เนื้อหาวันที่ : 2009-03-20 13:01:55 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1819 views

เอทิฮัดเดินหน้าขยายฝูงบินสั่งซื้ออากาศยาน A330 เพิ่ม

เอทิฮัดชยายฝูงบินที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์ของโรลส์-รอยซ์ ทำการสั่งซื้ออากาศยิน A330 เพิ่มอีก 8 ลำ

โรลส์-รอยซ์เผย เอทิฮัด แอร์เวยส์ สายการบินแห่งชาติหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งประจำอยู่ ณ เมืองอาบูดาบี ได้เลือกเครื่องยนต์เทรนท์ 700EP เพื่อใช้ขับเคลื่อนอากาศยานแอร์บัส A330 เพิ่มอีกเป็นจำนวน 8 ลำ เครื่องยนต์เทรนท์ 700EP เป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดของนวัตกรรมเครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์ 700 ที่ขายดีที่สุดในบรรดาเครื่องยนต์สำหรับอากาศยาน A330 และเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงานมากขึ้น  

.

ธุรกิจครั้งนี้ ที่นับรวมถึงสัญญาการให้บริการระยะยาว TotalCare® มีมูลค่าถึง 575 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ตามราคารายการปัจจุบัน   เครื่องยนต์ A330 ที่จะเริ่มส่งมอบในระหว่างปี พ.ศ. 2552 และ 2554 จะทำให้สายการบินเอทิฮัดมีฝูงอากาศยาน A330 ที่ขับเคลื่อนโดยเครื่องยนต์ของโรลส์-รอยซ์ เพิ่มขึ้นเป็น 24 ลำ   

.

เทรนท์ 700 เป็นเครื่องยนต์เพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการออกแบบมาเพื่ออากาศยาน A330 โดยเฉพาะ เครื่องยนต์เทรนท์ 700 ปฏิบัติการมาแล้วรวมกว่า 10 ล้านชั่วโมง โดยมีการปล่อยมลพิษทางเสียงและทางอากาศอยู่ในระดับต่ำสุด และมีการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในบรรดาเครื่องยนต์ต่างๆ ที่สามารถใช้กับอากาศยานรุ่นนี้ได้   

.
เครื่องยนต์เทรนท์ 700EP ล่าสุดได้รับการพัฒนาในหลายด้าน รวมถึงด้านประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิง เครื่องยนต์เทรนท์ 700EP ใหม่ สามารถประหยัดพลังงานได้มาก ถึงร้อยละ 1.3 ในขณะที่เครื่องยนต์ที่ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ดัดแปลง EP จะสามารถประพยัดเชื้อเพลิงได้ร้อยละ 1.0  
.

มาร์ค คิง ประธานฝ่ายการบินพาณิชย์ของโรลส์-รอยซ์ กล่าวว่า “เอทิฮัดเป็นสายการบินที่ตั้งเป้าหมายให้ตัวเองสูง และยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง การที่เอทิฮัดเลือกสั่งซื้อเครื่องยนต์เทรนท์ 700 เพิ่ม แสดงถึงความมั่นใจและไว้วางใจในตัวเครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์ของเรา เรายังคงสานสัมพันธ์กับเอทิฮัดอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่เอทิฮัดเริ่มปฏิบัติการในปี 2547

.

อากาศยานฝูงใหม่ที่ติดตั้งเครื่องยนต์เทรนท์ 700EP  ที่ได้รับการพัฒนาประสิทธิภาพ จะช่วยส่งเสริมฝูงบินเครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง สัญญาครั้งนี้ยังช่วยตอกย้ำมูลค่าและความมีประสิทธิภาพที่ลูกค้าจะได้รับจากบริการหลังการขายของเรา”

.

เจมส์ โฮแกน ผู้บริหารสูงสุดของสายการบินเอทิฮัด แอร์เวยส์ กล่าวว่า "ความสัมพันธ์ที่มีมาต่อเนื่องยาวนานระหว่างเอทิฮัดและโรลส์-รอยซ์ ช่วยให้เราพัฒนาฝูงบินล้ำสมัยไปได้ไกล ทำให้เราสามารถรักษาการให้บริการด้วยมาตรฐานระดับโลกแก่ลูกค้าของเรา"

.

ปัจจุบัน เอทิฮัดมียอดอากาศยาน A340 จำนวน 9 ลำ ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทรนท์ 500 ซึ่งได้รับการดูแลรักษาจากบริการ TotalCare® นับรวมทั้งที่อยู่ในระหว่างการปฏิบัติการและได้รับการสั่งซื้อแล้ว อากาศยาน A340 ของสายการบินเอทิฮัดจำนวน 2 ลำ จะได้รับการส่งมอบในปีนี้ นอกจากนี้ เอทิฮัดยังได้สั่งซื้อเครื่องยนต์เทรนท์ XWB สำหรับอากาศยานแอร์บัส A350 จำนวน 25 ลำ

.

