เนื้อหาวันที่ : 2009-03-11 09:41:44 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1704 views

พีดี เฮ้าส์ หนีจับตลาดรับสร้างบ้าน 1-2 ล้าน ดึง แบ๊งค์ยักษ์ ปล่อยกู้สร้างบ้านข้าราชการทั่วประเทศ

พีดี เฮ้าส์ เปิดแผนการตลาดปี 52 เน้นเจาะกลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ รับสร้างบ้านทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมจับมือธนาคารฯ อัดโปรโมชั่น หวังกระตุ้นยอดขายไตรมาสแรก

ผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจของประเทศไทยปีนี้ ผู้ประกอบการสร้างบ้านส่วนใหญ่ต่างเห็นพ้องกันว่าตลาดรับสร้างบ้านต่ำกว่า 2.5 ล้านบาท จะหดตัวและแข่งขันรุนแรงที่สุด เพราะมองว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีกำลังซื้อจำกัด และต้องอาศัยสินเชื่อแบ๊งค์เพื่อปลูกสร้างบ้านเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่แบ๊งค์เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อและมักถูกปฏิเสธให้กู้ยืม ด้าน พีดี เฮ้าส์ กลับมองต่างมุม      

.

เปิดแผนการตลาดปี 52 เน้นเจาะกลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ปูพรหมรับสร้างบ้านทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดสวนทางคู่แข่งขัน เผยไม่หวังแค่กำไรแต่หวังสร้างการรู้จักและยอมรับของผู้บริโภคกลุ่มนี้ ที่มีต่อธุรกิจรับสร้างบ้านในวงกว้างออกไป เชื่อระยะยาวจะช่วยเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค หันมาใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพแทนผู้รับเหมารายย่อย    

.

เตรียมเปิดตัวแบบบ้านใหม่ 8 แบบ ระดับราคา 1-2 ล้านบาทเศษ พร้อมจับมือธนาคารฯ อัดโปรโมชั่นลดราคาบ้าน 7% ฟรีค่าจดจำนอง ค่าทำนิติกรรม ค่าตรวจงวดงาน  หวังกระตุ้นยอดขายไตรมาส 1 ตั้งเป้ายอดขาย 150 ล้านบาท 

.

นางมาลี สุวรรณสุต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ พีดี เฮ้าส์ กล่าวว่าภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมายังหดตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว รวมทั้งสถานการณ์แข่งขันของผู้ประกอบการในปีนี้มีแนวโน้มแข่งขันราคากันรุนแรง

.

ดังนั้นผู้ประกอบการหลายรายจึงต้องเร่งปรับตำแหน่งทางการตลาดของตัวเอง เพื่อจะหนีการแข่งขันโดยหันไปจับกลุ่มลูกค้าบ้านหรูหรือบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปและระดับ 5-10 ล้านบาทแทน เพราะเชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนี้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจน้อย

.

ส่วนใหญ่ใช้เงินสดสร้างบ้านและมีกำลังซื้อสูง รวมถึงมองว่าราคามิใช่ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าสร้างบ้านกลุ่มนี้ ทำให้เป็นแรงดึงดูดให้ผู้ประกอบการรายเล็กรายกลางและรายใหญ่ต่างเบนเข็มมุ่งจับลูกค้าตลาดบนมากขึ้น ในขณะบ้านระดับราคา 1-2 ล้านบาท กลับมีบริษัทรับสร้างบ้านทำตลาดเพียงไม่กี่รายเท่านั้น    

.

"การบริหารต้นทุนค่าดำเนินการของผู้ประกอบการสร้างบ้านถือเป็นอุปสรรคสำคัญ โดยเฉพาะลูกค้าที่มาใช้บริการสร้างบ้านส่วนใหญ่เป็นประเภทบ้านเดี่ยวหรือาคารหลังเดี่ยว ซึ่งลูกค้าที่มาว่าจ้างสร้างบ้านจะกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลและต่างจังหวัด ดังนั้นการรับงานสร้างบ้าน 1 หลังที่มีขนาดเล็กหรือมีมูลค่าไม่สูงก็จะมีต้นทุนค่าบริหารงานพอๆกัน และใช้ระยะเวลาก่อสร้างไม่ต่างกันมากนัก

.

ในขณะที่มูลค่าก่อสร้างและสัดส่วนผลตอบแทน สำหรับการสร้างบ้านบ้านขนาดใหญ่สูงกว่า ดังนั้นตลาดบ้านหลังเล็กหรือกลุ่มระดับราคา 1-2 ล้านบาท จึงมีบริษัทรับสร้างบ้านสนใจทำตลาดเพียงไม่กี่ราย เพราะว่าไม่คุ้มกับระยะเวลาดำเนินงานและผลกำไรต่ำกว่า ดังนั้นแชร์ส่วนแบ่งตลาดสร้างบ้านในระดับราคา 1-2 ล้านบาท ส่วนใหญ่จึงตกเป็นของกลุ่มผู้รับเหมารายย่อย"

.

