เนื้อหาวันที่ : 2009-03-25 11:04:03 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1955 views

ผู้เชี่ยวชาญชี้เยอรมนีครองบัลลังก์ผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลกปีนี้ แม้ศก.โลกซบเซา

เยอรมนี ประเทศผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดของโลกนับตั้งแต่ปี 2546 จะสามารถยืดหยันเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ แม้ว่าจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจขาลงที่รุนแรง

เยอรมนี ประเทศผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดของโลกนับตั้งแต่ปี 2546 จะสามารถยืดหยันเป็นประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกได้อย่างต่อเนื่องในปีนี้ แม้ว่าจะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจขาลงที่รุนแรง         

.

แอนตัน เอฟ เบอร์เนอร์ ประธานสมาคม BGA ของกลุ่มผู้ส่งออก ค้าส่ง และบริการ ของเยอรมนีคาดว่า ยอดส่งออกของเยอรมนีอาจดิ่งลงหนักสุดที่ระดับ 15% ในปีนี้ ขณะที่ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะหดตัวลง 3.5% แตะที่ระดับ 4% ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำ             

.

แต่ถึงกระนั้นเยอรมนีจะยังเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดในโลกได้ต่อไป ขณะที่จีนและญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกจะมีบรรยากาศการค้าที่ซบเซาลงในปีนี้จากวิกฤตเศรษฐกิจที่ถาโถมเข้ามาในประเทศ                          

.

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เยอรมนีขึ้นทำเนียบเป็นผู้ส่งออกชั้นนำของโลกตั้งแต่ปี 2546-2551 โดยในปีที่ผ่านมา เยอรมนีมียอดเกินดุลการค้าที่ระดับ 1.762 แสนล้านยูโร (ประมาณ 2.38 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) 

.

เบอร์เนอร์กล่าวว่า "เรากำลังอยู่ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่นที่เป็นผลพวงจากตลาดเงิน ดังนั้น เราต้องหามาตรการรับมือกับวิกฤตการณ์ดังกล่าวให้ได้ และกุญแจสำคัญที่จะช่วยปลดล็อกวิกฤตครั้งนี้คือการกระตุ้นตลาดเงินทั่วโลก ซึ่งเราหวังว่าการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G20 ในกรุงลอนดอนจะสามารถหามาตรการฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้"

.

ในส่วนของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างเยอรมนีกับจีนนั้น เบอร์เนอร์กล่าวว่า เยอรมนีและจีนมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันมายาวนาน และมีปริมาณการขยายตัวทางการค้าที่เพิ่มขึ้นในระดับตัวเลข 2 หลักเมื่อปีที่แล้ว โดยเยอรมนีเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในบรรดาประเทศในกลุ่มสมาชิกอียู ซึ่งในปีที่ผ่านมา การค้าระหว่างจีนและเยอรมนีพุ่งแตะที่ 1.15 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 27% ของการค้าระหว่างจีนและอียู

.

"บริษัทเยอรมนีเข้าไปลงทุนในจีนเป็นจำนวนมาก ขณะที่นักธุรกิจจีนก็ลงทุนในเยอรมนีเป็นจำนวนไม่น้อยเช่นกัน" เบอร์เนอร์กล่าวพร้อมแสดงความมั่นใจว่า ทั้งจีนและเยอรมนีต่างมีความสามารถในการฟันฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ได้และจะยิ่งกลายเป็นประเทศที่แข็งแกร่งขึ้นหลังวิกฤตการณ์เลวร้ายครั้งนี้สิ้นสุดลง พร้อมกันนี้ยังเชื่อว่าความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างจีนและเยอรมนีจะช่วยให้การพัฒนาต่างๆดำเนินไปอย่างราบรื่น