เนื้อหาวันที่ : 2009-01-23 09:04:19 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1602 views

ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นใหม่ เล็กบางกะทัดรัดมากขึ้น แต่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นหรือไม่?

ผลสำรวจล่าสุดของกรีนพีซพบว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่วางขายในปัจจุบันพัฒนาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามภาพรวมประเมินทั้งภาคอุตสาหกรรมยังพบว่ามีสิ่งที่ต้องพัฒนาปรับปรุงอีกมาก

เพื่อที่จะออกแบบสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานจำกัด ไปสู่สินค้าที่ปรับปรุงการใช้งานได้และมีอายุยาวนาน

ผลสำรวจล่าสุดของกรีนพีซพบว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่วางขายในปัจจุบันพัฒนาขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามภาพรวมประเมินทั้งภาคอุตสาหกรรมยังพบว่ามีสิ่งที่ต้องพัฒนาปรับปรุงอีกมาก

"กรีนพีซได้เดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อสำรวจหาและผลักดันให้มีผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ปราศจากสารพิษ ทนทาน และ มีประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงาน" นายคาร์ซี ฮาร์เรล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านสารพิษ กรีนพีซสากลกล่าว

"กรีนพีซยินดีที่การรณรงค์ของกรีนพีซเริ่มสัมฤทธิ์ผลในการผลักดันให้อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ปรับปรุงผลิตภัณฑ์จนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มา แต่ก็ยังไม่พบผลิตภัณฑ์ใดเลยที่ปราศจากสารพิษอย่างแท้จริงทั้งหมด ดังนั้นการสำรวจและจัดอันดับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สีเขียวของกรีนพีซจึงยังคงเดินหน้าต่อไป"

รายงาน "สินค้าอิเล็กทรอนิกส์สีเขียว: การสำรวจอย่างต่อเนื่อง" ได้ประเมินความคืบหน้าของบริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้ให้คำมั่นสัญญาแก่ผู้บริโภคต่อการพัฒนาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์หลัก15 แบรนด์

(3) ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของตนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดรวมทั้งสิ้น 50 ตัวอย่าง อาทิ ผลิตภัณฑ์ประเภทโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน โทรทัศน์ เครื่องคอมพิวเตอร์และจอมอนิเตอร์ คอมพิวเตอร์พกพา และ เกมคอนโซล  ซึ่งทางกรีนพีซได้นำมาวิเคราะห์ตามเกณฑ์ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (4) เพื่อประเมินให้คะแนนจัดอันดับผลิตภัณฑ์เหล่านั้น

กรีนพีซพบว่าปริมาณรุ่นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการใช้พลาสติกพีวีซีซึ่งเป็นอันตรายและสารเคมีอันตรายอื่นๆ มีจำนวนลดน้อยลง และยังพบว่ามีการเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ซึ่งประหยัดพลังงานและไม่มีการใช้สารปรอท

นอกจากนี้ยังมีการใช้พลาสติกรีไซเคิลในชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์ในปริมาณที่มากขึ้น โดยเฉพาะในโทรทัศน์ และจอมอนิเตอร์ และผู้ผลิตหลายรายเริ่มมีการตั้งจุดเก็บรับคืนสินค้าที่เสื่อมสภาพการใช้งานคืนเพื่อนำกลับไปรีไซเคิลอีกด้วย บางบริษัทได้มีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างรวดเร็วตามข้อกำหนดของเอ็นเนอร์ยีสตาร์  (Energy Star) ซึ่งเป็นเกณฑ์ประเมินประสิทธิภาพพลังงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

จอมอนิเตอร์แบบกว้าง รุ่นL 2440x ของเลอโนโวได้รับคะแนนสูงสุด 6.9 คะแนน จาก 10 คะแนน และนำทิ้งห่างผลิตภัณฑ์จอมอนิเตอร์จากแบรนด์อื่นๆ  ส่วนผู้นำในผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ นั้น ประกอบด้วย โทรทัศน์รุ่น LC-52GX5 ของชาร์ป ซึ่งได้ 5.92 คะแนน โทรศัพท์ของซัมซุง รุ่น F268 ได้ 5.45 คะแนน Smart phone ของโนเกียรุ่น 6210 ได้ 5.2 คะแนน คอมพิวเตอร์พกพาของโตชิบา รุ่น  Portege R600 ได้ 5.57 คะแนน และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ รุ่น ThinkCenter M58 ของเลอโนโว ได้ 5.88 คะแนน 

"คะแนนจากการประเมินโดยรวมในการสำรวจครั้งนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าปีก่อนๆ ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ประสบผลในการผลักดันสินค้าให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคควรที่จะเป็นตัวหลักในการผลักดันด้วยการสนับสนุนตลาดสีเขียว" นายฮาร์เรลกล่าว

กรีนพีซยังได้รวบรวมคะแนนสูงสุดของผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์แต่ละประเภทเพื่อประเมินคะแนนของทั้งอุตสาหกรรม ซึ่งสุดยอดผลิตภัณฑ์มีคะแนนเฉลี่ยมากถึง 8.6 คะแนน จึงแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสามารถผลิตได้จริงและดีกว่าส่วนใหญ่ที่วางขายในตลาดอยู่ทั่วไป

"อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์กำลังเดินมาถูกทาง และผู้ผลิตควรเร่งแข่งขันพัฒนาและขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นๆ และที่สำคัญคือการเรียนรู้ประยุกต์นำการปฏิบัติที่ดีของแต่ละแบรนด์ไปใช้ เรามั่นใจว่าผู้ผลิตทั้งหลายล้วนเป็นผู้ริเริ่มเทคโนโลยีที่ทันสมัย ดังนั้นการก้าวสู่ความเป็นผู้นำในการทำให้ผลิตภัณฑ์ของตนเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและต่อผู้บริโภคจึงไม่ใช่เรื่องยาก" นายฮาร์เรลกล่าว