เนื้อหาวันที่ : 2009-03-16 10:04:15 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1330 views

เศรษฐกิจถดถอย ผลักดันการตลาดออนไลน์คึกคัก

จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย รวมทั้งการทำงานในสถานการณ์ที่งบประมาณค่อนข้างจำกัด นักการตลาดควรน้นการตลาดเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ นักการตลาดส่วนใหญ่จึงเล็งเห็นว่าการตลาดออนไลน์คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรฝ่าฟันวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้ได้

สภาวะเศรษฐกิจถดถอยในครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงกว่าเมื่อปี 2540 ที่ผ่านมา และคงจะใช้เวลา 3-4 ปีกว่าจะฟื้นตัว ภาวการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลให้การแข่งขันในภาคธุรกิจทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ท่ามกลางเศรษฐกิจถดถอยเช่นนี้หากนักการตลาดท่านใดตัดสินใจลดงบประมาณตลาดจะถือเป็นความผิดพลาดครั้งสำคัญ 

.

เพราะนี่ไม่ใช่เวลาของการตัดงบ สิ่งที่นักการตลาดควรทำคือการเพิ่ม หรือ อย่างน้อยก็รักษางบประมาณการตลาดไว้ในระดับเดิม เพราะนี่จะเป็นโอกาสดีในการเร่งสร้างกำไร และช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจากคู่แข่งที่พร้อมใจกันลดงบประมาณการตลาด         

.

การทำงานในสถานการณ์ที่งบประมาณค่อนข้างจำกัดนั่นถือเป็นเรื่องที่ท้าทาย นักการตลาดควรมุ่งเน้นกลยุทธ์ตลาดในเชิงรุกมากกว่าเชิงรับ ทั้งนี้เพื่อใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยเหตุนี้ นักการตลาดส่วนใหญ่จึงเล็งเห็นว่าการตลาดออนไลน์คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรฝ่าฟันและผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจในครั้งนี้

.

อย่างไรก็ดี แม้นักการตลาดส่วนใหญ่จะพอใจกับผลตอบแทนและประสิทธิภาพของการตลาดออนไลน์ แต่ก็ยังมีนักการตลาดบางส่วนที่หวั่นเกรงว่า การตลาดออนไลน์มีความเสี่ยงสูงและวัดผลได้ยาก ด้วยเหตุนี้นักการตลาดที่จะหันมาใช้การตลาดออนไลน์ ควรเสริมสร้าง ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ                           

.

"งาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok จึงถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีแห่งการเรียนรู้สำหรับนักการตลาดที่กำลังมองหาโอกาสในการนำตลาดออนไลน์มาเสริมศักยภาพด้านการแข่งขัน สร้างกำไร หรือเพื่อวาวแผนกลยุทธ์ออนไลน์เพื่อผนวกไว้ในแผนการตลาดรวมของตน ตลอดจนเพื่อเรียนรู้ถึงกลยุทธ์และแนวคิดใหม่ๆ ของการตลาดออนไลน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา"

.

ทั้งนี้จากการเปิดเผยของนายศิระพัฒน์ เกตุธาร กรรมการผู้จัดการบริษัท สป็อตมาร์ก จำกัด บริษัทผู้จัดการประชุมสัมมนาเชิงธุรกิจมืออาชีพ ซึ่งจัดงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok ขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเพิ่มสูงขึ้นของการตลาดออนไลน์ในประเทศไทย

.

ความคึกคักของ การตลาดออนไลน์ ไม่ได้เพียงเกิดขึ้นเฉพาะในเมืองไทย แต่เป็นแนวโน้มที่ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากรายงานล่าสุดของ เคลซีกรุ๊ป และ บีไอเอ แอดไวซ์ เซอร์วิส ที่แสดงว่า ถึงแม้การใช้จ่ายด้านโฆษณาโดยรวมของสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่จะลดลงปีละ 1.4% "แต่ข่าวดีก็คือ งบประมาณโฆษณาออนไลน์จะเพิ่มขึ้นมาทดแทนส่วนที่ขาดหายไป โดยงบประมาณส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้ในการโฆษณาในเยลโลเพจเจสออนไลน์ เสิร์ชเอ็นจิน การตลาดอีเมลล์ และเครื่องมือกาตลาดออนไลน์อื่นๆ" 

.

พัฒนาการของตลาดออนไลน์ในประเทศไทยก็เช่นกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ได้คาดการณ์ไว้ว่า งบประมาณด้านการตลาดออนไลน์มีแนวโน้มที่จะสูงขึ้น โดยเป็นผลภาวะเศรษฐกิจถดถอยและงบประมาณที่จำกัดจะทำให้นักการตลาดจะหันไปใช้เครื่องมือการตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้น

.

เพราะเป็นเครื่องมือที่ประหยัดแต่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ประเทศไทยก็ยังเป็นประเทศที่การตลาดออนไลน์มีแนวโน้มที่จะขยายตัวสูง เนื่องจากมีอัตราเฉลี่ยของระยะเวลาใช้งานอินเตอร์ต่อผู้ใช้เป็นอันดับสองในเอเชียรองจากสิงคโปร์ และมีผู้ใช้งานอินเตอร์มากกว่า 13 ล้านคน และมีสมาชิกอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ถึง 913,000 คน 

.

"ภายในงาน Internet Marketing Conference 2009 Bangkok ผู้เชี่ยวชาญจะร่วมแสดงวิสัยทัศน์และแนะแนวทางให้แก่นักการตลาดถึงการนำเครื่องมือการตลาดออนไลน์มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในด้านความคุ้มค่าต่อการลงทุนและการสร้างผลกำไร โดยจะเน้นไปที่เครื่องมือการตลาดออนไลน์ที่กำลังได้รับการกล่าวขวัญถึงอย่างกว้างขวาง อาทิ Social Media Marketing, Search Engine Marketing, e-Mail Marketing ตลอดจนการวางกลยุทธ์โฆษณาออนไลน์" นายศิระพัฒน์กล่าวและว่า

.

"นอกจากนี้เรายังเชิญผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิด้านการตลาดออนไลน์มาร่วมเสวนาถึงเครื่องมือการตลาดที่น่าจับตามองอื่นๆ อาทิ Video Marketing, Blogging, Mobile Marketing, Behavioral Targeting, Relationship Marketing and Multicultural Marketing ที่กำลังเป็นที่จับตาของนักการตลาดออนไลน์ทั่วโลกอีกด้วย"