ธนาคารกลางไต้หวันประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานลง 0.5% สู่ระดับ 1.5% ซึ่งเป็นครั้งที่หกนับตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากยอดส่งออกที่ร่วงลงมากเป็นประวัติการณ์ส่งผลให้เกิดความหวั่นวิกตกว่า เศรษฐกิจของไต้หวันจะเข้าสู่ภาวะถดถอย จีน คาดยอดนำเข้าและส่งออกปีวัวโตต่ำกว่าระดับ 5% เหตุศก.โลกซบเซา

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ยอดส่งออกของไต้หวันร่วงลงอย่างหนักในเดือนที่แล้ว โดยผู้ผลิตของประเทศ อาทิ Nan Ya Plastics Corp. ผู้แปรรูปพลาสติกรายใหญ่สุดของโลกรายงานยอดขายดิ่งลงถึง 57% ในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ อัตราว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น และเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มจะย่ำแย่ลงอีกก็เป็นสาเหตุที่ทำให้แบงก์ชาติไต้หวันตัดสินใจลดดอกเบี้ยในครั้งนี้

ไต้หวันปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2552 ลงเหลือ 2.12% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.08% และคาดว่ามูลค่าส่งออกในปีนี้จะร่วงลง 9.59% เมื่อคิดคำนวณในรูปสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 8 ปี

สำนักงานศุลกากรจีนคาดว่า อัตราการขยายตัวของการนำเข้าและส่งออกในปี 2552 มีแนวโน้มที่จะอยู่ต่ำกว่าระดับ 5% ท่ามกลางสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ตลอดจนความต้องการสินค้าในตลาดและยอดสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศที่หดตัวลง

สำหรับมูลค่าการส่งออกและนำเข้าของจีนในปี 2551 นั้น สำนักงานศุลกากรจีนคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 2.55 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% ส่วนยอดเกินดุลการค้าแตะ 2.90 แสนล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ ราคาวัตถุดิบที่อ่อนตัวและการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตัวจะดึงยอดนำเข้าของจีนลดลงในระยะใกล้นี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

เศรษฐกิจเกาหลีใต้แนวโน้มถดถอย หลังเศรษฐกิจโลกทรุดฉุดยอดส่งออกร่วง

สถาบันพัฒนาเศรษฐกิจเกาหลีใต้ (เคดีไอ) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยเนื่องจากอัตราการอุปโภคบริโภคและยอดส่งออกกำลังร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ส่วนปัจจัยอื่นๆที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจเกาหลีใต้ได้แก่การทรุดตัวลงของผลผลิตอุตสาหกรรม ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค อัตราการลงทุน และยอดส่งออก

ข้อมูลของทางการเกาหลีใต้ระบุว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 14.1% จากปีที่แล้ว ขณะที่ยอดขายสินค้าเพื่อผู้บริโภคร่วงลง 5.9% เนื่องจากผู้บริโภคลดการซื้อสินค้าคงทนที่มีราคาสูงซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรง นอกจากนี้ การลงทุนด้านเครื่องจักรในเดือนพ.ย.ร่วงลง 19.4% จากปีที่แล้ว

ส่วนยอดส่งออกสินค้าของเกาหลีใต้ลดลง 17.4% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ยอดนำเข้าร่วงลง 21.5% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากราคาน้ำมันและวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม เคดีไอกล่าวว่า ตลาดการเงินภายในประเทศเริ่มมีเสถียรภาพบ้างแล้วในขณะนี้ เนื่องจากธุรกรรมการทำสว็อปค่าเงินและธนาคารกลางเกาหลีใต้ลดอัตราดอกเบี้ยลงหลายครั้ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน