เนื้อหาวันที่ : 2008-10-20 15:08:17 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1076 views

คลัง แนะธปท.กดบาทอ่อนดันส่งออก-ขยายเวลาคุ้มครองเงินฝาก 100%

รมว.คลัง เผยเศรษฐกิจปี 52 อาจขยายตัวได้ไม่ถึง 4% รัฐบาลต้องเร่งให้เกิดความเชื่อมั่นกับประชาชน และนักลงทุน คาดปี 52 ส่งออกหดเหลือ 10% จากปี 51 ที่ขยายตัวได้ถึง 25% กระทบ จ้างงาน

นายสุชาติ ธาดาดำรงเวช รมว.คลัง มองเศรษฐกิจปี 52 อาจขยายตัวได้ไม่ถึง 4% ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งให้เกิดความเชื่อมั่นกับประชาชน และนักลงทุน โดยดูแลทั้งภาค Real Sector และ ภาคการเงิน  ทั้งนี้คาดว่าปี 52 มูลค่าการส่งออกจะขยายตัวลดเหลือเพียง 10% จากปี 51 ที่ขยายตัวได้ถึง 25% จึงเป็นห่วงภาคการจ้างงานที่อาจได้รับกระทบ

.

รม;.คลัง เห็นว่า เงินบาทควรอ่อนตัวค่าลง 5% จากมูลค่าที่แท้จริง (under value) เพื่อทำให้มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นได้อีก 10%  ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยไม่ควรอยู่ระดับสูง นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ควรใช้นโยบายแลกเปลี่ยนอย่างมีเป้าหมาย

.

"จีนก็มีนโยบายให้ค่าเงินหยวน under value ซึ่งเห็นว่า ไทยก็น่าจะนำนโยบายนี้มาใช้ได้บ้าง แต่เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงข้อเสนอเท่านั้น ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องควรนำไปพิจารณา" รมว.คลัง กล่าว

.

ส่วนการดูแลภาคการเงิน นายสุชาติ เห็นว่า รัฐบาลต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ฝากเงินท่ามกลางปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินในต่างประเทศ จึงมีแนวคิดที่จะเสนอให้ขยายเวลาคุ้มครองเงินฝาก 100% จากเดิม 1 ปีตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.สถาบันประกันเงินฝาก ให้เป็น 3 ปี โดยเรื่องนี้จะนำไปหารือกับนายโอฬาร ไชยประวัติ  รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเป็นมาตรการการดูแลสถาบันการเงินและสภาพคล่องในระบบ

.

รวมทั้ง จะเสนอให้มีระบบการรับประกันการกู้เงินระหว่างธนาคาร(Interbank) เพื่อไม่ให้เกิดความกังวลของการกู้เงินระหว่างธนาคารขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รวมทั้ง ควรจะมีการชะลอการใช้หลักเกณฑ์กำกับดูแลตามมาตรฐาน Basel II ที่จะเริ่มมีผลในเดือนธ.ค.นี้ เนื่องจากเห็๋นว่าในต่างประเทศยังมีปัญหาในเรื่องการเงิน และบางประเทศก็ยังไมได้เริ่มใช้มาตรฐานดังกล่าว

.

นายสุชาติ กล่าวในงานสัมนาเรื่อง "Hamburger Crisis วิกฤตหรือโอกาส"ว่า จากปัญหาวิกฤติการเงินของโลกย่อมส่งผลต่อไทยที่มีความเชื่อมโยงต่อตลาดโลก ดังนั้น การที่ตลาดหุ้นทั่วโลก ตลาดภาคการเงินโลกลดลง ทำให้มูลค่าทรัพย์สินปรับลดไปแล้ว 50% ดังนั้นก็ย่อมส่งผลให้มูลค่าตลาดหุ้นไทยปรับลดตามไปด้วย

.

ทั้งนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ให้คนมีงานทำ สร้างผลผลิต ผ่านกลไก 3 ด้าน คือ การใช้นโยบายการคลัง โดยการเร่งรัดการใช้จ่ายภาครัฐ การลดภาษี นโยบายการเงินโดยการลดดอกเบี้ย การเพิ่มสภาพคล้องในระบบ และนโยบายสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย  

.

รัฐบาลต้องดูแลสภาพคล่องให้มีเพียงพอ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ฝากเงินไม่ต้องมีความกังวล โดยรัฐบาลพร้อมที่จะเข้ารับประกันเงินฝากของทุกคน เข้าไปดูแลธนาคารพาณิชย์ไม่ให้เกิดความเสียหายและสร้างความตื่นตกใจไม่ให้เกิดขึ้น เช่นเดียวกับประเทศต่างๆได้ออกมาคุ้มครองเงินฝากของผู้ฝากเงิน ซึ่งในระบบธนาคารพาณิชย์มีกรอบความคิดที่จะสร้างความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นโดยขยายระยะเวลาเงินฝาก

.

"ในเมื่อบ่อน้ำในโลกมีปัญหา น้ำในบ่อของไทยก็ต้องแห้งตามไปด้วย ดังนั้นเมื่อไทยมีการเชื่อมโยงกับตลาดโลก ก็ย่อมได้รับผลกระทบตามไปด้วย วิธีการแก้ไขคือต้องปรับเพิ่มสภาพคล่องในระบบ มีการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น รัฐบาลก็มีหน้าที่ดูแลภาคเศรษฐกิจ เป็นห่วงเรื่องการจ้างงาน ต้องให้คนมีงานทำ มีการสร้างผลผลิต เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในระบบ"รมว.คลังกล่าว