เนื้อหาวันที่ : 2009-04-29 16:07:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 6527 views

ฝาจีบชูวิสัยทัศน์ผู้นำโรงงานรักษ์โลก-ประหยัดพลังงาน

บริษัท ฝาจีบ เดินหน้าลุยนโยบายประหยัดพลังงานและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ติดตั้งระบบทำน้ำเย็นเพื่อใช้ในการหล่อเย็นเครื่องจักร และปรับอากาศในอาคารโรงงาน จากการนำพลังงานความร้อนเหลือทิ้งกลับมาหมุนเวียนใช้งานใหม่

.

นายสิทธิชัย วงศ์ถาวรกิจ  ผู้จัดการใหญ่  บริษัท ฝาจีบ จำกัด(มหาชน)   เปิดเผยภายหลังการส่งมอบเครื่อง HITACHI ABSORPTION  CHILLERS   ระบบทำน้ำเย็นจากพลังงานความร้อนเหลือของบริษัท สยามเทมป์ จำกัดว่า   บริษัทฝาจีบได้ทำการติดตั้งระบบทำน้ำเย็นเพื่อใช้ในการหล่อเย็นเครื่องจักร และปรับอากาศในอาคารโรงงาน

.

จากการนำพลังงานความร้อนเหลือทิ้งกลับมาหมุนเวียนใช้งานใหม่   โดยระบบนี้ทำงานร่วมกับโรงไฟฟ้าของบริษัทมาตั้งแต่ปี 2539   ด้วยงบประมาณการติดตั้งในช่วงเวลานั้นกว่า 150 ล้านบาท   

.

การติดตั้ง  HITACHI ABSORPTION  CHILLERS ครั้งนี้เป็นการติดตั้งเพื่อทดแทนเครื่องเดิมซึ่งไม่สามารถทำงานต่อได้   หลังใช้งานมานาน 12 ปี  โดยเครื่อง HITACHI ABSORPTION  CHILLERS  ที่ติดตั้งใหม่  เป็นเครื่องแบบ STEAM TYPE มีขนาดความเย็น 360 USRT   มีศักยภาพในการทำงานร่วมกับระบบการทำงานเดิมได้เป็นอย่างดี   

.

การติดตั้งระบบปรับอากาศนี้เป็นไปตามนโยบายด้านการประหยัดพลังงานและการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมซึ่งบริษัทดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง     โดยบริษัทมีแผนที่จะดำเนินการด้านการประหยัดพลังงานและการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเพิ่มเติมอีกหลายประการ      

.

"บริษัทฝาจีบฯก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2513 เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายฝาสำหรับปิดผนึกภาชนะประเภทขวด อาทิ ฝาจีบ ฝาอลูมิเนียมเกลียวกันปลอม  ฝาวงแหวนแม็กซี่คราวน์  ฝาวงแหวนแม็กซี่แค้ป  ฝาวงแหวนแม็กซี่พี และฝาพลาสติก    สำหรับผนึกขวดบรรจุน้ำอัดลม  น้ำดื่ม  นม โซดา สุราและเวชภัณฑ์  ฯลฯ  โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 528 ล้านบาท ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 800 คนและมีกำลังการผลิตประมาณ 10,000 ล้านฝาต่อปี

.

ผลิตภัณฑ์ของบริษัทนอกจากจะผลิตขึ้นเพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าในประเทศแล้ว   ยังจัดส่งไปจำหน่ายต่างประเทศด้วย   อาทิเช่น อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ลาว พม่า ไต้หวัน ฟิลิปินส์ จีนและเวียดนาม   โดยมีสัดส่วนการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในประเทศประมาณ 83 % ต่างประเทศประมาณ 17%  มีมูลค่าการจำหน่ายในปีที่ผ่านมาประมาณ 2350 ล้านบาทเศษ  

.

และด้วยการวางรากฐานเพื่อการก้าวสู่บริษัทที่มีมาตรฐานการบริหารตามแบบสากล  ซึ่งให้ความสำคัญทั้งด้านคุณภาพคน  คุณภาพผลิตภัณฑ์ เรื่องสิ่งแวดล้อม  ร่วมถึงการคืนกำไรสู่สังคมในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง  บริษัทจึงได้จัดทำระบบมาตรฐาน ISO 9001 มาตรฐาน ISO 14001 และมาตรฐาน GMP" นายสิทธิชัยกล่าวและว่า  

.

"การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของบริษัท   แม้ว่าในอดีตจะไม่มีกระแสเรื่องการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมมากนัก บริษัทฝาจีบฯก็ตัดสินใจลงทุนโครงการนี้ และยังดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 12 ปี การลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท

.

นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะนอกจากจะสามารถบรรลุเป้าหมายหลักในการเพิ่มเสถียรภาพในการจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่กระบวนการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้ 4 - 7%  อีกทั้ง สามารถลดปริมาณพลังงานความร้อนของไอเสียจากการผลิตไฟฟ้าที่จะต้องถูกปล่อยออกสู่บรรยากาศ

.

โดยนำพลังงานความร้อนดังกล่าว กลับมาใช้ใหม่ผ่านระบบ Heat Recovery สร้าง ไอน้ำ โดย Waste Heat Boiler ป้อนเข้าสู่ระบบ Absorbtion Chiller ให้ผลผลิตเป็นน้ำเย็นเพื่อหล่อเย็นเครื่องจักร และระบบปรับอากาศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดในการอนุรักษ์พลังงาน และการแก้ปัญหาโลกร้อน ที่กำลังเป็นที่ตระหนักกันอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน" 

.

นายสิทธิชัย วงศ์ถาวรกิจ  ผู้จัดการใหญ่  บริษัท ฝาจีบ จำกัด(มหาชน)

.

