เนื้อหาวันที่ : 2009-04-08 12:15:12 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1214 views

การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3

ปลัดกระทรวงการคลัง เผยประเด็นที่จะมีการหารือในที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2552 ประเทศอินโดนีเซีย ว่าจะมีการหารือกันในประเด็นการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย การจัดตั้ง CGIM การออกพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่น การพัฒนามาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี

การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3 (ASEAN+3Finance and Central Bank Deputies’ Meeting: AFDM+3)                                                                

.

นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ได้เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังและธนาคารกลางอาเซียน+3 (ASEAN+3 Finance and Central Bank Deputies’ Meeting: AFDM+3) ร่วมกับ นายเจ ยูน ชิน Deputy Minister of Strategy and Finance ของสาธารณรัฐเกาหลี ณ โรงแรมอมารี ออคิด รีสอร์ท เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2552 และได้เปิดเผยเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว ดังนี้

.

1. การประชุม AFDM+3 ในครั้งนี้เป็นการประชุมเพื่อเตรียมการสำหรับการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 (ASEAN+3 Finance Ministers’ Meeting: AFMM+3)  ซึ่งการประชุม AFMM+3 ครั้งต่อไปจะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2552  ณ เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย โดยในการประชุมครั้งนี้มีผู้แทนจากประเทศสมาชิกอาเซียน+3 ทั้ง 13 ประเทศ พร้อมทั้งผู้แทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียนและธนาคารพัฒนาเอเซียเข้าร่วมการประชุม 

.
2. ที่ประชุมได้มีการหารือในประเด็นหลัก ดังต่อไปนี้

2.1 การพิจารณาความคืบหน้าในการดำเนินมาตรการริเริ่มการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Markets Initiative: ABMI)  ซึ่งมีความคืบหน้าของการดำเนินงานใน 2 เรื่องหลัก ได้แก่ การจัดตั้งกลไกการค้ำประกันเครดิตของภูมิภาค (Credit Guarantee and Investment Mechanism: CGIM) และการออกพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาค (Bonds Financing for Infrastructure Projects) ในลักษณะ Cross-Boarder 

.

2.1.1 การจัดตั้ง CGIM นั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการผลักดันให้มีการจัดตั้ง CGIM เพื่อเป็นกลไกในระดับภูมิภาคที่ทำหน้าที่ค้ำประกันพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นของภาคเอกชนของประเทศสมาชิก โดยจะจัดตั้งในลักษณะกองทุนที่อยู่ภายใต้ธนาคารพัฒนาเอเชีย ซึ่งจะทำให้การค้ำประกันของ CGIM ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA เช่นเดียวกับธนาคารพัฒนาเอเชีย       

.

โดย AFDM+3 จะนำข้อเสนอดังกล่าว เสนอเพื่อขอความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3  ในเดือนพฤษภาคม 2552 สำหรับสัดส่วนการลงเงินของแต่ละประเทศและกรอบการดำเนินงานของกลไก CGIM นั้น จะมีการหารือในรายละเอียดต่อไป                  

.

2.1.2  การออกพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาค (Bonds Financing for Infrastructure Projects) นั้น ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการผลักดันโครงการนี้ โดยโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ได้แก่ การออกพันธบัตรสกุลเงินบาทของรัฐบาล  สปป.ลาว โดยมีเป้าหมายในการขายให้แก่นักลงทุนสถาบันของไทย แต่ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่จำเป็นต้องพิจารณาอีกระยะหนึ่งจึงจะสามารถออกพันธบัตรดังกล่าวได้

.

โครงการทั้งสองโครงการดังกล่าว จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาตลาดพันธบัตรในภูมิภาค โดยเป็นการเพิ่มอุปทานในตลาดพันธบัตรและเพิ่มทางเลือกในการออมและการลงทุนให้แก่ผู้ลงทุนของภูมิภาค 

.

2.2  การพิจารณาความคืบหน้าของการพัฒนามาตรการริเริ่มเชียงใหม่ไปสู่การเป็นพหุภาคี (CMI Multilateralisation: CMIM) นั้น ที่ประชุมสามารถตกลงในประเด็นหลักในการจัดตั้งกองทุน CMIM ได้ในหลายประเด็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของสัดส่วนการลงเงินของประเทศอาเซียนและกลไกการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม ยังคงมีประเด็นปลีกย่อยอีกจำนวนหนึ่งที่ยังต้องมีการหารือกันระหว่างประเทศสมาชิกก่อนนำเสนอกรอบดังกล่าวสู่การพิจารณาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3  ในเดือนพฤษภาคม 2552 

.

3. การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน+3 ครั้งที่ 12 จะมีขึ้น ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2552 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทย (นายกรณ์ จาติกวณิช) จะเป็นประธานร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสาธารณรัฐเกาหลี