชว์ที่ประเทศอินเดียระหว่าง 2-7 มิ.ย.นี้ ชูศักยภาพเป็นศูนย์กลางการส่งออกในภูมิภาค หวังดึงผู้ผลิตปุ๋ยและรถแทรกเตอร์การเกษตรขยายฐานการผลิตมายังไทย

.

การเดินทางไปครั้งนี้จะได้พบปะกับผู้ประกอบการของไทยที่เข้าไปลงทุนในอินเดีย และหารือร่วมกับผู้ประกอบการรายใหญ่ของอินเดียใน 2 เมือง ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมที่สำคัญ คือ มุมไบ และนิวเดลี ประกอบด้วย กลุ่มนักธุรกิจในอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนฯ อุตสาหกรรมสิ่งทอ อุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตร อุตสาหกรรมผลิตปุ๋ยและเคมีภัณฑ์ รวมกว่า 20 บริษัท เช่น บริษัท Deepak ผู้ผลิตปุ๋ยและเคมีภัณฑ์รายใหญ่ระดับโลก กลุ่มบริษัท เบอร์ลา ซึ่งเป็นผู้ผลิตสิ่งทอและเคมีภัณฑ์ เป็นต้น 

.

นอกจากนี้จะเยี่ยมชมโรงงานของบริษัท ทาทา มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์เล็กรุ่นนาโนที่มีชื่อเสียงในประเทศอินเดีย ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้ามาลงทุนผลิตรถปิกอัพในประเทศไทยแล้ว และเตรียมลงทุนในโครงการผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล(อีโคคาร์) รวมทั้งเยี่ยมชมโรงงานผลิตรถแทรกเตอร์ที่ใช้ในการเกษตรขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณาขยายตลาดการส่งออกรถแทรกเตอร์ขนาดเล็กมายังภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นโอกาสของไทยที่จะให้ข้อมูลและกระตุ้นให้บริษัทตัดสินใจเลือกที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในอนาคต 

.

"อินเดียเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ และยังคงขยายตัวเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และเป็นเป้าหมายสำคัญที่จะชักจูงให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย การโรดโชว์ครั้งนี้มั่นใจว่าจะสร้างความรู้และความเข้าใจ เป็นโอกาสชี้แจงถึงนโยบาย และแนวทางการส่งเสริมการลงทุนของไทยที่พร้อมรองรับการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งให้ข้อมูลที่นักธุรกิจจะใช้ในการพิจารณาตัดสินใจเลือกไทยเป็นประเทศแรกๆ ในการเข้ามาลงทุน หรือย้ายฐานการผลิต" นายชาญชัย กล่าว 

.

นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) กล่าวว่า อินเดียเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเป็นผู้ผลิตสินค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ยานยนต์ ซอฟต์แวร์ เคมีภัณฑ์ เครื่องจักรกลการเกษตร สิ่งทอ เป็นต้น เนื่องจากมีความพร้อมจากทั้งด้านแรงงานและเทคโนโลยี อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดใหม่ที่ควรจะต้องเร่งผลักดันให้เกิดการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น 

.

การโรดโชว์ครั้งนี้จะเน้นรูปแบบของการชักจูงให้นักธุรกิจอินเดียเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และเตรียมแนวทางส่งเสริมให้นักลงทุนของไทยเข้าไปลงทุนในประเทศอินเดียในอนาคต โดยภายในปีนี้บีโอไอยังจะจัดคณะชักจูงการลงทุนออกไปยังประเทศอินเดียอย่างน้อยอีก 3 ครั้ง ซึ่งรวมถึงการนำนักธุรกิจไทยออกไปดูลู่ทางการลงทุนในประเทศอินเดียด้วย เพื่อกระตุ้นให้ผู้ผลิตไทยเห็นถึงโอกาสในการเข้าไปลงทุนเพื่อลดต้นทุนการผลิตและขยายตลาดสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นประเทศที่มีขนาดตลาดใหญ่เพราะมีประชากรจำนวนมาก 

.

สำหรับการลงทุนจากอินเดียในปี 51 บีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนรวมทั้งสิ้น 21 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนกว่า 9,592 ล้านบาท ครอบคลุมในกิจการซอฟต์แวร์ เครื่องประดับ เหล็กแผ่นรีดร้อน และยานยนต์ 

.

ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-เม.ย.)บีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุนแล้ว 3  โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 151 ล้านบาท ในกลุ่มเคมีภัณฑ์ อุตสาหกรรมการเกษตร และอุตสาหกรรมบริการ เป็นต้น ขณะที่ผู้ประกอบการยรายใหญ่ของอินเดียที่เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว เช่น บริษัท อินโดรามา โพลิเมอร์ จำกัด(มหาชน), บริษัท ทาทา มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด,  บริษัท เอ็น ที เอส สตีล กรุ๊ป จำกัด  และบริษัท อัลวา อลูมิเนียม จำกัด เป็นต้น