เนื้อหาวันที่ : 2008-11-06 09:15:49 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1396 views

BOI เผย 10 เดือนยอดขอรับส่งเสริมลงทุนเพิ่ม 4.2% แต่มูลค่าลดลง 21%

บีเอไอ เผย 10 เดือนแรกของปีนี้ยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 1,080 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.24% ที่มี 1,036 โครงการ ส่วนมูลค่าเงินลงทุนช่วง 10 เดือนปีนี้ มีมูลค่า 376,900 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21% ซึ่งมีมูลค่า 477,900 ล้านบาท

.

นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ต.ค.51) มียอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนรวม 1,080 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.24% ที่มี 1,036 โครงการ ส่วนมูลค่าเงินลงทุนช่วง 10 เดือนปีนี้ มีมูลค่า 376,900 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 21% ซึ่งมีมูลค่า 477,900 ล้านบาท   

.

"การที่มูลค่าการขอรับส่งเสริมลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีโครงการด้านสาธารณูปโภคและปิโตรเคมีเป็นมูลค่ากว่า 80,000 ล้านบาท" นายโอฬาร กล่าว

 

.

สำหรับกิจการที่ให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยสูงสุดคือ กลุ่มอุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค มีมูลค่าการลงทุนรวม 139,900 ล้านบาท โดยมีโครงการลงทุนที่สำคัญ เช่น กิจการโรงแรม, โรงไฟฟ้า, กิจการขนส่งทางอากาศ เป็นต้น รองลงมาคือ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีมูลค่าการลงทุนรวม 69,300 ล้านบาท

 

.

มีโครงการสำคัญ คือการผลิตแผ่นเวเฟอร์ สำหรับเซลล์แสงอาทิตย์, โครงการผลิตหลอด LED เป็นต้น และกลุ่มอุตสาหกรรมโลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง  มีมูลค่าการลงทุนรวม 56,200 ล้านบาท มีโครงการสำคัญ คือ การผลิตรถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์, โครงการผลิตเกียร์รถขับเคลื่อน 4 ล้อ, โครงการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และ Mould & Die ที่มีกว่า 20 โครงการ เป็นต้น

 

.
บอร์ดบีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุนล็อตใหญ่มูลค่ากว่า 3.6 หมื่นล้านบาท

ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) มีมติอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนมีมูลค่ารวม 36,496 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัท การ์เดียนอินดัสทรีส์ คอร์ป จำกัด ขยายกิจการผลิตกระจกแผ่นเรียบและกระจกเงา มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,560 ล้านบาท ผลิตเพื่อป้อนอุตสาหกรรมทำเฟอร์นิเจอร์และการก่อสร้างเป็นหลัก,

 

.

บมจ.ไทยน็อคซ์ สเตนเลส(INOX) ขยายกิจการผลิตเหล็กแผ่นไร้สนิมรีดเย็นชนิดพื้นผิวมันเงา มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 4,604 ล้านบาท, บริษัท ไอชิน เอไอ(ประเทศไทย) จำกัด ขยายกิจการผลิตชุดขับเคลื่อน 4 ล้อ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,810.3 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะผลิตป้อนโครงการประกอบรถยนต์ของ บริษัท โตโยต้ามอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด,

 

.

บริษัท สยาม เอ็น เอส สเตียริ่ง ซิสเต็มส์ จำกัด ขยายกิจการผลิตชิ้นส่วนของแกนพวงมาลัยรถ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,092 ล้านบาท, บริษัท มิตซูบิชิ เทอร์โบชาร์เจอร์ เอเซีย จำกัด ผลิต TURBOCHARGER, CARTRIDGE , BEARING HOUSING  มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 6,764 ล้านบาท, บริษัท แดธสเปเปอร์ จำกัด ผลิตกระดาษหนังสือพิมพ์(NEWSPRINT) มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,320 ล้านบาท,

 

.

บริษัท ไทยแอร์เอเซีย จำกัด ขยายกิจการขนส่งทางอากาศ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,778.1 ล้านบาท, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ขยายกิจการขนส่งทางอากาศ มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,209.9 ล้านบาท, บริษัท เน็กซ์ แคน อินโนเวชั่น จำกัด ผลิตกระป๋อง มูลค่าเงินลงทุน 1,650 ล้านบาท, บริษัท ไทย เอ บี เอส จำกัด ขยายกิจการผลิตเม็ดพลาสติก ABS/SAN  มูลค่าเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,380 ล้านบาท,

 

.

บริษัท คุณนที จำกัด ขยายกิจการขนส่งทางเรือ มูลค่าเงินลงทุน 1,254 ล้านบาท, นายณรงค์ บุณยสงวน ดำเนินกิจการขนส่งทางเรือ มูลค่าเงินลงทุน 3,497.4 ล้านบาท, บริษัท พีทีที ยูทิลิตี้ จำกัด ขยายกิจการผลิตไอน้ำ น้ำร้อน และน้ำปราศจากแร่ธาตุ  มูลค่าเงินลงทุน 2,360 ล้านบาท และบริษัท ลัคกี้ สปินนิ่ง จำกัด ขยายกิจการผลิตเส้นด้าย มูลค่าเงินลงทุน 2,216.3 ล้านบาท

 

.

ด้าน พล.ต.อ. ประชา พรหมนอก รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะประธานบอร์ดบีโอไอ กล่าวว่า  ขณะนี้มีภาคเอกชนได้รับการส่งเสริมการลงทุนแล้ว 219 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุนประมาณ 106,118 ล้านบาท