เนื้อหาวันที่ : 2009-05-13 15:59:18 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1136 views

รัฐบาลอัดงบเข้าต้นกล้าอาชีพอีก 200 ลบ. หวังชลอเลิกจ้าง

รัฐบาลอภิมหาประชานิยม อัดงบประมาณลงโครงการต้นกล้าอาชีพอีก 200 ล้านบาท ร่วมกับ 8 สมาคมท่องเที่ยว จัดอบรมบุคลากรท่องเที่ยว หวังชลอการเลิกจ้าง

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการบริหารโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ว่างงาน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมในชุมชน(โครงการต้นกล้าอาชีพ) เปิดเผยว่า วันนี้รัฐบาลได้ลงนามความร่วมมือกับสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยว 8 สมาคม ในการจัดโครงการฝึกอบรมบุคลากรในธุรกิจท่องเที่ยวทั้งระบบ เพื่อยกระดับความสามารถและช่วยชะลอการเลิกจ้าง

.

รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเบื้องต้นไว้ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะช่วยชะลอการเลิกจ้างงานในธุรกิจนี้ได้ไม่น้อยกว่า 20,000 อัตราภายใน 1 ปี ซึ่งในอนาคตรัฐบาลจะขยายโครงการให้ครอบคลุมไปยังธุรกิจอื่นๆ ต่อไป 

.

"โครงการนี้ได้รับอนุมัติในหลักการ และจัดสรรงบเบื้องต้น 200 ล้านบาท ซึ่งต้องเข้าใจว่าตอนนี้เงินทองหาลำบาก แต่รัฐพยายามจะขยายโครงการออกไปเรื่อยๆ" นายกอร์ปศักดิ์ ระบุ

.

สำหรับโครงการต้นกล้าอาชีพได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมี.ค.52 มีการฝึกอบรมอาชีพให้ผู้ว่างงานไปแล้ว 70,000 คน ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าหมายจะใช้โครงการนี้ช่วยชะลอการเลิกจ้าง 5 แสนอัตรา โดยใช้งบประมาณ 7 พันล้านบาท 

.

นายชุมพล ศิลปอาชา รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อเตรียมความพร้อมของบุคลากรด้านการท่องเที่ยวไว้รองรับช่วงไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึงในราวเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งถือว่าโครงการนี้เป็นรูปธรรมชัดเจนที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาของธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในช่วงภาวะวิกฤติได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม 

.

ส่วนสถานการณ์การท่องเที่ยวช่วง 4 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-เม.ย.52) มีจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนไม่เกิน 20% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่มีการฟื้นตัวเป็นอย่างดี เพราะวิกฤติที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวที่ไทยประสบอยู่ต่างเป็นเช่นเดียวกับที่ทั่วโลกเผชิญ และหลังจากดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องต่างๆ แล้ว การจัดทำแผนงานที่จะให้การท่องเที่ยวเป็นวาระแห่งชาตินั้นเป็นสิ่งที่จะต้องดำเนินการต่อไป 

.

นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่เข้ามาช่วยเหลือก็คาดว่าบุคลากรด้านการท่องเที่ยวอาจต้องถูกเลิกจ้างราว 10% หรือคิดเป็นประมาณ 2.5 แสนคน ดังนั้นโครงการนี้จะช่วยรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพไว้ เพราะไม่เช่นนั้นหากสถานการณ์การท่องเที่ยวฟื้นตัวจะทำให้ประเทศชาติสูญเสียโอกาส ซึ่งภาคเอกชนจะช่วยกันทำโครงการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้