เครื่องยนต์เทรนท์ 700 มีส่วนแบ่งในตลาดอากาศยาน A330 ถึงร้อยละ 53 การพัฒนาอย่างต่อเนื่องและเทคโนโลยีขั้นสูงของเครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์จะช่วยเพิ่มประโยชน์หลากหลายด้านที่ลูกค้าจะได้รับ อย่างประสิทธิภาพด้านการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ต่ำที่สุดในบรรดาเครื่องยนต์สำหรับอากาศยาน A330 รุ่นอื่นๆ ในปี 2552 สายการบินไทยจะรับมอบฝูงอากาศยาน A330 ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เทรนท์ 700 ของโรลส์-รอยซ์เช่นกัน

.
หมายเหตุสื่อมวลชน

1. โรลส์-รอยซ์มีบทบาทในภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยโรลส์-รอยซ์มีส่วนสำคัญในการพัฒนาภูมิภาคในด้านต่างๆ ที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจ ทั้งการบินพาณิชย์ การทหาร การเดินเรือ และพลังงาน

.

2. เทรนท์ 700 เป็นเครื่องยนต์เพียงรุ่นเดียวที่ได้รับการออกแบบมาเพื่ออากาศยาน A330 โดยเฉพาะ จึงทำให้อากายานดังกล่าวสามารถ)ฏิบัติการได้ดีขึ้น มีความแน่นอนมากยิ่งขึ้น และมีค่าบำรุงรักษาที่ประหยัดได้มากขึ้น เทรนท์ 700 เป็นเครื่องยนต์รุ่นแรกของเครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์ที่เริ่มให้บริการในปี พ.ศ. 2538  

.

3. เครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์อันเลื่องชื่อได้รับการสั่งซื้อจากสายการบินจากหลายๆ ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง เช่น; กาต้าร์ แอร์เวย์ส, เอมิเรตส์ แอร์ไลน์, เอธิฮัด แอร์เวย์ส และ กัลฟ์ แอร์ เพื่อนำไปขับเคลื่อนอากาศยานโบอิ้ง 777, A330, และ A340 ทั้งนี้เครื่องยนต์ V2500 ที่ผลิตโดยบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล แอโร เอนจินส์ (International Aero Engines) ซึ่งโรลส์-รอยซ์เป็นผู้ถือหุ้นหลัก ได้ถูกเลือกใช้อย่างแพร่หลายในภูมิภาคนี้เช่นกัน

.

4. นอกจากการทำธุรกิจร่วมกับเอทิฮัด โรลส์-รอยซ์ยังมีข้อตกลงความร่วมมือร่วมกับบริษัทต่างๆ ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แก่ ความร่วมมือกับบริษัทอาบูดาบี ชิพ บิวล์ดิ้ง, และกับบริษัทอาบูดาบี แอร์คราฟต์ เทคโนโลยีส์ และบริษัท อัล ทารีฟ โรลส์-รอยซ์ยังมีส่วนร่วมในงานการกุศลของมูลนิธิเอมิเรตส์ (Emirates Foundation)

.

โรลส์-รอยซ์ยังได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือ ร่วมกับบริษัทเอมิเรตส์ นิวเคลียร์ เอเนอร์จี คอร์ปอเรชั่น (ENEC) เพื่อร่วมกันค้นหาขีดความสามารถในด้านอุตสาหการของอาบูดาบี เพื่อสนับสนุนและพัฒนาโครงการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อการพาณิชย์

.

5. โรลส์-รอยซ์มุ่งมั่นและพัฒนาในการปรับปรุงด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากผลิตภัณฑ์ของบริษัท โดยแต่ละปีโรลส์-รอยซ์ได้ร่วมลงทุนกับพันธมิตรในทางธุรกิจในการวิจัยและพัฒนา เป็นมูลค่ากว่า 800 ล้านปอนด์ โดยสองในสามของการลงทุนด้านเทคโนโลยีพื้นฐานมีวัตถุประสงค์เพื่อลดมลภาวะทางเสียงรวมถึงการปล่อยมลพิษอื่นๆ เทคโนโลยีหลักที่โรลส์-รอยซ์ได้มีการลงทุน มุ่งเน้นไปยังการลดมลภาวะทางเสียงและทางอากาศ

.
6. สัญญาการให้บริการ TotalCare® ที่สามารถปรับแต่งให้ตอบสนองความต้องการเฉพาะของสายการบินแต่ละแห่ง สามารถให้บริการที่ครอบคลุมถึงองค์ประกอบต่างๆ เช่น การบำรุงรักษาแบบคาดการณ์ล่วงหน้า การบริหารการขนส่ง และบริการซ่อมแซมบำรุงรักษาที่ครอบคลุมทั่วโลก TotalCare® ช่วยลดความไม่แน่นอนในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์ และเพิ่มความเสถียรภาพในด้านค่าใช้จ่าย เนื่องจากสามารถคาดการณ์การบริหารจัดการค่าใช้จ่าย