"ดร.สมชัย ว่องอรุณ" ประเมินแนวโน้มผลประกอบการ Star ในไตรมาสที่ 4 ยังทิศทางที่ดี เหตุเป็นช่วงส่งมอบสินค้าจากคำสั่งซื้อที่เข้ามาตลอดทั้งปี รวมถึงสินค้าที่ชะลอการส่งมอบมาจากไตรมาสที่ 3 มั่นใจปีนี้วิกฤติการเงินโลกยังไม่ส่งผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์ Star หนุนรายเติบโตต่อเนื่องจากปี 50 ตามเป้าหมาย  ส่วนผลงานไตรมาส 3 ยอมรับออกมาไม่สวย  เนื่องจากยอดขายต่างประเทศลดลง จากการชะลอการส่งมอบสินค้า  ประกอบกับต้นทุนด้านพลังงานพุ่ง กดดันให้มาร์จิ้นต่ำลง    

ดร.สมชัย ว่องอรุณ

รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ

บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน)หรือ STAR

ดร.สมชัย ว่องอรุณ รองประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน)หรือ STAR ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าสุขภัณฑ์แบรนด์ไทยมาตรฐานโลก ภายใต้ชื่อ Star กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 3/2551 ว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 0.15 ล้านบาท ลดลง 6.64 ล้านบาท  หรือ 97.82% จากไตรมาสที่ 3/2550  ที่มีกำไรสุทธิ 6.78 ล้านบาท 

โดยกำไรสุทธิที่ลดลงดังกล่าวมาจากยอดขายที่ลดลง และต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น โดยบริษัทฯ มียอดขาย 55.84 ล้านบาท ลดลง 2.64 ล้านบาท หรือ 4.51% จากยอดขายตลาดต่างประเทศที่ลดลง ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลต่างประเทศ  และต้นทุนการผลิตของค่าแก๊ส  ไฟฟ้า ค่าขนส่ง รวมทั้งค่าใช้จ่ายขายบริหารเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงทำให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ลดลงจาก 46.70% เป็น 41.40% จึงกดดันให้กำไรสุทธิของบริษัทลดลงดังกล่าว

"ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ยอมรับว่าผลประกอบการแม้จะไม่ดีนัก เพราะสินค้าบางส่วนได้ชะลอการส่งมอบไปเป็นไตรมาสที่ 4/51 ทำให้ยอดขายจากตลาดต่างประเทศในไตรมาสที่ 3/2551 หายไป แต่การเลื่อนส่งมอบสินค้าจะทำให้การรับรู้รายได้จะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 4/51 แทน ประกอบกับในไตรมาสสุดท้ายของทุกปีจะเป็นช่วงการส่งมอบสินค้าจากคำสั่งซื้อที่เข้ามาตลอดปี   จึงจะเป็นช่วงที่มีการเติบโตโดดเด่นที่สุด" 

เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสอื่นๆ  ในขณะเดียวกัน STAR  ได้ออกสินค้าใหม่เพิ่มความหลากหลายให้กับสินค้าอีกหลายชุด  ดังนั้นคาดว่าจะทำให้แนวโน้มรายได้ของ STAR ในช่วงปลายปีนี้ปรับเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นกว่าทุกไตรมาสที่ผ่านมา และสนับสนุนให้รายได้ในปี 2551 เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องได้"

สำหรับแนวโน้มตลาดส่งออกสินค้าสุขภัณฑ์  ดร.สมชัยเชื่อว่ายังไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินในสหรัฐอเมริกา ถึงแม้ว่าจะส่งสินค้าไปขายต่างประเทศในสัดส่วนถึง 70% แต่เนื่องจากตลาดหลักของ STAR เป็นตลาดยุโรป ที่ไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง ประกอบกับการทำตลาดของบริษัทฯ ในยุโรปเป็นกลุ่มตลาดเฉพาะ (Nich Market) ปริมาณการส่งออกไม่สูงนักเมื่อเทียบกับมูลค่าของตลาดสุขภัณฑ์โลก โดยปัจจุบันยังมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมที่สั่งสินค้าเพิ่มขึ้น และลูกค้ารายใหม่

แหล่งข่าวรายเดิมกล่าวอีกว่า หากในอนาคตการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจะกระทบถึงตลาดยุโรป บริษัทฯก็มีแผนรองรับปัญหาดังกล่าว โดยจะหันมาขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางขึ้น และเพิ่มความหลากหลายของสินค้าใหม่ให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค และขณะดียวกันก็จะขยายฐานตลาดในประเทศให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น จาก 30% ในปัจจุบัน เป็น 35-40% เพื่อลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดส่งออกแต่เพียงอย่างเดียว

ขณะนี้บริษัทฯ เริ่มเห็นผลของการวางรากฐานตลาดในประเทศชัดเจนแล้ว โดยพบว่าสินค้า Star ได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยดีขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในตลาดระดับกลางบน หลังจากในปีที่ผ่านมาต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้ บริษัทฯ ได้ส่งสินค้าสุขภัณฑ์รูปแบบใหม่ลงวางตลาดอย่างสม่ำเสมอ  และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับร้านค้าประเภทโมเดิร์นเทรดทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ตลอดทั้งปี ซึ่งจะเห็นได้จากในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายจากตลาดในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน