เนื้อหาวันที่ : 2009-03-31 10:11:58 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2160 views

อาหารไทยประกาศศักดาในรัสเซีย กวาดคำสั่งซื้อมูลค่าเกือบ 3,000 ล้านบาท

มาตรการบุกตลาดใหม่เห็นผล สอ.นำผู้ส่งออกสินค้าอาหาร 26 รายเข้าร่วมงาน PRODEXPO งานแสดงสินค้าอาหาร ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ประชันกับ 57 ประเทศทั่วโลก เผยสินค้าอาหารจากไทยยังแกร่ง พิชิตคำสั่งซื้อ เกือบ 3,000 ล้านบาท หวังขยายตลาดครอบคลุมยุโรปตะวันออก

มาตรการบุกตลาดใหม่เห็นผล สอ.นำผู้ส่งออกสินค้าอาหาร 26 รายเข้าร่วมงาน PRODEXPO งานแสดงสินค้าอาหาร ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย ประชันกับ 57 ประเทศทั่วโลก เผยสินค้าอาหารจากไทยยังแกร่ง  พิชิตคำสั่งซื้อ เกือบ 3,000 ล้านบาท หวังขยายตลาดครอบคลุมยุโรปตะวันออก         

.

นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่ากรมฯได้นำผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารไทยจำนวน 26 บริษัท เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอาหารที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซีย คือ งาน PRODEXPO ณ กรุงมอสโก เมื่อวันที่  9 — 13  กุมภาพันธ์ 2552 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 โดยมีผู้ผลิต/ผู้ส่งออกสินค้าอาหารเข้าร่วมงานกว่า 1800 บริษัท จาก 57 ประเทศทั่วโลก

.

สินค้าไทยที่นำไปแสดงได้แก่  ข้าว น้ำตาล อาหารทะเลกระป๋อง อาหารทะเลแช่แข็ง ผัก ผลไม้สด ผลไม้กระป๋อง  ผลไม้อบแห้ง  ไอศกรีม  ซุปพร้อมรับประทาน  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ซอส เครื่องปรุง เครื่องแกง นอกจากการจัดแสดงสินค้าดังกล่าวแล้วยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษภายในงาน ได้แก่ การสาธิตการทำอาหารไทยเมนูต่างๆ เช่น ข้าวหอมมะลิ กุ้งทอดกระเทียม ต้มยำกุ้ง ข้าวผัดสับปะรด ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก         

.

การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก สินค้าที่ได้รับความสนใจ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด อาหารกระป๋อง อาหารทะเลแห้ง ผลไม้อบแห้ง และเครื่องปรุงรส โดยมียอดการสั่งซื้อสินค้าทันทีและภายใน 1 ปีรวมทั้งสิ้นเกือบ 3,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ผลิตผู้ส่งออกทั้ง 26 บริษัทมีความรู้สึกพอใจผลการเข้าร่วมงานและเห็นว่าคุ้มค่าที่มาร่วมงานครั้งนี้

.

แม้ว่าผู้เข้าร่วมงานและการเจรจาการค้าในปีนี้จะน้อยกว่าปีที่ผ่านมาเพราะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  อย่างไรก็ตาม รัสเซียถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ระบบการเมืองมีเสถียรภาพ ตลอดจนเป็นตลาดใหญ่และเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าต่อไปยังกลุ่มประเทศ CIS (Commonwealth of Independent States) อีก 12 ประเทศด้วย

.

ผู้ส่งออกจึงควรให้ความสนใจตลาดรัสเซียเป็นกรณีพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งออกสินค้าอาหารไปยังตลาดนี้ เนื่องจากสภาพภูมิอากาศของรัสเซียไม่เอื้ออำนวยต่อการทำการเกษตรและอาหารเพราะมีฤดูหนาวยาวนานถึง 6 เดือน สินค้าอาหารจึงเป็นสินค้านำเข้าหลักของรัสเซียและประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอาหารที่มีศักยภาพสูง

.

รวมทั้งการที่รัฐบาลรัสเซียให้สิทธิพิเศษด้านภาษีแก่ประเทศกำลังพัฒนารวมทั้งประเทศไทย โดยการเก็บภาษีนำเข้าเพียงร้อยละ 75 ของอัตราภาษีที่เก็บทั่วไป (MFN - Most Favored Nation Treatment) ดังนั้นผู้ผลิตผู้ส่งออกอาหารไทยจึงควรอาศัยความได้เปรียบนี้ขยายการส่งออกสินค้าอาหารไปตลาดรัสเซียให้มากขึ้น         

.

กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญกับการเปิดตลาดส่งออกไปยังตลาดใหม่ ตามโครงการ NME (New Market for Exporters) เพื่อเพิ่มลู่ทางให้ผู้ส่งออกไทยไปบุกตลาดใหม่ 23 ประเทศ ซึ่งรวมถึงประเทศรัสเซียและกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกด้วย ซึ่งเป็น 1 ในยุทธศาสตร์กระตุ้นการส่งออกปี 2552 ที่มุ่งด้านการพัฒนาสินค้า ด้านราคาและต้นทุนสินค้า ด้านตลาด ด้านการสื่อสารและสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าและประเทศไทย และนับเป็นมาตรการเร่งด่วนด้านการแก้ไขปัญหาการขาด Order ชั่วคราวของผู้ประกอบการ