เนื้อหาวันที่ : 2009-03-16 11:45:37 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1696 views

ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ต่อสิงคโปร์

นับเป็นข้อตกลงครั้งแรกระหว่างภูมิภาคอาเซียนกับออกเตรเลียและนิวซีแลนด์ และเป็นข้อตกลงครั้งที่ 4 ของอาเซียนกับเป็นเทศคู่ค้าสำคัญ ที่ครอบคลุมหัวข้อสำคัญ 3 ประการคือ ด้านการค้า การบริการ และการลงทุน

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552  ในการประชุม ASEAN Summit ครั้งที่ 14  ณ  ชะอำ, จังหวัดเพชรบุรี  ประเทศไทย  รัฐมนตรีเศรษฐกิจของอาเซียน  ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ได้ลงนามในข้อตกลงการค้าเสรี ASEAN-Australia-New Zealand Free Trade Area Agreement (AANZFTA)  นับเป็นข้อตกลงครั้งแรกระหว่างภูมิภาคอาเซียนกับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ และเป็นข้อตกลงครั้งที่ 4 ของอาเซียนกับประเทศคู่ค้าสำคัญ (หลังจากจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น) ที่ครอบคลุมหัวข้อสำคัญ 3 ประการคือ  ด้านการค้า  การบริการ และการลงทุน

 

ได้แก่  การค้าสินค้าแหล่งกำเนิดสินค้า  กฎ/ระเบียบศุลกากร   การบริการ(รวมด้านการเงินและโทรคมนาคม) การพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์  การตรวจตราคนเข้าเมือง  การลงทุนมาตรการด้าน SANITARY AND PHYTOSANITARY (SPS)   ระเบียบด้านเทคนิค และ conformity assessment procedures, ทรัพย์สินทางปัญญา  การแข่งขันทางการค้า  ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ/การค้าและการลงทุน  และระบบการ จัดการข้อพิพาททางการค้า                   

 

ข้อตกลง AANZFTA เมื่อมีผลบังคับใช้จะทำให้เกิดการค้าเสรีครอบคลุมมากกว่า 600 ล้านคน มี GDP รวมมากกว่า 2  ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ   ทั้งนี้  ในปี 2551   การค้าระหว่างอาเซียนกับ ออสเตรเลียและ นิวซีแลนด์มีมูลค่าเกือบ 50 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และ FDI จากออสเตรเลียและ นิวซีแลนด์ มีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ  ด้วยการมี AANZFTA  คาดว่าการค้าและการ ลงทุน ระหว่าง อาเซียนกับ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นและอย่างรวดเร็วด้วย

 

นอกเหนือจากผลที่ได้รับทางเศรษฐกิจแล้ว  ยังมีผลประโยชน์สำคัญทางยุทธศาสตร์ด้วย  คือ อาเซียนได้พัฒนาและมีความพร้อมที่จะก้าวไปสู่ภูมิภาคอื่นๆโดยมีศักยภาพสูงและเป็นที่เชื่อถือในตลาดโลก

 
ผลของข้อตกลง AANZFTA  ต่อสิงคโปร์ 

ข้อตกลงดังกล่าว จะช่วยสนับสนุนและส่งเสริมให้สิงคโปร์สามารถขยายตลาดได้อย่างเสรี ไม่เฉพาะทางด้านการค้าเท่านั้น  ยังรวมถึงการบริการและการลงทุนให้เพิ่มขึ้นได้ในอนาคตและครอบคลุมสาขาต่างๆได้มากขึ้นนอกเหนือจากข้อตกลงที่มีเฉพาะระหว่างสิงคโปร์-ออสเตรเลีย และ สิงคโปร์-นิวซีแลนด์  ทั้งนี้ ความ สัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสิงคโปร์กับออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้

 
สิงคโปร์กับออสเตรเลีย 

สิงคโปร์และออสเตรเลียมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดในด้านการทูต การทหาร การศึกษา การค้า  การท่องเที่ยว  การเป็น Commonwelth และวิสัยทัศน์ที่คล้ายกัน 

 

การค้าระหว่างสิงคโปร์กับออสเตรเลีย ในปี 2551 ออสเตรเลียเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 11 (การค้ารวม) ของสิงคโปร์ มีมูลค่า 25,995.9 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 20.37 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 2.8)  โดยสิงคโปร์นำเข้าจากออสเตรเลียมูลค่า 6,458.9 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 35.58 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 1.43)  และส่งออกไปยังออสเตรเลียมูลค่า 19,536.9 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 16.07 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 4.1) 

 

ข้อตกลงการค้าเสรี ระหว่างสิงคโปร์กับออสเตรเลีย คือ The Singapore-Australia Free Trade Agreement (SAFTA) มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 กรกฏาคม 2546 ครอบคลุม  tariff-free สำหรับสินค้าที่พัฒนาเข้าสู่ภาคการบริการ (รวมถึงโทรคมนาคม การบริการการเงินและผู้เชี่ยวชาญ)  ความร่วมมือให้การดำเนินการสะดวกขึ้นในด้าน e-commerce,  มาตรฐานต่างๆ, การศึกษา, การคุ้มครองทางทรัพย์สินทางปัญญา, นโยบายการแข่งขันทางการค้า และข้อกำหนดศุลกากร  ซึ่งทำให้ผู้ส่งออก/นักลงทุน/ผู้เชี่ยวชาญชาวออสเตรเลียสามารถทำธุรกิจในสิงคโปร์ได้ง่ายขึ้น 

