เนื้อหาวันที่ : 2009-03-05 17:25:59 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1600 views

กฟผ.เตรียมหารืออัยการหลังแพ้คดีโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ยันไม่ได้ปล่อยปละละเลย

กฟผ.หารืออัยการและผู้เกี่ยวข้อง หลังศาลพิพากษาให้ จ่ายชดเชยเงินให้แก่ราษฎรใน อ.แม่เมาะ จำนวน 418 คนๆ ละ 2.48 แสนบาท พร้อมทั้งจัดหาที่อยู่ใหม่ห่างจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 5 กิโลเมตร

นายวิรัช กาญจนพิบูลย์ รองผู้ว่าการกิจการสังคมและสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ.เผยเตรียมหารืออัยการและผู้เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป หลังศาลปกครองเชียงใหม่มีคำพิพากษาให้ กฟผ.จ่ายชดเชยเงินให้แก่ราษฎรใน อ.แม่เมาะ จำนวน 418 คนๆ ละ 2.48 แสนบาท พร้อมทั้งจัดหาที่อยู่ใหม่ห่างจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ 5 กิโลเมตร ซึ่งที่ผ่านมา กฟผ.ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่มาโดยตลอดเช่นเดียวกับการดูแลชุมชนรอบโรงไฟฟ้าของ กฟผ.ทั่วประเทศ      

.

"กฟผ.ขอศึกษารายละเอียดต่างๆ ตามคำพิพากษา และต้องหารือกับพนักงานอัยการซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจแก้ต่างคดีให้ กฟผ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป" นายวิรัช กล่าว     

.

โดยศาลปกครองเชียงใหม่แบ่งการพิจารณาคดีเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคดีเกี่ยวกับโรงไฟฟ้า 19 คดี และกลุ่มคดีเกี่ยวกับเหมือง 16 คดี ในส่วนกลุ่มคดีเกี่ยวกับโรงไฟฟ้ามีคำวินิจฉัยว่า ตั้งแต่ ปี 2541 เป็นต้นมา โรงไฟฟ้าแม่เมาะไม่ได้ปล่อยสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์เกินกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และไม่มีสารซัลเฟอร์ฯ สะสมในร่างกายของราษฎรที่แม่เมาะ แต่เนื่องจากศาลเห็นว่าระหว่างปี 2535-2541 โรงไฟฟ้าปล่อยสารซัลเฟอร์ฯ เกินมาตรฐานที่กำหนดเป็นครั้งคราว จึงให้ กฟผ.ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 19 สำนวน    

.

ส่วนกลุ่มคดีเกี่ยวกับเหมืองแม่เมาะ ศาลวินิจฉัยว่า กฟผ.ยังไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขประทานบัตรในการทำเหมืองครบทุกข้อ และมีคำสั่งให้ กฟผ.ดำเนินให้ครบถ้วน พร้อมทั้งได้วินิจฉัยว่า การที่ กฟผ.ยังปฏิบัติไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไขแนบท้ายประทานบัตรนั้นไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและผู้ฟ้องคดีแต่อย่างใด 

.

โฆษก กฟผ.กล่าวว่า กฟผ.ได้ดำเนินการเพื่อป้องกันปัญหาด้านคุณภาพอากาศที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ โดยทำการติดตั้งเครื่องกำจัดก๊าซซัลเฟอร์ฯ สำหรับโรงไฟฟ้าทุกเครื่องเรียบร้อยแล้ว และมั่นใจว่าได้ดำเนินการทุกขั้นตอนตามกฎหมายเกี่ยวกับคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการดูแลให้ความช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของราษฎร อ.แม่เมาะ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในระหว่างปี 2535-2540 กฟผ.ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาระยะสั้นด้วยมาตรการต่างๆ อาทิ การลดกำลังการผลิตในช่วงที่สภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวย การใช้น้ำมันดีเซล เดินเครื่องเสริม การติดตั้งระบบตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพื่อควบคุมการเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น 

.

ส่วนการดำเนินการเกี่ยวกับมาตรการที่แนบท้ายประทานบัตรเหมืองนั้น กฟผ.ได้ดำเนินการฟื้นฟูสภาพเหมือง โดยการจัดแบ่งพื้นที่เป็น 4 ส่วน คือ พื้นที่ปลูกป่าทดแทน พื้นที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน พื้นที่แหล่งกักเก็บน้ำ พื้นที่พักผ่อนและแหล่งเรียนรู้ อาทิ สวนพฤษชาติ อาคารพิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ ทุ่งบัวตอง ลานกิจกรรมนันทนาการ และสนามกอล์ฟ 

.

สำหรับราษฎรที่อาศัยในพื้นที่ใกล้บริเวณเหมืองที่ ครม.มีมติให้โยกย้ายออกจากพื้นที่โดยความสมัครใจ คือ บ้านหัวฝาย บ้านหัวฝายหล่ายทุ่ง บ้านหางฮุง บ้านห้วยเป็ด และบ้านห้วยคิง  กฟผ.ได้ดำเนินการโยกย้ายแล้วเป็นส่วนใหญ่ และขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอพยพราษฎรชุดสุดท้ายออกจากพื้นที่ 

.

"กฟผ.ให้คามสำคัญต่อการดำเนินงานเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง เช่น ด้านฝุ่น เสียง น้ำ เป็นต้น จนได้รับใบรับรองด้านสิ่งแวดล้อม ISO 14001 รวมทั้งดูแลให้ความช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่และคำนึงถึงคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณรอบพื้นที่โรงไฟฟ้าและเหมืองอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับการดูแลชุมชนรอบโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั่วประเทศ" นายวิรัช กล่าว