เศรษฐกิจสิงคโปร์อาจเผชิญภาวะตกต่ำหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ จากผลกระทบของการส่งออกที่ซบเซา รัฐบาลต้องผลักดันมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคและภาคธุรกิจมากขึ้น นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์ก นิวส์ คาดเศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาส 4 ปี 2551 อาจจะหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

กระทรวงการค้าของสิงคโปร์คาดการณ์ว่า ตัวเลขผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) อาจหดตัวลงมากสุดที่ 5% ในปีนี้ ซึ่งทางกระทรวงได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจเป็นครั้ง 2 ในเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้คาดว่า เศรษฐกิจจะตกลง 2% โดยในปีที่แล้วเศรษฐกิจสิงคโปร์ขยายตัวในระดับ 1.2% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ดี สิงคโปร์จะรายงานแผนงบประมาณประจำปีในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการเร่งให้ความช่วยเหลือบริษัทต่างๆที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกและการปรับลดการจ้างงาน ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมามีผู้ตกงานกว่า 10,000 คนและภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายอาจทำให้ตัวเลขคนว่างงานเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 30,000 คนในปีนี้ ขณะที่เมื่อวานนี้นักวิเคราะห์จากเครดิต สวิส กรุ๊ป กล่าวผ่านทางบลูมเบิร์กว่า ยอดคนตกงานในสิงคโปร์จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 300,000 คนในปี 2553

ด้านนักวิเคราะห์จากยูไนเต็ด โอเวอร์ซีย์ แบงก์ในสิงคโปร์กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้คือสร้างความมั่นใจว่าประชาชนและภาคธุรกิจจะสามารถรับมือกับภาวะถดถอยได้ท่ามกลางภาวะที่อุปสงค์จากต่างประเทศลดลง

ลิม ฮัง เคียง รมว.คลังกล่าวว่า สิงคโปร์กำลังเผชิญกับวิกฤตการณ์ต่างๆที่รุมเร้าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยซึ่งเรามีมาตรการสกัดกั้นภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจได้ไม่กี่ช่องทาง เนื่องจากภาวะชะลอตัวได้ขยายวงกว้างลุกลามไปสู่ภาคธุรกิจสำคัญที่มีส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการผลิตที่จะเผชิญภาวะชะลอตัวอย่างต่อเนื่องในปีนี้

นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์ก นิวส์ สำรวจความคิดเห็นคาดว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ในไตรมาส 4 ปี 2551 อาจจะหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวส่งผลกระทบต่อดีมานด์ทั้งในและต่างประเทศ โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะลดลง 0.3% จากระดับปีที่แล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 3.8% ซึ่งอาจจะเป็นสถิติการหดตัวเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2541

ทั้งนี้ เกาหลีใต้มีกำหนดเปิดเผยตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจในวันพรุ่งนี้เวลา 8.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นในเกาหลีใต้

ประธานาธิบดีลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้ ซึ่งคะแนนนิยมร่วงลงถึงครึ่งหนึ่งในช่วงปีที่แล้ว ได้ปรับเปลี่ยนทีมงานด้านเศรษฐกิจเพื่อรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลงจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ยุโรป และญี่ปุ่น รวมทั้งอัตราการขยายตัวที่อ่อนตัวลงในจีนว่าจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทเอกชน

ลี ซัง แจ นักเศรษฐศาสตร์ของฮุนได ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ชะลอตัวลงรวดเร็วกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ ผู้บริหารระดับนโยบายจำเป็นต้องใช้มาตรการเชิงรุกมากกว่านี้ เพื่อกระตุ้นความต้องการภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยรองรับผลกระทบจากยอดส่งออกที่ร่วงลง

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วง 2.2% แตะ 1,102.15 จุด เมื่อเวลา 9.55 น.ตามเวลาท้องถิ่นในโซล เกาหลีใต้ได้อัดงบประมาณ 140 ล้านล้านวอน หรือ 1.02 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 15% ของจีดีพี เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ ธนาคารกลางเกาหลีใต้เองก็ได้ลดดอกเบี้ยลงเหลือแค่ 2.5% นับเป็นการลดดอกเบี้ยถึง 5 ครั้งแล้ว ตั้งแต่ช่วงเดือนต.ค.เป็นต้นมา