เนื้อหาวันที่ : 2008-10-01 09:48:55 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1235 views

ประธานส.อ.ท.เสนอรัฐบาลเร่งทำแผนรับมือส่งออกทรุดจากวิกฤติสหรัฐ

ประธาน ส.อ.ท. เรียกร้อง นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านเศรษฐกิจทำงานเป็นทีมกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมรับมือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า แม้ผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมขณะนี้ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นเลิกจ้าง ยอดส่งออกลดลง10% กระทบจีดีพีแน่

ประธาน ส.อ.ท. เรียกร้อง นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านเศรษฐกิจทำงานเป็นทีมกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมรับมือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า แม้ผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมขณะนี้ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นเลิกจ้าง ยอดส่งออกลดลง10% กระทบจีดีพีแน่

.

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)

.

นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แม้แผนการกู้วิกฤติสถาบันการเงินของสหรัฐที่ไม่ผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรส 7แสนล้านดอลลาร์ แต่ทางการสหรัฐจะมีการนำเสนอแผนช่วยเหลือสถาบันการเงินครั้งใหม่ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 2 ต.ค.นี้ และเชื่อว่าน่าจะจะผ่านการเห็นชอบ แต่ถ้าหากแผนฟื้นฟูภาคการเงินของสหรัฐ ไม่ผ่านการอนุมัติจากสภาคองเกรสอีก จะเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงว่าจะเกิดผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจสหรัฐโดยตรง และลุกลามต่อไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

.

และผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐตกต่ำ รวมกับเศรษฐกิจยุโรปและญี่ปุ่น ขณะนี้ มีแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะชะลอตัวและตกต่ำต่อเนื่องถึงปีหน้า จะส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทย ที่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าลดลง เนื่องจากประชาชนในประเทศที่ประสบปัญหาซับไพร์มจะลดการใช้จ่ายสิ่งฟุ่มเฟือย นอกจากนี้ปัญหาที่เกิดขึ้น จะทำให้คู่แข่งทางการค้าที่สำคัญของไทย คือ จีน ปรับลดราคาสินค้า ทำให้การแข่งขันดุเดือดยิ่งขึ้น

.

"สภาพการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศปีหน้ารุนแรงและแข่งขันค่อนข้างสูง การส่งออกของไทยไม่ได้ง่ายอีกต่อไป ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องหารือกับภาคเอกชนที่อยู่ในกลุ่มสินค้าที่ส่งไปขาย 3 ประเทศ  ประชุมร่วมกันเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ ....อาจต้องวิเคราะห์รายกลุ่มสินค้าที่ส่งไปขาย 3 ประเทศหลัก เช่น เสื้อผ้า อัญมณี อิเล็กทรอนิกส์ โดยเสื้อผ้าจีนผ่านพ้นช่วงเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกแล้วก็จะเริ่มกลับมาแข่งขันในตลาดโลกต่อ" นายสันติ กล่าว

.

ประธาน ส.อ.ท. กล่าวเรียกร้องให้ นายโอฬาร ไชยประวัติ รองนายกรัฐมนตรีดูแลด้านเศรษฐกิจทำงานเป็นทีมกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เพื่อเตรียมรับมือผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า แม้ผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมขณะนี้ไม่ได้รุนแรงถึงขั้นเลิกจ้าง แต่ต้องติดตามคำสั่งซื้อปีหน้าว่าจะลดลงมากน้อยแค่ไหนเพราะหากยอดส่งออกลดลงเพียง10% คิดเป็นเงินถึง 4-5 แสนล้านบาท จากยอดส่งออก 6-7 ล้านล้าน/ปี หรือ70% ของจีดีพี