เนื้อหาวันที่ : 2009-03-04 10:28:27 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1305 views

กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ลุ้นรัฐผ่านงบ 800 ลบ.พัฒนาฝีมือแรงงาน-ชะลอเลิกจ้าง

ประสาทศิลป์ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เผย ข้อเสนอของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต้องการให้ภาครัฐเร่งช่วยเหลือมากที่สุด หนุนงบประมาณ 800 ล้านบาท พัฒนาฝีมือแรงงานภาคอุตสาหกรรมยานยนต์รักษาการจ้างงาน

นายประสาทศิลป์ อ่อนอรรถ นายกสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทย เปิดเผยว่า ข้อเสนอของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ต้องการให้ภาครัฐเร่งช่วยเหลือมากที่สุด คือ การสนับสนุนงบประมาณ 800 ล้านบาท เพื่อใช้สำหรับโครงการพัฒนาฝีมือแรงงานในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และช่วยรักษาการจ้างงานให้คงไว้ ซึ่งจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันนี้

.

ทั้งนี้ มองว่ากลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์มีความจำเป็นต้องรักษาแรงงานฝืมือไว้เพื่อรองรับกับแนวโน้มที่ว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มฟื้นตัวได้ตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว อุตสาหกรรมยานยนต์ก็จะเริ่มฟื้นตัวตาม และหากไม่รักษาแรงงานฝีมือเหล่านี้ไว้จะทำให้อุตสาหกรรมนี้พัฒนาไม่ทันประเทศเพื่อนบ้าน 

.

"แรงงานมีฝีมือเริ่มไหลออก ถ้าจะให้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายก็คงไม่มีปัญญา ถ้ารัฐไม่ช่วยอาจจะต้องตามเวรตามกรรม รัฐควรจะมองให้ไกลๆ ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เราพัฒนามากว่า 30 ปี ถ้ารัฐไม่ประคองยอมให้ล้ม ก็ต้องคิดให้หนัก เพราะเราเป็นอุตสาหกรรมที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจส่วนรวมของประเทศมากพอควร" นายประสาทศิลป์ กล่าวในรายการวิทยุเช้านี้ 

.

นายประสาทศิลป์ ยังกล่าวด้วยว่า ข้อเสนออีกประการที่เห็นว่ามีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยเหลือ คือ การใช้รถเมล์เอ็นจีวีที่ประกอบในประเทศ แทนการเช่าซื้อจากต่างประเทศ เพราะการใช้รถเมล์ที่ประกอบในประเทศย่อมก่อให้เกิดการจ้างงานตามมา รวมถึงข้อเสนอที่ให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อซื้อรถด้วย 

.
ส่วนข้อเสนอเรื่องการลดภาษีสรรพสามิตนั้น ทางสมาคมฯ ไม่ได้ตั้งความหวังมากนัก เพราะมองว่าช่วงนี้เศรษฐกิจชะลอตัว การกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนด้วยการลดภาษีสรรพสามิตอาจจะทำได้ไม่ง่าย ประกอบกับการลดภาษีมีผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของประเทศ 
.

ทั้งนี้หากข้อเสนอดังกล่าวไม่ได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในวันนี้ ทางสมาคมฯ จะกลับไปหารือกันในที่ประชุมใหญ่ของสมาคมฯ อีกครั้งถึงแนวทางการดำเนินการต่อไป ซึ่งอาจจะต้องขอหารือกับนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี หรือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่ารัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไรที่จะช่วยประคับประคองอุตสาหกรรมนี้ไว้