นายอรุณ เอี่ยมสุรีย์   กรรมการผู้จัดการ  บริษัท สยามเทมป์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบปรับอากาศสำหรับอุตสาหกรรมและพานิชย์ กล่าวว่า    สยามเทมป์ต้องขอขอบคุณบริษัท ฝาจีบ จำกัด (มหาชน)  ที่ไว้วางใจให้สยามเทมป์เป็นผู้ติดตั้ง HITACHI ABSORPTION  CHILLERS  เพื่อทดแทนเครื่องเดิมซึ่งไม่สามารถทำงานต่อได้หลังจากใช้งานมานานกว่า 12 ปี  

.

และต้องขอชื่นชมต่อผู้บริหารของบริษัทถึงวิสัยทัศน์ผู้นำการใช้พลังงานอย่างมีคุณภาพและตระหนักถึงการรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม    ซึ่งถูกวางไว้เป็นรากฐานสำคัญของบริษัทเนื่องจากในอดีตการลงทุนด้านพลังงานคุณภาพจะต้องใช้งบประมาณสูงมาก   ค่าเทคโนโลยีมีราคาแพง    การดำเนินการต่างๆ ยุ่งยาก  แตกต่างจากในยุคปัจจุบันซึ่งมีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนน้อยกว่า  

.

นอกจากนี้เมื่อเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง  ประสิทธิภาพและคุณภาพต่างๆ ก็จะเพิ่มขึ้น    ระบบ ABSORPTION CHILLERS   ที่ HITACHI นำไปพัฒนาต่อจนกลายเป็นแนวทางสำคัญของการรีไซเคิลพลังงานจากการดำเนินธุรกรรมตามปกติมาใช้ทดแทนพลังงานไฟฟ้า  

.

ปัจจุบันเป็นที่นิยมมากในต่างประเทศ   และมีแนวโน้มที่ดีสำหรับในประเทศไทย    เพราะเป็นมิติใหม่ของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ  ช่วยลดภาวะโลกร้อน  ประหยัดค่าไฟฟ้าและสร้างผลดีต่อธุรกิจ   

.

โดยระบบปรับอากาศ HITACHI ABSORPTION CHILLERS เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจผลิตกระแสไฟฟ้า ธุรกิจ  โรงพยาบาล โรงแรม โรงงานต่างๆ  โดยมีราคาเริ่มต้นต่อการติดตั้งระบบประมาณ 3 ล้านบาท    

.

สำหรับเครื่องที่ส่งมอบให้กับทางบริษัทฝาจีบฯ เป็นเครื่องที่ติดตั้งทดแทนเครื่องเดิมซึ่งมีใช้ทั้งหมด 3 เครื่อง   โดยเครื่องที่ติดตั้งใหม่ 1 เครื่อง  เป็นเครื่อง  HITACHI ABSORPTION CHILLERS   รุ่น HAU-CW360V ขนาด 360 USRT   สามารถทำงานร่วมกับระบบเก่าที่ติดตั้งไว้แล้วได้เป็นอย่างดี 

.

"สำหรับหลักการทำงานของ HITACHI ABSORPTION  CHILLERS  คือใช้พลังงานความร้อนเหลือที่เกิดจากระบบการผลิตพลังงานไฟฟ้าร่วมกับความร้อน (Co-Generation System) หรือพลังงานความร้อนทิ้ง  น้ำร้อนที่เหลือจากขบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม 

.

โดยเบื้องต้นก๊าซธรรมชาติจะถูกนำมาใช้ในการกำเนิดไฟฟ้า โดยความร้อนที่เหลือทิ้ง (Waste Heat)จะถูกนำกลับมาใช้ในการผลิตไอน้ำ ผ่านเครื่อง Heat Recovery Boiler ไอน้ำส่วนหนึ่งถูกส่งผ่านเข้าเครื่องผลิตน้ำเย็น (Steam Absorption Chillers) โดยใช้หลักการแลกเปลี่ยนพลังงานความร้อน (Heat Exchanger) เช่นเดียวกับการทำความเย็นในตู้เย็น

.

โดยสามารถผลิตน้ำเย็นที่อุณหภูมิประมาณ  7 องศาเซลเซียส  ซึ่งน้ำเย็นเหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการปรับอากาศภายในอาคารหรือโรงงานอุตสาหกรรมได้  จึงสามารถลดการใช้พลังงานจากกระแสไฟฟ้าที่ใช้รูปแบบเดิมลงได้เป็นอย่างมาก " นายอรุณกล่าวและว่า 

.

ระบบปรับอากาศของ HITACHI ABSORPTION  CHILLERS จะทำให้หน่วยงานที่ใช้-ใช้ไฟฟ้าในปริมาณที่น้อย  ( Small Power Consumption )  ใช้ความร้อนเป็นแหล่งพลังงาน (Waste Heat ) โดยไม่เกิดปัญหาเสียงดังหรือการสั่นสะเทือนในขณะใช้งาน ( Low Noise and Vibration)  สามารถปรับประสิทธิภาพการทำงานได้ตั้งแต่ 25-100%  ค่าใช้จ่ายในการเดินเครื่องและซ่อมบำรุงรักษาต่ำ 

.

นอกจากนี้ยังไม่เกิดอันตรายจากการใช้งาน เพราะอุปกรณ์ทำงานในสภาวะสูญญากาศ (Vacuum)     ปราศจากสารทำลายชั้นบรรยากาศ  ( ODP: Ozone Depletion Potential, CFCs Free)   ระบบและขนาดเครื่องมีให้เลือกหลากหลายเหมาะสมกับธุรกิจแต่ละประเภท จึงมีระยะเวลาคืนทุนได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากค่าบำรุงรักษาต่ำและค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงานน้อยมาก