เนื้อหาวันที่ : 2009-01-21 13:40:04 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1115 views

ส.อ.ท.เผยดัชนีเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ธ.ค.อยู่ที่ 62.9 ต่ำสุดในรอบ 5 ปี

อดิศักดิ์ โรหิตะสุน รองประธานส.อ.ท.เผย ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ธ.ค.51 อยู่ที่ 62.9 ลดลงจากเดือน พ.ย.ซึ่งอยู่ที่ 71.8 โดยดัชนีดังกล่าวถือว่าลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี

นายอดิศักดิ์ โรหิตะสุน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ธ.ค.51 อยู่ที่ 62.9 ลดลงจากเดือน พ.ย.ซึ่งอยู่ที่ 71.8 โดยดัชนีดังกล่าวถือว่าลดลงต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี

.

"ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 62.9 เป็นระดับต่ำสุดในรอบปี 2551 และยังต่ำสุดนับจากจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ส่งผลให้ในปี 2551 สร้างสถิติต่ำสุดถึง 2 ครั้งในปีเดียวกัน" นายอดิศักดิ์ ระบุ

.

สำหรับเหตุที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ธ.ค.51 ปรับตัวลดลง เป็นผลสำคัญมาจากเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ความกังวลของนักลงทุนจากปัญหาการเมืองภายในประเทศที่เกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมืองของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

.

ซึ่งส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจของภาคการท่องเที่ยว ภาคการผลิต ทำให้ยอดคำสั่งซื้อ และยอดขายทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศในเดือน ธ.ค.ลดลงอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังผลประกอบการที่ลดลงมากเช่นเดียวกัน

.

"สภาวะแวดล้อมในการดำเนินกิจการ พบว่าปัจจัยด้านภาวะเศรษฐกิจโลกและปัจจัยทางการเมือง ยังสร้างความกังวลต่อกิจการอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหาด้านการเมืองเริ่มมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น ส่วนปัจจัยด้านอื่นๆ เช่น ราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ย และอัตราแลกเปลี่ยนยังเคลื่อนไหวอยู่ในระดับที่ไม่กระทบต่อผู้ประกอบการมากนัก" นายอดิศักดิ์ ระบุ

.

ทั้งนี้ผู้ประกอบการได้มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ โดยต้องการให้รัฐบาลเร่งสร้างเสถียรภาพทางการเมืองเพื่อช่วยเสริมสร้างบรรยากาศในการลงทุน, เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเร็ว, การอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ, กระตุ้นการใช้จ่าย การลงทุนเพื่อฟื้นความเชื่อมั่น

.

นอกจากนี้ยังขอให้ภาครัฐสนับสนุนให้ธนาคารของรัฐและเอกชนพิจารณาปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับภาคอุตสาหกรรมให้มากขึ้น เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องของกิจการ สนับสนุนมาตรการทางภาษี เช่น การลดอัตราภาษีนำเข้าวัตถุดิบ การลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล และมาตรการอื่นๆ

.

เช่น การลดเงินสมทบของประกันสังคม เป็นต้น การดูแลเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนอย่าให้มีความผันผวน โดยคงไว้ที่ระดับ 33-35 บาท/ดอลลาร์ เพื่อช่วยอุตสาหกรรมส่งออกและช่วยเหลือภาคแรงงาน โดยมีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาฝีมือแรงงานหรือสวัสดิการต่างๆ