 

นอกเหนือจากข้อตกลงการค้าเสรีข้างต้นแล้ว เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2551  สิงคโปร์และ Western Australia ได้ประกาศความร่วมมือโครงการพัฒนา Cross-Media Development Projects ซึ่งมี  2 โครงการแรกที่ได้รับเลือกและจะได้รับเงินสนับสนุนมากถึง 30,000 เหรียญสหรัฐฯ  คือ (1) "Off the Wall" from Zac Toons (Western Australia) กับ  Scrawl Studios (Singapore) และ (2) "Origami Samurai" by Vue DC (Western Australia) กับ Sitting in Pictures (Singapore) โดยในแต่ละโครงการจะต้องพัฒนา content ให้สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์สำหรับสื่ออื่นๆ (นอกเหนือจากทีวี) ได้แก่ publishing, on line and mobile distribution

 
สิงคโปร์กับนิวซีแลนด์ 

สิงคโปร์กับนิวซีแลนด์มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทั้งในด้านการทูต  การค้า และการทหาร(สิงคโปร์เป็นประเทศสำคัญอันดับ 2 รองจากออสเตรเลีย)  นอกจากนี้ มีข้อตกลงระหว่างกันเกี่ยวกับ double taxation, การให้บริการสายการบินแบบ open skies   และอุตสาหกรรมภาพยนต์                   

 

การค้าระหว่างสิงคโปร์กับนิวซีแลนด์ ในปี 2551 นิวซีแลนด์เป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 29 (การค้ารวม) ของสิงคโปร์ มีมูลค่า 3,814.6 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 25.13 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.41)  โดยสิงคโปร์นำเข้าจากนิวซีแลนด์มูลค่า 1,093.6 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 55.36 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.24)  และส่งออกไปยังนิวซีแลนด์มูลค่า 2,721.0 ล้านเหรียญสิงคโปร์ (เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ร้อยละ 16.05 ส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 0.57) 

 

ถึงปัจจุบัน สิงคโปร์และนิวซีแลนด์ได้มีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA)  ที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชีย-แปซิฟิค  โดยมีข้อตกลงการค้าเสรี 2 ฉบับ คือ (1) Agreement on a Closer Economic Partnership  เป็นข้อตกลงด้านเศรษฐกิจที่สำคัญครั้งแรกระหว่างสิงคโปร์กับนิวซีแลนด์มีผลบังคับใช้เมื่อเดือนมกราคม 2544 

 

เป็นข้อตกลงการค้าที่สมบูรณ์ นอกเหนือจาก CER กับออสเตรเลีย  และ  (2) Trans-Pacific Strategic Economic Partnership Agreement  ในเดือนมิถุนายน 2548 ระหว่างนิวซีแลนด์ สิงคโปร์ บรูไน และชิลี  ซึ่งจะใช้เป็นพื้นฐานให้ต่อไปยังการขยายข้อตกลงการค้าเสรีในเอเชีย-แปซิฟิกกับสหรัฐฯ  ออสเตรเลีย  และเปรู  รวมถึงเวียดนามในอนาคต ทั้งนี้  AANZFTA จะส่งผลให้สองประเทศได้ผลประโยชน์ครบถ้วนทั้งด้านการค้า การลงทุนและการบริการ                        

 

อนึ่ง ภาครัฐของนิวซีแลนด์ส่งเสริมการขยายการค้าสินค้าและบริการไปยังอาเซียน โดยกำหนดจัดงาน New Zealand Forum ในวันที่ 22 เมษายน 2552  ณ Biopolis สิงคโปร์ ซึ่งมีแผนการที่จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสิงคโปร์กับนิวซีแลนด์ในด้านต่างๆ ได้แก่  biotechnoloty,  information technology , creative industries and clean technology

 
ข้อสังเกต 

ส่วนใหญ่สิงคโปร์จะได้รับสิทธิประโยชน์ข้อตกลงการค้าเสรี เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศการค้าเสรีและไม่เรียกเก็บภาษีขาเข้า ยกเว้นสินค้า 4 รายการคือ น้ำมัน รถยนต์ เหล้า และบุหรี่ ดังนั้น ผู้ส่งออกสิงคโปร์จะได้รับสิทธิเต็มที่ในการส่งออกสินค้าจากสิงคโปร์ไปยังประเทศคู่ค้าที่มีข้อตกลงการค้าเสรีฯ และนอกเหนือจากนั้น สิงคโปร์ยังสามารถส่งออกบุคคลากรผู้เชี่ยวชาญเข้าไปทำงานได้อย่างเสรีด้วย