เนื้อหาวันที่ : 2009-03-23 14:01:05 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 6682 views

ประชากรไทยกว่า 4.4 ล้านคนมีความเสี่ยงสูงต่อมลพิษทางน้ำ

กรีนพีซ เปิดรายงานเกี่ยวกับมลพิษทางน้ำจากแหล่งอุตสาหกรรม และรณรงค์แก้ปัญหาตลอดหลายปีที่ผ่านมา มลพิษทางน้ำกำลังเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน เป็นปัญหากระทบต่อระบบนิเวศ มนุษย์ เศรษฐกิจและสังคมมลพิษทางน้ำยังเป็นหนึ่งปัจจัยเร่งให้เกิดปัญหาวิกฤตขาดแคลนน้ำสะอาดในประเทศอีกด้วย กระทบต่อประชากรได้มากถึง 4,440,049 คน

กรีนพีซได้ศึกษาเกี่ยวกับมลพิษทางน้ำจากแหล่งอุตสาหกรรม และรณรงค์แก้ปัญหาอย่างเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา มลพิษทางน้ำกำลังเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการป้องกันและแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งนอกจากเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและส่งผลกระทบโดยตรงต่อมนุษย์ในด้านเศรษฐกิจสังคมแล้ว มลพิษทางน้ำยังเป็นหนึ่งปัจจัยเร่งให้เกิดปัญหาวิกฤตขาดแคลนน้ำสะอาดในประเทศอีกด้วย

.

 .

จากสถิติและข้อมูลคุณภาพแหล่งน้ำที่ผ่านมา พื้นที่อุตสาหกรรมและพื้นที่เมืองหลายแห่งได้ประสบปัญหามลพิษทางน้ำอย่างต่อเนื่อง พื้นที่หลายแห่งมีแนวโน้มของปัญหาที่รุนแรงและขยายวงกว้างไปยังพื้นที่ที่ไม่เคย ประสบปัญหามาก่อน ทั้งนี้ข้อมูลพื้นที่และแหล่งน้ำที่เสี่ยงต่อการเกิดมลพิษ รวมไปถึงการประมาณการประชากรที่อาจได้รับผลกระทบยังไม่มีการศึกษาอย่างแพร่หลาย แม้ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นข้อมูลที่สำคัญ อย่างยิ่งต่อการวางแผนป้องกันและเฝ้าระวังการเกิดมลพิษทางน้ำในแต่ละพื้นที่ก็ตาม

 .

ดังนั้นกรีนพีซจึงได้ดำเนินการศึกษาวิเคราะห์ในเบื้องต้นถึงข้อมูลดังกล่าว เพื่อการคาดการณ์และประเมินสถานการณ์ในปัจจุบันให้ เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมแผนป้องกัน และประการสำคัญเพื่อสร้างความตระหนักต่อการร่วมแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น

.

กรีนพีซเปิดเผยรายงานพื้นที่และแหล่งน้ำที่เสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำในประเทศไทยระบุประเทศไทยมีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำมากกว่าร้อยละ 92.68 ของพื้นที่ทั้งหมด โดยเป็นพื้นที่เสี่ยงในระดับสูงร้อยละ 6.87 ของพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด และโดยเฉลี่ยอาจสามารถส่งผลกระทบต่อประชากรได้มากถึง 4,440,049 คน

 .

รายงาน "พื้นที่และแหล่งน้ำที่เสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำในประเทศไทย” เป็นการศึกษาโดยกรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้วิธีการบูรณาการเทคนิคทางด้าน GIS และความรู้ทางด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อวิเคราะห์หาพื้นที่และแหล่งน้ำที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำ (1) ผลการศึกษาพบว่าจังหวัดที่มีพื้นที่เสี่ยงในระดับสูงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี และระยอง

.

.

"ปัญหาการเพิ่มขึ้นของอุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษทางน้ำ การใช้สารเคมีทั้งในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม และปริมาณความหนาแน่นของประชากรที่เพิ่มมากขึ้น ล้วนเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดวิกฤตมลพิษทางน้ำ (2) บริเวณที่มีความเสี่ยงในระดับสูงส่วนใหญ่พบบริเวณที่มีความเป็นเมืองและอุตสาหกรรมสูง แม้จะเป็นอัตราส่วนไม่มากเมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งประเทศ แต่กลับส่งผลกระทบสูง เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น" นายพลาย ภิรมย์ ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

 .

การศึกษาได้แบ่งระดับความเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำเป็น 4 ระดับคือ ความเสี่ยงสูง ปานกลาง ต่ำ และไม่มีความเสี่ยง ข้อมูลศึกษาตามรายภาคพบว่า ภาคตะวันออกมีสัดส่วนพื้นที่เสี่ยงในระดับสูงมากที่สุดคือ ร้อยละ 35.64 ของพื้นที่ทั้งหมด รองลงมาคือภาคกลาง ร้อยละ 15.89 ของพื้นที่ทั้งหมด

. 

ทั้งนี้กว่าร้อยละ 99 ของหมู่บ้านในประเทศไทยที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้แหล่งน้ำ มีความเสี่ยงจากมลพิษทางน้ำ ในจำนวนดังกล่าว พบความเสี่ยงในระดับสูงมีมากถึงร้อยละ 41.64 ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประชากรเฉลี่ยมากถึง 4,440,049 คน

.

.

ในรายงานการศึกษายังระบุว่าจังหวัดระยองมีพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำในระดับสูงมากถึงร้อยละ 97.78 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด มีหมู่บ้านที่ได้รับความเสี่ยงในระดับสูง 302 แห่งหรือคิดเป็นร้อยละ 78.44 ของหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้แหล่งน้ำที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหามลพิษทางน้ำ ส่งผลกระทบต่อประชากรได้ถึง 454,551 คน ดังนั้นการประกาศบริเวณอุตสาหกรรมในจังหวัดระยองเป็นเขตควบคุมมลพิษ จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและควรเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน

.

สำหรับแหล่งน้ำที่มีความเสี่ยงในระดับสูงต่อการเกิดมลพิษทางน้ำ พบในภาคกลาง 7 สาย ภาคตะวันออก 8 สาย ภาคเหนือ 14 สายและแหล่งน้ำนิ่ง 2 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 14 สายและแหล่งน้ำนิ่ง 5 แห่ง ในจำนวนดังกล่าวนี้ มีแหล่งน้ำหลายแห่งที่ปัจจุบันยังไม่มีรายงานว่าพบปัญหาด้านคุณภาพแหล่งน้ำ แต่มีความเสี่ยงในระดับสูงที่อาจเกิดปัญหามลพิษทางน้ำได้ในอนาคต

.

"แหล่งน้ำที่มีความเสี่ยงในระดับสูงล้วนเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญมากของประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม รวมถึงเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคของประเทศ นอกจากนี้ปริมาณน้ำจืดต่อคนของคนไทยมีน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน กรีนพีซจึงเรียกร้องให้รัฐบาลลงมือแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำอย่างจริงจัง เพื่อปกป้องแหล่งน้ำของประเทศให้ปราศจากมลพิษ" นายพลายกล่าวเพิ่มเติม