เนื้อหาวันที่ : 2008-12-22 11:31:11 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1765 views

DRT สบช่องปี 52 ตลาดวัสดุก่อสร้างกระเตื้อง เปิดแผนเพิ่มตัวแทนขายหวังจับลูกค้ารายย่อย

"กระเบื้องหลังคาตราเพชร" หรือ DRT เปิดแผนรุกตลาดปี 2552 ลุยตั้งศูนย์กระจายสินค้าตามภูมิภาค หวังขยายฐานตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเป็น 700 ราย รับพฤติกรรมลูกค้าเร่งสร้างบ้าน หลังราคาวัสดุก่อสร้างลดลง เร่งโรดโชว์แนะนำสินค้ากับคู่ค้าต่อเนื่อง หวังช่วยดันยอดขาย มั่นใจตลาดส่งออกเติบโตต่อเนื่อง

"กระเบื้องหลังคาตราเพชร" หรือ DRT เปิดแผนรุกตลาดปี 2552 ลุยตั้งศูนย์กระจายสินค้าตามภูมิภาค  หวังขยายฐานตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเป็น 700 ราย รับพฤติกรรมลูกค้าเร่งสร้างบ้าน หลังราคาวัสดุก่อสร้างลดลง เร่งโรดโชว์แนะนำสินค้ากับคู่ค้าต่อเนื่อง หวังช่วยดันยอดขาย มั่นใจตลาดส่งออกเติบโตต่อเนื่องคาดสิ้นปีหน้า ขยับสัดส่วนเป็น 12% ก่อนเพิ่มเป็น 15% ในปี 2553 หลังเริ่มเดินสายการผลิตไม้ฝา-ไม้บอร์ด ที่มีกำลังการผลิต 5 หมื่นตัน พร้อมลุยเจาะตลาดทั้งในและต่างประเทศ 

.

.

นายสาธิต   สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคาและไม้สังเคราะห์ "ตราเพชร" เปิดเผยถึงแนวโน้มของตลาดวัสดุก่อสร้างในปี 2552 ว่า คาดว่าเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากมีปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งภาวการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างหลายรายการได้ปรับราคาลงเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะตลาด เช่น ราคาเหล็ก จากเดิมที่มีราคาอยู่ที่ 30-40 บาทต่อกิโลกรัม ลดเหลือ 20 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งแนวโน้มของราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลง ทำให้กลุ่มลูกค้าที่เคยชะลอการตัดสินใจก่อสร้างที่อยู่อาศัย ในช่วงที่ราคาวัสดุก่อสร้างราคาแพง กลับมาเร่งก่อสร้างในช่วงปีหน้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ในระดับกลางถึงล่าง

.

ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะรุกทำตลาดหลังคาให้มากขึ้น เนื่องจากสินค้าของบริษัทฯ มีกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ที่กลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่าง และเป็นตลาดใหญ่ที่ลูกค้ามีความต้องการซื้อสินค้า การพัฒนาสินค้าและช่องทางการจัดจำหน่ายให้มีประสิทธิภาพ จะช่วยผลักดันให้บริษัทฯ สามารถประสบความสำเร็จในการทำตลาดได้

.

"ในปี 2552 เรายังมองตลาดในแง่บวก จากปัจจัยในเรื่องของราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลงตามแนวโน้มของตลาด แต่ก็ยังมีโอกาสในการขายสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงล่าง ที่มองถึงปัจจัยในเรื่องของราคาวัสดุก่อสร้าง เมื่อราคาปรับตัวลงลูกค้ากลุ่มนี้ที่เคยชะลอการก่อสร้างบ้านก็จะหันกลับมาเร่งสร้างบ้านให้เสร็จในช่วงนี้ เพราะจะประหยัดเงินจากการก่อสร้างบ้านได้เป็นจำนวนมาก" นายสาธิต กล่าว

.

รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด กล่าวว่า จากแนวโน้มของตลาดดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ ได้เตรียมแผนการทำตลาดในปี 2552 ที่จะเร่งขยายฐานตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากเดิมที่มี 600 ราย เพิ่มเป็น 700 ราย โดยเน้นพื้นที่ในต่างจังหวัดที่เจาะลงไปยังตัวแทนขายรายย่อยในระดับตำบล พร้อมกับจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าของบริษัทฯ ที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในการกระจายสินค้าไปยังตัวแทนจำหน่ายได้ทันความต้องการของลูกค้าและยังช่วยลดต้นทุนขนส่งและพื้นที่สต็อกสินค้าให้กับตัวแทนจำหน่ายด้วย ซึ่งคาดว่าจากแผนดังกล่าว จะผลักดันยอดขายพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เพิ่มขึ้น 10-20%

.

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังได้เตรียมงบทำตลาด 5% ของยอดขายรวม เพื่อทำตลาดสินค้าใหม่ๆ ด้วยการโรดโชว์อบรมแนะนำสินค้าให้กับตัวแทนจำหน่าย ช่างรับเหมาก่อสร้างเพื่อให้มีความเข้าใจ รวมถึงการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อวิทยุ สิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ และงบบางส่วนใช้ทำโปรโมชั่นกับตัวแทนจำหน่ายหรือเทรดโปรโมชั่น เพื่อให้คู่ค้าร่วมกันช่วยผลักดันการขายสินค้าในช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้

.

"ในปีหน้า กำลังซื้อของลูกค้าจะลดลงกว่า 50% ตามภาวะปัจจัยทางเศรษฐกิจในประเทศ ทำให้เราต้องเร่งขยายตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้มากขึ้น เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้ารายเล็กที่มีความต้องการก่อสร้างบ้าน พร้อมตั้งศูนย์กระจายสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ที่จะตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้ารายย่อยในแต่ละพื้นที่ได้มากขึ้น ซึ่งช่วยผลักดันยอดขายของเราให้เติบโตได้" นายสาธิต กล่าว

.

รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด DRT กล่าวว่า ส่วนแผนการลงทุนนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตั้งสายการผลิตที่ 9 รองรับการผลิตไม้ฝา ไม้บอร์ด ที่มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 5 หมื่นตันต่อปี โดยแล้วเสร็จและพร้อมเดินเครื่องได้ในปี 2553 ซึ่งสายการผลิตดังกล่าว จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถผลิตสินค้าไม้บอร์ดและไม้ฝา ที่มีความหลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้งาน เพื่อป้อนให้กับลูกค้าทั้งตลาดในประเทศ และตลาดส่งออก ที่ตั้งเป้าว่าสัดส่วนเพิ่มยอดขายจากตลาดส่งออกจากปีนี้อยู่ที่ 10% เพิ่มเป็น 12% ในปี 2552 และเพิ่มเป็น 15% ภายในปี 2553 นี้

.

ส่วนเป้ายอดขายในปี 2552 นั้น บริษัทฯ คาดว่าจะมียอดขายเติบโตใกล้เคียงกับปีนี้ ที่คาดว่าจะเติบโตไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากในปีนี้ มีปัจจัยลบทางด้านการเมืองที่ทำให้ลูกค้าชะลอการก่อสร้างบ้านลง