เนื้อหาวันที่ : 2009-05-11 12:15:24 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 945 views

หอการค้าแนะดูแลเงินบาทให้สอดคล้องค่าเงินภูมิภาค ห่วงส่งออกเสียเปรียบ

ประธานกรรมการหอการค้าไทย แนะทางการควรดูแลค่าเงินบาทให้สมดุลสอดคล้องกับประเทศในภูมิภาค เน้นเอื้อประโยชน์ภาคการส่งออก ไม่ให้เสียเปรียบเพื่อนบ้าน

นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย เห็นว่า ทางการควรเข้ามาดูแลค่าเงินบาทในขณะนี้ให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับประเทศในภูมิภาค ไม่ควรให้แข็งค่าหรืออ่อนค่าจนเกินไป แต่ต้องดูแลให้เกิดความสมดุล ซึ่งในหลักการดูแลค่าเงินนั้นต้องดูภาพรวมทั้งประเทศคู่ค้าและประเทศคู่แข่ง เช่น เกาหลีใต้ที่มีนโยบายให้เงินวอนอ่อนค่าลง ซึ่งเห็นว่าหากไทยดูแลค่าเงินบาทให้เอื้อประโยชน์ต่อภาคการส่งออกก็ถือเป็นประโยชน์ ดังนั้น นโยบายใดของประเทศคู่ค้าคู่แข่งที่เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีเราก็ควรจะปฏิบัติตาม  

.

"เราควรดูแลเงินบาทไม่ให้แข็งค่าเกินไป หรืออ่อนค่าเกินไป ดูอย่างเช่น เกาหลี หรือสิงคโปร์ เราต้องรักษาความสมดุลให้ทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน...(เงินบาท)แข็งค่าหรืออ่อนค่าเกินไป เรามีตัวเลขที่จะเปรียบเทียบดูได้ชัดเจน เราต้องดูว่าประเทศต่างๆ เป็นอย่างไร อะไรที่เป็นประโยชน์ก็ดูว่สมควรจะทำตามหรือไม่"นายดุสิต กล่าว 

.

ทั้งนี้ เชื่อว่าบทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะดูแลค่าเงินบาทอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องดำเนินการให้ชัดเจนและให้ค่าเงินบาทเกิดความสมดุลไม่เสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้าน 

.

นายดุสิต ยังกล่าวด้วยว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ และทำให้ประเทศได้รับการชื่นชมว่าเป็นแหล่งที่เอื้อต่อการลงทุน โดยอาศัยแรงงานที่มีคุณภาพหรือการเป็นแหล่งกระจายสินค้า ซึ่งเห็นว่าคนไทยทุกคนต้องช่วยกันให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้า อย่าทำให้ปัญหาเล็กน้อยเป็นตัวขัดขวางจนเป็นอุปสรรคทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น 

.

ขณะนี้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศในหลายด้านกำลังได้รับการแก้ไข ปัญหาต่างๆ เริ่มลดลง ดังนั้นไม่ควรมีปัญหาเข้ามาแทรกซ้อนจนเป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจของนักลงทุน 

.

ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวด้วยว่า การที่รัฐบาลเตรียมจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตน้ำมันนั้น ยอมรับว่า อาจจะกระทบให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายของภาคเอกชนสูงขึ้น แต่ต้องพิจารณาถึงเหตุผลและความจำเป็นของรัฐบาลด้วย เพราะขณะนี้รัฐบาลมีปัญหาเรื่องการจัดเก็บรายได้ ดังนั้นหากเป็นนโยบายที่ต้องพึ่งพากัน ภาคเอกชนก็พร้อมจะสนับสนุน

.

"เรื่องภาษีเป็นเรื่องที่ต้องดู ยอมรับว่าขณะนี้รัฐบาลเก็บภาษีได้น้อย ต้องหาทางเก็บภาษีอื่นๆ แต่หากการเก็บภาษีใดที่มีผลกระทบต่อภาคเอกชน ก็ต้องทบทวน ต้องดูว่าอะไรเป็นประโยชน์ต่อภาพรวม ต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้ประเทศขับเคลื่อนไปได้" นายดุสิต ระบุ 

.

อย่างไรก็ดี ขณะนี้หอการค้าไทยได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเริ่มวางกรอบการจัดทำนโยบายต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อเตรียมจะนำเสนอให้แก่รัฐบาลต่อไป