นางมาลี สุววรณสุต เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ส่งทีมงานฝ่ายวิจัยฯลงพื้นที่กว่า 30 จังหวัด เพื่อสำรวจข้อมูลตลาดรับสร้างบ้านในช่วง 2 เดือนเศษที่ผ่านมา พบว่าผู้ต้องการสร้างบ้านหรือกำลังซื้อในกลุ่มระดับราคา 1-2 ล้านบาท ยังมีความต้องการมาเป็นอันดับ 1 หากแต่มีอุปสรรคที่ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเองได้ตามต้องการคือ 1.)ไม่มีบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพที่น่าเชื่อถือสามารถให้บริการได้

.

เหตุเพราะไม่รับสร้างบ้านราคาต่ำกว่า 2 ล้านบาท โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด หรืออีกเหตุผลคือบริษัทรับสร้างบ้านจะเรียกเก็บค่าขนส่งหรือค่าเดินทางเพิ่มเป็นเงินหลักแสนบาท ผู้บริโภคจึงจำเป็นต้องเลือกว่าจ้างผู้รับเหมารายย่อยแทน 2.)สถาบันการเงินมีเงื่อนไขและข้อจำกัดการปล่อยสินเชื่อคือ ผู้กู้จะต้องลงมือก่อสร้างบ้านให้มีความคืบหน้าอย่างน้อย 20% ขึ้นไป จึงจะยอมจ่ายเงินกู้งวดแรก                 

.

เนื่องเพราะกังวลว่าบ้านที่สร้างจะถูกผู้รับเหมาทิ้งงานหรือไม่ก่อสร้างจริงและจะส่งผลกระทบตามา ผู้กู้บางรายจึงต้องไปกู้เงินนอกระบบมาจ่ายให้ผู้รับเหมางวดแรกก่อน ทำให้มีภาระดอกเบี้ยนอกระบบเพิ่มขึ้น ผู้กู้หลายรายถอดใจและชะลอการกู้สร้างบ้านออกไปก่อน 

.

ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยฯได้สำรวจพบความต้องการสร้างบ้านมีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะจังหวัดปริมณฑลและจังหวัดในภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้มองเห็นโอกาสโดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งไม่สนใจตลาดบ้านกลุ่มระดับราคา 1-2 ล้านบาท

.

ดังนั้นบริษัทฯจึงได้ทำการประชาสัมพันธ์ผ่านธนาคารของรัฐและธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ ไปยังผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว โดยเน้นและให้ความสำคัญกับกลุ่ม พนักงานรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการครู ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น อาทิ เทศบาล อบต. ฯลฯ   

.

ตามที่บริษัทฯมีสาขาตั้งอยู่ในจังหวัดนั้นๆหรือจังหวัดใกล้เคียง ครอบคลุมพื้นที่บริการกว่า 40 จังหวัด สำหรับการหันมาจับตลาดสร้างบ้านกลุ่มระดับราคา 1-2 ล้านบาทในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการขยายช่องทางเพิ่มยอดขายและรายได้ของบริษัทฯในปีนี้แล้ว ยังถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะผลักดันให้ธุรกิจรับสร้างบ้านเป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคทั่วประเทศมากขึ้น ตามนโยบายที่บริษัทฯวางไว้ 

.

นางมาลี ยังกล่าวต่อว่าในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ บริษัทฯได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือออกแบบบ้านใหม่จำนวน 8 แบบ ระดับราคา 1-2 ล้านบาทเศษ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่สนใจจะสร้างบ้านคุณภาพกับบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพ  โดยจะทำการเปิดตัวแบบบ้านในงาน “มหกรรมบ้านขอนแก่น ครั้งที่ 4” จัดโดย ชมรมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดขอนแก่น ระหว่างวันที่ 27-29 มีนาคม 2552 นี้

.

ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น ห้อง Convention Hall บริเวณชั้น 2 พร้อมทั้งกระตุ้นตลาดด้วยการจัดโปรโมชั่นมอบส่วนลดพิเศษ 7% ของราคาบ้านปกติ ฟรีค่าจดจำนอง ค่าทำนิติกรรม ค่าตรวจงวดงาน สำหรับลูกค้ากลุ่มข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ใช้สินเชื่อปลูกสร้างบ้านกับ 3 สถาบันการเงินชั้นนำ เฉพาะในเดือนมีนาคม-เมษายนนี้เท่านั้น โดยตั้งเป้าทำยอดขายจาก 12 สาขาทั้งสาขาในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดไว้สำหรับแคมเปญนี้ 150 ล้านบาท