เนื้อหาวันที่ : 2008-12-01 19:21:17 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1493 views

AMATA ลดเป้ายอดขายที่ดินปีนี้อีกรอบเหลือ 800-900ไร่จากเดิม 1-1.2พันไร่

อมตะคอร์ปอเรชัน ยอมรับยอดการขายที่ดินในปีนี้คงจะได้ที่ 800-900 ไร่เท่านั้น การปรับยอดยอดขายลดลงเป็นครั้งที่ 3 จากเดิมครั้งหลังสุดที่คาดมียอดขายจากการขายที่ดิน 1-1.2 พันไร่ เนื่องจากวิกฤติการเงินโลก การเมืองภายในประเทศ

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน(AMATA) ยอมรับว่ายอดการขายที่ดินในปีนี้คงจะได้ที่ 800-900 ไร่เท่านั้น ซึ่งเป็นการปรับยอดยอดขายลดลงเป็นครั้งที่ 3 จากเดิมครั้งหลังสุดที่คาดว่าจะมียอดขายจากการขายที่ดิน 1-1.2 พันไร่ เนื่องจากวิกฤติการเงินโลก อีกทั้งยังมีผลกระทบจากการเมืองภายในประเทศ ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักตอนนี้ที่ทำให้ลูกค้าต่างก็เลื่อนการลงทุนออกไป

.

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน(AMATA)

.

"ไม่คิดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะยืดยาวมาขนาดนี้ ลูกค้าของเราก็ขอเลื่อนออกไป ซึ่งจะได้เห็นได้ชัดจากช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะลูกค้าญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลูกค้าหลักของเรา"นายวิบูลย์ กล่าว

.

นายวิบูลย์ กล่าวว่า การลดลงของยอดขายส่งผลให้เป้ารายได้ในปีนี้ลดลงไปด้วยเหลือ 2.5-3.0 พันล้านบาท จากเดิม 4.5 พันล้านบาท และจากผลกระทบทำให้ปีหน้าคาดการณ์ได้ยาก แต่บริษัทคงจะต้องปรับตัว ถึงแม้ปัจจุบันบริษัทจะมี Backlog ณ เดือนก.ย.อยู่แล้ว 1 พันล้านบาท แบ่งเป็นอมตะ นคร 300 ล้านบาท และอมตะ ซิติ้ 700 ล้านบาทก็ตาม แต่ Backlog ดังกล่าวคงไม่สามารถช่วยรายได้เพิ่มขึ้นได้ในปีหน้า

.

อย่างไรก็ตาม จะมีการพิจารณาในการปรับลดราคาขายที่ดินทั้งในส่วนของอมตะนคร และอมตะซิตี้ ในปีหน้าประมาณ 10-15% ซึ่งการปรับลดราคาดังกล่าวขึ้นกับคณะกรรมการบริษัทว่าจะอนุมัติหรือไม่ขึ้น คาดว่าจะรู้ผลในเดือน ก.พ.52  โดยขณะนี้ราคาขายที่ดินที่อมตะ นคร อยู่ที่ 3.4-3.5 ล้านบาท/ไร่ อมตะ ซิตี้ อยู่ที่ 1.8-1.9 ล้านบาท/ไร่

.
ขณะเดียวกัน ในปีหน้าบริษัทก็จะใช้งบลงทุนให้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น ถึงแม้จะมีรายได้ในส่วนอื่นเสริมมารองรับก็ตาม
.

นายวิบูลย์ กล่าวต่อว่า ต้องการให้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นวิกฤติทางการเงิน หรือความไม่สงบทางการเมืองยุติ การเมืองหากมีการประท้วงก็ทำได้แต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฏหมาย เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ส่งผลดีต่อประเทศ

.

อย่างไรก็ตาม ส่วนการปันผลคงขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถึงแม้ปัจจุบันจะมีกระแสเงินสด(Cash Flow)ที่เพียงพอก็ตาม

.

"ตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่คนรวยมีทุกข์ ไม่เหมือนปี 40 ที่คนจนมีทุกข์คนรวยก็ช่วยได้ และยังมาเจอปิดสนามบินทำให้เสียหายกันไปใหญ่ ใครจะกล้าเข้ามา ไม่ใช่ว่าเราแย่คนเดียว คนอื่นก็แย่เหมือนกัน ไม่คิดว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะบ้าบอและยาวนานขนาดนี้ แม้จะมีกำลังในมือ ต่อให้เก่งอย่างไรก็คงไม่สามารถต่อกรได้"นายวิบูลย์ กล่าว