เนื้อหาวันที่ : 2009-03-10 11:13:51 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1084 views

คลังเผย 5 เดือนแรกปีงบ 52 เก็บรายได้พลาดเป้ากว่า 8.8 หมื่นล้านบาท

กรณ์ รัฐมนตรีคลัง รัฐบาลอภิประชานิยม ออกอาการไม่ปลื้มหลังจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 5 เดือนแรกปีงบประมาณ 52 ที่ต่ำกว่าประมาณการ 88,586 ล้านบาท เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมหลัก และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสหกิจต่ำกว่าเป้า อัตราการคืนภาษีเพิ่มขึ้น

                                                                        

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)

.

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 52(ต.ค.51-ก.พ.52) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 451,527 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 88,586 ล้านบาท คิดเป็น 16.4% ซึ่งเป็นผลจากการจัดเก็บภาษีของ 3 กรมหลัก และการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่ต่ำกว่าประมาณการ รวมทั้งการคืนภาษีของกรมสรรพากรที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง     

.

"ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 5 เดือนแรกปีงบประมาณ 52 ที่ต่ำกว่าประมาณการ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่หดตัวลงที่ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ยังได้รับผลจากนโยบายของรัฐบาลในการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันจาก 6 มาตรการ 6 เดือน" นายสมชัย กล่าว     

.

ล่าสุด ผลการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในเดือน ก.พ.52 มีทั้งสิ้น 82,430 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 23,481 ล้านบาท คิดเป็น 22.2%(ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 29.1%) 

.

โดยภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 14,231 ล้านบาท คิดเป็น 32.1%  เนื่องจากการนำเข้าสินค้าต่ำกว่าประมาณการถึง 50% ซึ่งสอดคล้องกับผลการจัดเก็บอากรขาเข้าที่ต่ำกว่าประมาณการ 2,627 ล้านบาท  คิดเป็น 35.5% และภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บจากการบริโภคในประเทศก็ต่ำกว่าประมาณการถึง 16.9%

.

นอกจากนี้ ภาษีสรรพสามิตรถยนต์จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 2,427 ล้านบาท หรือคิดเป็น 47.6% เนื่องจากข่าวผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรถยนต์ขอปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตรถยนต์ส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อออกไปก่อน 

.

ทั้งนี้ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 52 กรมสรรพากรจัดเก็บได้รวม 366,165 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 33,542 ล้านบาท คิดเป็น 8.4% แยกเป็นภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บได้ต่ำกว่า 15.8% เนื่องจากการนำเข้าและการบริโภคในประเทศที่เก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 4,191 ล้านบาท หรือ 4.9% เป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ลดลง แต่ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมและภาษีเงินได้นิติบุคคลจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 

.

ส่วนกรมสรรพสามิต จัดเก็บได้รวม 93,994 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 30,711 ล้านบาท คิดเป็น 24.6% มาจากการจัดเก็บภาษีน้ำมันที่ต่ำกว่าประมาณการถึง 57.9% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากมาตรการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลและแก๊สโซฮอล์ ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อ31 ม.ค.52 และการเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ที่ได้ต่ำกว่าประมาณการ 25.7%    

.

ขณะที่กรมศุลกากร จัดเก็บได้รวม 35,425 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ  6,325 ล้านบาท คิดเป็น 15.1% เนื่องจากอากรขาเข้าจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ  15.8 % เป็นผลจากการหดตัวของมูลค่าการนำเข้าสินค้าเป็นหลัก สำคัญ                             

.

นอกจากนี้ การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจมีทั้งสิ้น  27,268 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 6,477 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.2% จากการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ขอเลื่อนการนำส่งรายได้ออกไป และ บมจ.ทีโอที ยังไม่สามารถนำส่งเงินปันผลได้                            

.

หน่วยงานอื่น นำส่งรายได้รวม 40,284 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 2,995 ล้านบาท คิดเป็น 8% เนื่องจากในช่วงต้นปีงบประมาณ การจัดเก็บค่าภาคหลวงปิโตรเลียมยังได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ยังอยู่ในระดับสูง 

.

ส่วนการคืนภาษีของกรมสรรพากรมีทั้งสิ้น  95,328 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 15,608 ล้านบาท คิดเป็น 19.6% ประกอบด้วยการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่สูงกว่าประมาณการ 13.1% และการคืนภาษีอื่นๆ สูงกว่าประมาณการ 76.3 %

.

อย่างไรก็ตาม นายสมชัย ยืนยันว่า กระทรวงการคลังจะดูแลฐานะทางการคลังและรักษาวินัยทางการคลัง เพื่อรักษาการใช้จ่ายของรัฐบาลให้เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง