วิธีการใช้เครื่องปรับอากาศในหน้าร้อน(จัด)แบบประหยัด แน่นอนว่าบิลเก็บค่าไฟก็ฉ่ำได้ใจ...เหมือนกัน
|
ลองมานั่งสังเกตุในแต่ละปี ไม่ทราบว่าคุณผู้อ่านเป็นเหมือนผมหรือเปล่านะครับ ที่ยิ่งอากาศร้อนมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากเปิดเครื่องปรับอากาศให้เย็นฉ่ำเพื่อดับร้อนมากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าบิลเก็บค่าไฟก็ฉ่ำได้ใจ...เหมือนกัน โอกาสนี้ผมเลยขอหยิบเอาวิธีการใช้เครื่องปรับอากาศในหน้าร้อน(จัด)แบบประหยัด มาบอกต่อให้คุณผู้อ่านได้รับทราบและนำไปปรับใช้แบบช่วยๆ กันครับ ด้วยการ |
| ล้างเครื่องปรับอากาศปีละครั้ง |
|
ควรจะมีการถอดล้างภายในโดยช่างผู้ชำนาญทุกปี เพื่อให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จะสามารถยืดอายุการใช้งานและประหยัดค่าไฟได้ 10% |
| กันร้อนให้คอนเดนเซอร์ |
|
เจ้าของเครื่องปรับอากาศส่วนใหญ่มักมองข้ามความสำคัญของคอนเดนเซอร์ที่ตั้งอยู่ภายนอก โดยการนำคอนเดนเซอร์ไปวางไว้ในที่ที่ไม่เหมาะสม เช่น วางไว้บนดาดฟ้าวางไว้บนพื้นซีเมนต์กลางแดด หรือวางไว้ในที่ลมถ่ายเทไม่สะดวก ทำให้คอนเดนเซอร์ทำงานหนักและลดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศลง ส่งผลให้สิ้นเปลืองพลังงานและค่าใช้จ่าย |
|
ดังนั้น จึงควรตั้งคอนเดนเซอร์ไว้ในที่ร่มและมีอากาศถ่ายเทสะดวก หรือจัดหาร่มเงาให้ เช่น วางกระถางต้นไม่ไว้ใกล้ๆ เพื่อบังแดด และควรตั้งห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร เพื่อให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น จะประหยัดไฟฟ้าได้ประมาณร้อยละ 15-20 |
| ปรับเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศา |
|
ตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ 25 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่จะทำให้ร่างกายรู้สึกสบายและช่วยประหยัดไฟที่สุด จะประหยัดไฟได้ประมาณ 10% |
| ไม่นำความชื้นเข้าห้อง |
|
เชื่อหรือไม่ว่าสำหรับเมืองไทยแล้ว พลังงานที่ใช้ในการทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศแค่ 30 เปอร์เซ็นเท่านั้น ที่เหลืออีก 70 เปอร์เซ็นเป็นการใช้ไปเพื่อการ “ทำให้อากาศในห้องแห้ง” หรือ “รีดความชื้น” ออกจากห้อง ดังนั้นหากอยากให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อย ก็อย่าเอาของที่มีความชื้นเข้าไปไว้ในห้องปรับอากาศ เช่น กระถางต้นไม้ การตากผ้า หรือ ทำเกร็ดระบายอากาศของประตูห้องน้ำในห้อง เป็นต้น |
| ไม่นำของร้อนเข้าห้อง |
|
หลีกเลี่ยงการนำเครื่องครัว หรือภาชนะที่มีผิวร้อนจัด เช่น เตาไฟฟ้า กระทะร้อน หม้อต้มน้ำ หม้อต้มสุกี้ เข้าไปในห้งที่มีการปรับอากาศ ควรปรุงให้เสร็จจากในครัว แล้วจึงนำเข้ามารับประทานภายในห้อง เพื่อไม่เป็นการเพิ่มความร้อนในห้อง อันเป็นสาเหตุให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักเกินไป |
| ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท |
|
ควรปิดประตู และหน้าต่างให้สนิทขณะเปิดเครื่องปรับอากาศ เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศร้อน หรือความชื้นจากภายนอกเข้ามา เพราะจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น |
| ถ่ายเทความร้อน |
|
ในช่วงเวลาที่ไม่ใช้ห้อง หรือก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศสัก 15 นาที ควรเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศบริสุทธิ์ภายนอกเข้าไปแทนที่อากาศเก่าในห้อง จะช่วยลดความร้อนในห้อง และลดกลิ่นต่างๆ ให้น้อยลงโดยไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น |
| ปิดก่อนออก |
|
ควรปิดเครื่องปรับอากาศก่อนออกจากห้องอย่างน้อย 30 นาที – 1 ชั่วโมง เพราะยังมีความเย็นหลงเหลืออยู่ โดยการปิดเครื่องปรับอากาศขนาด 12,000 บีทียูเร็วขึ้นวันละ 1 ชั่วโมง จะช่วยลดการใช้ไฟได้ 21 หน่วยต่อเดือน ประหยัดได้ 52.50 บาทต่อเดือน ถ้าปิดเร็วขึ้น 1 ชั่วโมง 1 ล้านเครื่อง จะประหยัดไฟให้ประเทศได้เดือนละ 52.50 ล้านบาท หรือ 630 ล้านบาทต่อปี |
| เปิดเครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็น |
| เลือกเปิดเครื่องปรับอากาศเฉพาะที่จำเป็นก็จะช่วยประหยัดได้ เช่น ใช้เครื่องปรับอากาศเฉพาะในห้องนอน เป็นต้น |
|
เป็นวิธีที่ไม่ยากเลยใช่ไหมละครับ ลองนำไปปรับใช้กันดู นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในกระเป๋าของเราแล้ว ยังเป็นการช่วยชาติ และช่วยลดโลกร้อนไปในตัวด้วยนะครับ |
| ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก www.thaienergynews.com |
Thailandindustrycom_official
